xs
xsm
sm
md
lg

3คดีจ่อคอหอยพัชรวาทเหตุถูกปลดพ้นผบ.ตร.จี้ตั้งกก.ฟัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เลขาส่วนตัวนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการตำรวจแห่งชาติ (อนุก.ตร) มีมติชี้มูลคดีการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ โดยมี 9 นายพลเกี่ยวข้องว่า ค่อนข้างพอใจกับการทำงานของอนุก.ตร เพราะ ถือว่า เป็นความพยายามกู้เกียรติยศศีกดิ์ศรี ให้ตำรวจ ซึ่งเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง เป็นเรื่องคาใจและตำรวจส่วนใหญ่ก็อึดอัดมาตลอด คนที่มีความตั้งใจทำงานเสียสละเพื่อสังคมเพื่อประเทศ ก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการโยกย้าย ดังนั้นเมื่ออนุ ก.ตร. สรุปออกมาอย่างนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณของ พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯควรมีการตั้งคณะกรรมกา สอบต่อหรือไม่ นายศิริโชคกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้มีการวิเคราะห์ว่ากรณีการซื้อขาย ตำแหน่งมีมูล จึงเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจที่จะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ตามกฎหมาย และคณะกรรมการสืบสวนก็มีอำนาจหน้าที่ในการเรียกพยานทั้งในส่วน ที่เป็นเอกสารและบุคคล มาให้ข้อมูล แต่ส่วนตนถ้าคณะกรรการต้องการให้ข้อมูล ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูล แต่ส่วนใหญ่ได้ให้ข้อมูลกับอนุก.ตร. ไปหมดแล้ว อย่างไรก้ตาม ตอนนี้เป็นการพิสูจน์ได้ว่า อย่างน้อยการโยกย้ายในปี 2552 ที่กำลังจะมีขึ้น ก็มีทิศทางไปในทางที่โปร่งใสและเป็นธรรม ยอมรับว่าทำให้ตำรวจชั้นผู้น้อยมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น
ส่วนที่มีการมองกันว่าเมื่อรัฐบาลจัดการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พ้นตทางไปแล้วเรื่องจะเงียบไปนั้น นายศิริรโชคกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ เพราะต้องทำตามกฎหมาย เมื่อ อนุก.ตร.สรุปว่ามีมูลความจริงก็ต้องเร่งหาคนผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นการมองว่าการเมืองรุมรังแก พล.ต.อ.พัชรวาทหรือไม่ นายศิริรโชค กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นการรุมรังแก ซึ่งที่ผ่านมามีการปรามาสตนเยอะว่าที่สุด แล้วผลสอบจะออกมาว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง แต่ อนุ ก.ตร. ก็เป็นข้าราชการตำรวจ มีจิตวิญาณ ต้องการให้ตำรวจได้รับความเป็นธรรม จึงไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับฝ่ายการเมือง ไปรังแกตำรวจเพราะเป็นเรื่องที่ตำรวจสอบตำรวจเอง
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการปูทางให้นายรัฐมนตรี เลือกผบ.ตร. คนใหม่ได้อย่างที่ต้องการหรือไม่นั้น นายศิริโชคกล่าวว่า เป็นความบังเอิญและมีการผูกโยงกันเองมากกว่า เพราะนายกรัฐมนตรีไม่สามารถสั่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติในวันที่ 7 ก.ย. ได้ ทั้งที่มีการ เลื่อนมาหลายครั้งแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องของ กระบวนการของกฎหมาย และในคดีนี้ก็มีนักากรเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี จึงจำเป็นต้องใช้อำนาจดำเนินการให้พล.ต.อ.