“นพดล” เชื่อ มีการแทรกแซงแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจปี 2551 ส่อไปทางทุจริตแสวงหาผลประโยชน์ เสนอ “เทือก” ฟัน 9 นายพล ทำโผแต่งตั้งเดือน พ.ย.2551 ไม่ระบุชัด “พัชรวาท” เอี่ยวด้วย ไล่ไปถามรองนายกฯ พร้อมสรุปผลสอบสวนได้วันที่ 9 ก.ย.นี้แน่
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสมศักดิ์ บุญทอง ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะประธานคณะอนุ ก.ตร.ชุดพิเศษตรวจสอบข้อเท็จจริงการซื้อขายตำแหน่ง เป็นประธานการประชุมคณะอนุฯ เพื่อสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 1 ชม.
พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ในฐานะโฆษกคณะอนุฯ กล่าวว่า คณะอนุฯ เชื่อว่า มีการแทรกแซงอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจวาระประจำปี 2551 ซึ่งปกติเป็นอำนาจของ ผบช.ต่างๆ โดยมีการสั่งลงไปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น สร้างความเดือดร้อนต่อข้าราชการตำรวจเป็นอย่างยิ่ง และคำสั่งการแต่งตั้งขัดต่อกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้ง อีกส่วนหนึ่ง เชื่อว่า การแต่งตั้งในครั้งนั้นส่อไปในทางทุจริตและแสวงหาผลประโยชน์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายส่อไปในทางทุจริตมีลักษณะอย่างไร พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า เนื่องจากพยานคนใดออกมายืนยันว่า ได้มีการจ่ายเงินซื้อขายตำแหน่ง แต่การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นไปตามกฎ ก.ตร.และสร้างความเดือดร้อนให้กับข้าราชการตำรวจ มันมีความใกล้เคียงกับการแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งจะเสนอ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ดำเนินการต่อไป
พล.ต.อ.นพดล กล่าวต่อว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วีระยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ รอง ผกก.ป.สภ.แก่งกระจาน ได้นำหลักฐานเป็นสเตทเมนท์มามอบให้ คณะอนุฯ ซึ่งเป็นสเตทเมนท์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งจะตรวจสอบต่อไปว่าใครเป็นคนโอนเงินเข้ามา และเงินที่ไหลออกมานั้นไปถึงใคร ส่วนนี้ คณะอนุฯ กต.ร.ไม่มีอำนาจ ในการตรวจสอบต้องเสนอ นายสุเทพ เพื่อให้ดำเนินต่อไป
เมื่อถามว่า ได้มีการเสนอให้เอาผิดกับบุคคลใดบ้าง พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า เป็นตำรวจยศนายพล 8-9 คน แต่ไม่สามารถบอกได้ ว่ามีใครบ้าง จะหมายความถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.หรือไม่ นั้น ให้ไปถาม นายสุเทพ เอง แต่บอกได้ว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย ข้าราชตำรวจวาระประจำปี เมื่อเดือน พ.ย.ปี 2551
เมื่อถามถึงบทลงโทษที่คณะอนุฯได้เสนอไป มีอะไรบ้าง พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า มันชัดอยู่ในตัวอยู่แล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปผลการสอบสวน คาดว่า ภายในวันพุธที่ 9 ก.ย.นี้ คณะอนุฯ จะสามารถลงนาม และเสนอให้นายสุเทพ พิจารณาได้
เมื่อถามว่า การสืบสวนของ คณะอนุฯได้รับใบสั่งจากบุคคลใดหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท อยู่ระหว่างท่ามกลางมรสุม ทางคณะอนุฯ สามารถยืนยันได้หรือไม่ ว่า ผลการสืบสวนไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ ผบ.ตร.
พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ไม่อยากให้ถามเช่นนั้น และอย่าดูถูก คณะอนุฯ ชุดนี้ เพราะประธานคณะอนุฯ เป็นถึงอดีต รองอัยการสูงสุด มีรอง ผบ.ตร.2 ท่าน อดีต พล.ต.อ.2 ท่าน และอดีต พล.ต.ท.2 ท่าน และผู้ให้ถ้อยทำ ก็เป็นตำรวจยศ พล.ต.ท.คงไม่สามารถที่จะสั่งให้เขาทำอย่างโน้น อย่างนี้ได้ อยากให้เชื่อเครดิตของคณะอนุฯ ชุดนี้
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า คณะอนุฯ ก.ตร.เตรียมเสนอให้นายสุเทพ ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ในความผิดดังกล่าว เนื่องจาก คณะอนุฯ ชุดนี้ ไม่มีอำนาจการสืบสวน ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ เพียงแต่มีหน้าที่สอบสวนและรวบรวมข้อมูลเสนอนายสุเทพ เท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจระดับนายพล ที่คณะอนุฯ ก.ตร.เสนอว่ามีความผิดในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในวาระประจำปี 2551 นั้น ประกอบด้วย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.,พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผช.ผบ.ตร., พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผบช.สตม., พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ รรท.ผบช.สำนักงานกำลังพล ซึ่งเป็นตำแหน่งตามโครงสร้างใหม่ อดีต ผบช.ภ.2, พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง จเรตำรวจ (สบ 8 )อดีต ผบช.ภ.6, พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชนาภัทร เชยสมบัติ ผบก.กพ.และ พล.ต.ต.ศักดิ์ชัย ตันบุญเอก ผบก.นครปฐม อดีต ผบก.อก.ภ. 7