ASTVผู้จัดการรายวัน - ธนาคารออมสิน เผยผลประกอบการ 8 เดือน กำไรสุทธิ 9.8 พันล้านบาท รับผลการขยายสินเชื่อ ส่วนยอดNPLs เหลือ 3.07% ผอ.ออมสิน เผยภารกิจยังมุ่งเน้นการออม การกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและผู้ประกอบการรายย่อยเป็นสำคัญ พร้อมใช้ระบบ Core Banking พัฒนาระบบการให้บริการอย่างมีคุณภาพ ถูกต้องและรวดเร็ว
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลประกอบการธนาคารในช่วง 8 เดือนแรกปี 2552 ว่า ธนาคาร มีกำไรสุทธิ 9.89 พันล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1 พันล้านบาท ซึ่งมีส่วนสำคัญมาจากการปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงการปรับปรุงเงื่อนไข หลักเกณฑ์ สินเชื่อ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อันเป็นกลไกหนึ่งที่ธนาคารดำเนินการเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
โดยในช่วงระยะเวลา 8 เดือน สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้รวมทั้งสิ้นกว่า 2.52 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเม็ดเงินสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากของประเทศกว่า 1.8 แสนล้านบาท ได้แก่ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อธุรกิจห้องแถว สินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ (ข้าราชการพลเรือน, ครู, ทหาร, เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล และอบต.) สินเชื่อเคหะ และ สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก เป็นต้น ทั้งนี้ สินเชื่อรายย่อยส่วนหนึ่งจะเป็นไปตามนโยบายเร่งรัดการปล่อยสินเชื่อของรัฐบาลตามโครงการ Fast Track ด้วย
ขณะเดียวกัน ธนาคารมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม และเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ อาทิ จัดทีมงานเฉพาะกิจสำหรับแก้ไขหนี้ด้อยคุณภาพ การเร่งรัดติดตามที่เป็นระบบมากขึ้น เร่งบริหารทรัพย์สินขายทอดตลาดให้รวดเร็วขึ้น เป็นต้น ทำให้ยอดหนี้ค้างชำระลดลงทุกประเภทสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก และสินเชื่อเคหะ โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2552 มีอัตราหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพียง 3.07% ของสินเชื่อรวม ลดลงจาก 3.31% ณ สิ้นปี 2551
“ธนาคารออมสิน ไม่ได้หยุดนิ่งต่อการปรับปรุงบริการและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนไม่ว่าเรื่องการปรับเงื่อนไขการกู้เงิน เพราะตระหนักและสำนึกเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนต้องการพึ่งพาแหล่งทุนที่มีต้นทุนต่ำสำหรับการหมุนเวียนหรือลงทุนกรณีที่เป็นผู้ว่างเว้นจากงานประจำ หรือเป็นคนที่เพิ่งจบใหม่แต่ต้องการประกอบธุรกิจเป็นของตนเอง โดยการปล่อยสินเชื่อของธนาคารออมสินจะเริ่มจากการแนะนำลูกค้าให้คำนึงถึงการใช้เงินอย่างมีคุณค่า การแนะนำการบริหารจัดการ การประกอบอาชีพ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้” นายเลอศักดิ์กล่าว
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ด้านฐานะการเงินที่สำคัญ ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 9.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.7 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 จำนวน 1.11 แสนล้านบาท ขณะที่ ยอดเงินฝากรวม ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 7.83 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิจากสิ้นปี 2551 จำนวน 8 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงเหลือ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2552 อยู่ที่ 6.48 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 จำนวน 1.02 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ภารกิจของธนาคารออมสินยังคงมุ่งส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินสำหรับประชาชน ตลอดจนการขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มทุกระดับ พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน เงินฝาก และสินเชื่อ เพื่อรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล พร้อมกับการพัฒนาระบบ Core Banking ซึ่งจะทำให้คุณภาพการให้บริการด้านเงินฝากครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป และจะเชื่อมต่อกับระบบสินเชื่อต่อไปในต้นปี 2553 ซึ่งจะทำให้การให้บริการทุกด้านของธนาคารออมสินมีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ผลประกอบการธนาคารออมสินช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิกว่า 7.6 พันล้านบาทนั้น เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสิน มีมตินำส่งเงินรายได้แผ่นดินประจำปี 2552 งวดที่ 1 (ระหว่างกาล) ให้แก่กระทรวงการคลังในอัตรา 45% ของกำไรสุทธิ ซึ่งคิดเป็นเงินจำนวน 3.4 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ยังคงมีอัตราการขยายตัวในทิศทางที่ดีต่อเนื่องแทบทุกด้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหารและพนักงานกว่า 1 หมื่นคน ที่นำนโยบายของธนาคารฯ ทั้งในเชิงสังคมและธุรกิจไปปรับใช้ในการทำงานได้อย่างสมดุล ควบคู่กับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานคู่กับการเรียนรู้ในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลการดำเนินงานข้างต้นไม่เพียงสะท้อนฐานะทางการเงินที่มั่นคง แต่ยังแสดงถึงศักยภาพที่โดดเด่นด้วยบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล ควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ จึงเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานทั้งปี 2552 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
“ขณะเดียวกันในปีนี้ธนาคารออมสินได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นจำนวน 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลการจัดการองค์กรดีเด่น รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น และรางวัลบริการดีเด่น (ธนาคารประชาชน) เป็นสิ่งที่การันตีการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทและภารกิจทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีเครือข่ายสาขาและหน่วยให้บริการกว่า 800 แห่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ซึ่งหลักใหญ่ยังคงเป็นกิจกรรมตอบแทนกำไรคืนสู่สังคม (CSR) ผ่านโครงการมากมายอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปีนี้ โดยมุ่งเน้นการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้อยู่เคียงคู่กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน” นายเลอศักดิ์กล่าว