พัชรวาทมาช่วยงานที่สำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่สมาคมตำรวจออกมาตำหนิการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรรีที่สั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาทมาช่วยงานที่สำนักนายกฯ นั้น นายศิริรโชคกล่าวว่า การจะวิพากษ์วิจารณ์ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกกล่าวหา ในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การทุจริตงบประชาสัมพันธ์ สตช. 18ล้านบาท การที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช มีมติว่ามีความผิดวินัยและ อาญา การที่อนุก.ตร. ชี้มูลว่ามีการ ซื้อขายตำแหน่งช่วงที่เป็น ผบ.ตร. ดังนั้นถือว่านายกรัฐมนตตรี มีเหตุผลเพียงพอ ที่ใช้อำนาจให้มาช่วยราชการ โดยการดำเนินการทั้งหมด ตนไม่คิดว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจเกลียดพรรคประชาธิปัตย์ แต่กลับจะทำให้ตำรวจส่วนใหย่ที่ถุกรังแกมาตลอด ได้มีศักดิ์ศรีกลับคืนมา ซึ่งตนได้รับจดหมายและโทรศัพย์ขอบคุณเพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีคนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อพวกเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่าต่อไปจะทำให้นายกรัฐมนตรีสามารถตั้งผบ.ตร.ง่ายขึ้นหรือไม่ นายศิริโชคกล่าวว่า เชื่อว่าถ้านายกรัฐมนตตรีกำหนดวันประชุม ก.ตช.เมื่อไหร่ และเสนอชื่อใคร นั้นจะได้เป็น ผบ.ตร เพราะได้มีการทำความเข้าใจกับ ก.ต.ช. ทั้งหมด ให้รู้ว่าขอบเขตอำนาจมีอะไรบ้าง เพราะตามกฎหมาย ก.ต.ช.มีหน้าที่เห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบ แต่ผู้มีอำนาจคัดเลือกคือนายกรัฐมนตรี ถ้าเข้าใจจะรู้ว่าแต่ละคนควรทำอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้คุยกับนายชวรัตน์ ชาญวีระกูล รมว.มหาไทย หรือไม่ นายศิริโชคกล่าวว่าได้คุยกันตลอดทั้งสองคนจะเข้าใจว่า สถานการ์คืออะไร เพราะอยู่ในรัฐบาลเดียวกัน แต่ ระบอบประชาธิปไตย ย่อมมีความ เห็นต่างกันได้ แต่สุดท้ายเชื่อว่าจะมีบทสรุปออกมาชัดเจน คือ ผบ.ตร จะได้ตามที่นายกฯเสนอ
นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และหนึ่งในกรรมการ ก.ต.ช. ที่ไม่หนุน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นผบ.ตร. ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการประสานงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาว่าจะมีการนัดประชุมเลือก ผบ.ตร เมื่อไร
ส่วนจะลงมติไม่สนับสนุนพล.ต.อ.ปทีปอีกครั้งหรือไม่นั้น นายวิชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องเฉพาะตัว อยู่ที่ข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานเพราะเป็นคนละส่วนกัน นั่นเป็นกรรมการที่แต่งตั้งกันทางกฎหมาย ส่วนเรื่องคดีอัลไพน์เป็นหน้าที่ อย่างไรก็ตามเรื่องการโหวตเลือก ผบ.ตร.ต้องพิจารณากันในที่ประชุม เมื่อถามว่า การที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่โหวตแบบเดียวกันตอนนี้หายไปหนึ่งเสียง หนักใจหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า ไม่หนักใจ เพราะนี่คือการบริหารในรูปแบบของกรรมการ ที่ถือเสียงข้างมากเป็นหลัก
นายวิชัยกล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาก็ทราบข่าวเรื่องการวิจารณ์การตั้งผบ.ตร. มาตลอดแต่ก็ไม่อยากออกมาพูดหรือชี้แจงอะไร รู้ทุกเรื่องทุกข่าวที่คนพูดกันแต่ต้องรักษามารยาทที่ไม่เอาเรื่องในห้องประชุมก.ต.ช.มาเล่าให้คนภายนอกฟัง และยอมรับว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ไปกินข้าวกับนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งจริงแต่ไม่ได้มีการล็อบบี้อะไรกันแค่กินข้าวตามปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น