คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้ออกแถลงการณ์ วานนี้ (13ก.ย.) เรียกร้องนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน โดยมีใจความว่า
ตามที่ปรากฏว่ามีสถานการณ์ ที่มีความสำคัญต่อการเมืองไทย อันมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และความเชื่อมั่นต่อหลักนิติรัฐ ในการบริหารประเทศของรัฐบาล ทั้งกรณีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 การขัดขวาง หรือไม่ปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ครป.ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีดังนี้
1. กรณีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งตัวนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น ครป.เห็นว่าตลอดการใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฏว่า รัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ สร้างความแตกแยกในสังคมไทยแต่อย่างใด
ประการสำคัญ รัฐธรรมนูญ ปี 50 ได้สร้างบรรทัดฐาน กลไกการตรวจสอบนักการเมืองอย่างเข้มข้น ปราบปรามนักการเมืองชั่วโกงชาติ ให้ถูกลงโทษอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังคุ้มครองใช้สิทธิ เสรีภาพของประชาชน และมีบทบัญญัติรับรองในการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนเพื่อใช้ในการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างชัดเจน ดังนั้นการเสนอให้มีแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยนักการเมืองก็เพียงเพื่อทำลายระบบการตรวจสอบของนักการเมือง ครป.จึงขอคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด
2. กรณีปรากฏว่ามีนักการเมืองและรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลบางคน ไม่นำพาต่อการปฏิบัติตามนโยบาย หรือ ขัดขวางการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ให้เป็นไปตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีนั้น ครป.ขอเสนอให้ นายกรัฐมนตรีกล้าใช้อำนาจในการบริหารประเทศ เพื่อปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ที่เป็นปัญหาโดยเร่งด่วน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว รัฐมนตรีคนไหนไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขวิกฤตของประเทศและประชาชน
ทั้งนี้เพราะ ครม.บางคนที่เป็นอยู่ไม่เพียงแต่ไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ แต่ยังปรากฏว่ามีพฤติกรรมการทุจริต คอร์รัปชั่น ซื้อขายตำแหน่งผลประโยชน์ในหลายกระทรวง ดังนั้น จึงเป็นอำนาจและความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว
3. กรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย. นี้ นั้น ครป.เห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องสืบเนื่องของกลุ่มคนบางคนที่ไม่ยอมรับกติกา ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และพยายามใช้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนบิดเบือนข้อเท็จจริง นำไปใช้สร้างความวุ่นวายในประเทศ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อปกป้องประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตรง ครป. จึงเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ให้เปิดเผยข้อมูลอันเป็นที่มาของการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สาธารณชนได้รับทราบข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งสร้างมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะบุคคลสำคัญ เช่น สถาบันองคมนตรีและตุลาการศาลยุติธรรม ไม่ให้ถูกคุกคามเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ครป.จะได้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของรัฐบาลและตรวจสอบพฤติกรรมของนักการเมือง เพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจต่อสังคมในหลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นธรรมต่อไป
**มาร์คอ้างแก้รธน.ไม่เพิ่มขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่า ในวันพุธ-พฤหัสบดี ที่จะถึงนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้นัดประชุมร่วมของรัฐสภา ตามที่รัฐบาลได้ร้องขอ เพื่อเปิดโอกาสให้ทางสมาชิกรัฐสภา ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะเป็นคนที่เสนอว่า ควรจะแก้ 6 ข้อ ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐสภา ได้เสนอมาในเบื้องต้นหรือจะเป็นการที่จะตกลงจะไปแก้กันในบางประเด็นที่ทุกคนเห็นร่วมกันก่อน เช่น บางคนเขาบอกมี 2 ประเด็นที่เห็นร่วมกันแล้ว หรือจะเป็นการที่จะตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมาหรือจะเป็นวิธีการอื่นใดก็ตาม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่จะเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ เพราะได้ย้ำมาโดยตลอดว่า รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดินให้ความสำคัญกับกระบวนการของรัฐสภา และให้ความสำคัญกับเสียงของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม และจะพยายามไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มเติมขึ้นมา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากจะฝากกับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนไว้คือว่าการรับข่าวสารต่าง ๆ โดยเฉพาะการเผยแพร่ข่าวสารต่อ อยากให้ระมัดระวัง เพราะว่าบรรยากาศของบ้านเมืองนั้น แน่นอนอาจ จะมีความแตกต่าง ความขัดแย้งที่มีอยู่เป็นเรื่องปกติของสังคมของประชาธิปไตย แต่เราก็สามารถที่จะมาช่วยกันบริหารจัดการได้ ภายใต้กรอบกติกาของประชาธิปไตย แล้วก็ช่วยกันเอื้ออำนวยให้การทำงานสำหรับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจในขณะนี้เดินหน้าต่อไปได้
ตามที่ปรากฏว่ามีสถานการณ์ ที่มีความสำคัญต่อการเมืองไทย อันมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และความเชื่อมั่นต่อหลักนิติรัฐ ในการบริหารประเทศของรัฐบาล ทั้งกรณีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 การขัดขวาง หรือไม่ปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ครป.ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีดังนี้
1. กรณีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 โดย ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา รวมทั้งตัวนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น ครป.เห็นว่าตลอดการใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฏว่า รัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ สร้างความแตกแยกในสังคมไทยแต่อย่างใด
ประการสำคัญ รัฐธรรมนูญ ปี 50 ได้สร้างบรรทัดฐาน กลไกการตรวจสอบนักการเมืองอย่างเข้มข้น ปราบปรามนักการเมืองชั่วโกงชาติ ให้ถูกลงโทษอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันยังคุ้มครองใช้สิทธิ เสรีภาพของประชาชน และมีบทบัญญัติรับรองในการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนเพื่อใช้ในการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างชัดเจน ดังนั้นการเสนอให้มีแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยนักการเมืองก็เพียงเพื่อทำลายระบบการตรวจสอบของนักการเมือง ครป.จึงขอคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด
2. กรณีปรากฏว่ามีนักการเมืองและรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลบางคน ไม่นำพาต่อการปฏิบัติตามนโยบาย หรือ ขัดขวางการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ให้เป็นไปตามนโยบายของคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีนั้น ครป.ขอเสนอให้ นายกรัฐมนตรีกล้าใช้อำนาจในการบริหารประเทศ เพื่อปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ที่เป็นปัญหาโดยเร่งด่วน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว รัฐมนตรีคนไหนไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขวิกฤตของประเทศและประชาชน
ทั้งนี้เพราะ ครม.บางคนที่เป็นอยู่ไม่เพียงแต่ไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ แต่ยังปรากฏว่ามีพฤติกรรมการทุจริต คอร์รัปชั่น ซื้อขายตำแหน่งผลประโยชน์ในหลายกระทรวง ดังนั้น จึงเป็นอำนาจและความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว
3. กรณีการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ย. นี้ นั้น ครป.เห็นว่ากรณีนี้เป็นเรื่องสืบเนื่องของกลุ่มคนบางคนที่ไม่ยอมรับกติกา ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม และพยายามใช้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนบิดเบือนข้อเท็จจริง นำไปใช้สร้างความวุ่นวายในประเทศ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อปกป้องประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตรง ครป. จึงเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ให้เปิดเผยข้อมูลอันเป็นที่มาของการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สาธารณชนได้รับทราบข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งสร้างมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะบุคคลสำคัญ เช่น สถาบันองคมนตรีและตุลาการศาลยุติธรรม ไม่ให้ถูกคุกคามเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ครป.จะได้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของรัฐบาลและตรวจสอบพฤติกรรมของนักการเมือง เพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจต่อสังคมในหลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้องเป็นธรรมต่อไป
**มาร์คอ้างแก้รธน.ไม่เพิ่มขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ว่า ในวันพุธ-พฤหัสบดี ที่จะถึงนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้นัดประชุมร่วมของรัฐสภา ตามที่รัฐบาลได้ร้องขอ เพื่อเปิดโอกาสให้ทางสมาชิกรัฐสภา ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะเป็นคนที่เสนอว่า ควรจะแก้ 6 ข้อ ตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐสภา ได้เสนอมาในเบื้องต้นหรือจะเป็นการที่จะตกลงจะไปแก้กันในบางประเด็นที่ทุกคนเห็นร่วมกันก่อน เช่น บางคนเขาบอกมี 2 ประเด็นที่เห็นร่วมกันแล้ว หรือจะเป็นการที่จะตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมาหรือจะเป็นวิธีการอื่นใดก็ตาม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่จะเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ เพราะได้ย้ำมาโดยตลอดว่า รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดินให้ความสำคัญกับกระบวนการของรัฐสภา และให้ความสำคัญกับเสียงของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม และจะพยายามไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งเพิ่มเติมขึ้นมา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากจะฝากกับพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนไว้คือว่าการรับข่าวสารต่าง ๆ โดยเฉพาะการเผยแพร่ข่าวสารต่อ อยากให้ระมัดระวัง เพราะว่าบรรยากาศของบ้านเมืองนั้น แน่นอนอาจ จะมีความแตกต่าง ความขัดแย้งที่มีอยู่เป็นเรื่องปกติของสังคมของประชาธิปไตย แต่เราก็สามารถที่จะมาช่วยกันบริหารจัดการได้ ภายใต้กรอบกติกาของประชาธิปไตย แล้วก็ช่วยกันเอื้ออำนวยให้การทำงานสำหรับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจในขณะนี้เดินหน้าต่อไปได้