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยผลประกอบการธนาคารในช่วง 8 เดือนแรกปี 2552 ว่า ธนาคาร มีกำไรสุทธิ 9.89 พันล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 1 พันล้านบาท ซึ่งมีส่วนสำคัญมาจากการปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงการปรับปรุงเงื่อนไข หลักเกณฑ์ สินเชื่อ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น อันเป็นกลไกหนึ่งที่ธนาคารดำเนินการเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
โดยในช่วงระยะเวลา 8 เดือน สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้รวมทั้งสิ้นกว่า 2.52 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเม็ดเงินสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากของประเทศกว่า 1.8 แสนล้านบาท ได้แก่ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อธุรกิจห้องแถว สินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ (ข้าราชการพลเรือน, ครู, ทหาร, เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล และอบต.) สินเชื่อเคหะ และ สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก เป็นต้น ทั้งนี้ สินเชื่อรายย่อยส่วนหนึ่งจะเป็นไปตามนโยบายเร่งรัดการปล่อยสินเชื่อของรัฐบาลตามโครงการ Fast Track ด้วย
ขณะเดียวกัน ธนาคารมุ่งให้ความสำคัญกับการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างรัดกุมและผ่อนปรนตามความเหมาะสม และเน้นประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ อาทิ จัดทีมงานเฉพาะกิจสำหรับแก้ไขหนี้ด้อยคุณภาพ การเร่งรัดติดตามที่เป็นระบบมากขึ้น เร่งบริหารทรัพย์สินขายทอดตลาดให้รวดเร็วขึ้น เป็นต้น ทำให้ยอดหนี้ค้างชำระลดลงทุกประเภทสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพ สินเชื่อธุรกิจขนาดเล็ก และสินเชื่อเคหะ โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2552 มีอัตราหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพียง 3.07% ของสินเชื่อรวม ลดลงจาก 3.31% ณ สิ้นปี 2551
“ธนาคารออมสิน ไม่ได้หยุดนิ่งต่อการปรับปรุงบริการและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนไม่ว่าเรื่องการปรับเงื่อนไขการกู้เงิน เพราะตระหนักและสำนึกเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนต้องการพึ่งพาแหล่งทุนที่มีต้นทุนต่ำสำหรับการหมุนเวียนหรือลงทุนกรณีที่เป็นผู้ว่างเว้นจากงานประจำ หรือเป็นคนที่เพิ่งจบใหม่แต่ต้องการประกอบธุรกิจเป็นของตนเอง โดยการปล่อยสินเชื่อของธนาคารออมสินจะเริ่มจากการแนะนำลูกค้าให้คำนึงถึงการใช้เงินอย่างมีคุณค่า การแนะนำการบริหารจัดการ การประกอบอาชีพ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้” นายเลอศักดิ์กล่าว
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ด้านฐานะการเงินที่สำคัญ ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 9.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.7 หมื่นล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 จำนวน 1.11 แสนล้านบาท ขณะที่ ยอดเงินฝากรวม ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 7.83 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นสุทธิจากสิ้นปี 2551 จำนวน 8 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงเหลือ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2552 อยู่ที่ 6.48 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2551 จำนวน 1.02 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ภารกิจของธนาคารออมสินยังคงมุ่งส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินสำหรับประชาชน ตลอดจนการขยายธุรกรรมทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่มทุกระดับ พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน เงินฝาก และสินเชื่อ เพื่อรองรับความต้องการเข้าถึงแหล่งทุนตามนโยบายรัฐบาล พร้อมกับการพัฒนาระบบ Core Banking ซึ่งจะทำให้คุณภาพการให้บริการด้านเงินฝากครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป และจะเชื่อมต่อกับระบบสินเชื่อต่อไปในต้นปี 2553 ซึ่งจะทำให้การให้บริการทุกด้านของธนาคารออมสินมีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ผลประกอบการธนาคารออมสินช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิกว่า 7.6 พันล้านบาทนั้น เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสิน มีมตินำส่งเงินรายได้แผ่นดินประจำปี 2552 งวดที่ 1 (ระหว่างกาล) ให้แก่กระทรวงการคลังในอัตรา 45% ของกำไรสุทธิ ซึ่งคิดเป็นเงินจำนวน 3.4 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ยังคงมีอัตราการขยายตัวในทิศทางที่ดีต่อเนื่องแทบทุกด้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการความร่วมมือร่วมใจของผู้บริหารและพนักงานกว่า 1 หมื่นคน ที่นำนโยบายของธนาคารฯ ทั้งในเชิงสังคมและธุรกิจไปปรับใช้ในการทำงานได้อย่างสมดุล ควบคู่กับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานคู่กับการเรียนรู้ในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากผลการดำเนินงานข้างต้นไม่เพียงสะท้อนฐานะทางการเงินที่มั่นคง แต่ยังแสดงถึงศักยภาพที่โดดเด่นด้วยบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล ควบคู่กับการพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ จึงเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานทั้งปี 2552 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
“ขณะเดียวกันในปีนี้ธนาคารออมสินได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นจำนวน 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลการจัดการองค์กรดีเด่น รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น และรางวัลบริการดีเด่น (ธนาคารประชาชน) เป็นสิ่งที่การันตีการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทและภารกิจทั้งหมดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีเครือข่ายสาขาและหน่วยให้บริการกว่า 800 แห่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ซึ่งหลักใหญ่ยังคงเป็นกิจกรรมตอบแทนกำไรคืนสู่สังคม (CSR) ผ่านโครงการมากมายอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปีนี้ โดยมุ่งเน้นการรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้อยู่เคียงคู่กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน” นายเลอศักดิ์กล่าว