xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง’ธานี’รักษาการฯมอบดาบเท่าผบ.ตร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “อภิสิทธิ์”เชื่อไวกว่า! เซ็นคำสั่งเด้ง”พัชรวาท”เข้ากรุสำนักนายกฯ พร้อมตั้ง นายพลไม้บรรทัด “ธานีสมบูรณ์ทรัพย์” รักษาราชการแทนผบ.ตร.ตามคำสั่ง นายกฯยันมีสิทธิ์เต็มในตำแหน่ง รวมทั้งเข้าร่วมประชุมก.ต.ร.ด้วย ประวิตร เครียดหลังน้องชายเจอมรสุมหนัก นิพนธ์ ปัดขัดแย้งนายกฯในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ด้าน ป.ป.ช. โทษป๊อด ปลดออก-ไล่ออก-ให้ออก

วานนี้ (9 ก.ย) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังหารือกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบการการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 7 ก.ย. กรณีสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์อย่างรุนแรง วันที่ 7 ตุลาคม 2551 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมากเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรงผิดทั้งวินัยและอาญา แต่ยังไม่ได้แจ้งมติมายังตนซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งจะอาจจะเกิดช่องวางขึ้นในระหว่างนี้ ดังนั้น เมื่อป้องกันความวุ่นวายสับสน เพราะจะเกิดการโต้แย้งเกี่ยวกับการสั่งราชการต่างๆ จึงให้ พล.ต.อ.พัชรวาท มาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ
วันนี้ จะมีการออกคำสั่งเรื่องดังกล่าว และระหว่างนี้จะให้ พล.ต.อ.ธานี สม บูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.เป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนในตำแหน่ง ผบ.ตร. ให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

***พัชรวาทเก็บตัวเงียบหลังคำสั่งย้าย
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 200/2552 เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯ โดย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(4) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ แผ่นดิน พ.ศ.2534 และมาตรา 72(1) แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิม ไปพลางๆก่อน และให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รักษาราชการแทน ให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาทไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯ บรรยากาศภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นไปอย่างเงียบเหงา พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ยังเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องทำงานตลอดช่วงบ่าย โดยไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และบุคคลใกล้ชิดเดินทางไปให้กำลังใจ

“ธานี”ยันมีอำนาจเท่าผบ.ตร.
จากนั้น เวลา 17.30 น.พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ กล่าวภายหลังได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี ให้รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ว่าได้รับหนังสือแต่งตั้งให้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.แล้ว ซึ่งในวันนี้(10 ก.ย.)จะเดินทางไปรายงานตัวและรับนโยบายจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสตช. ซึ่งตนจะเหลือเวลาราชการอีก 21 วัน จะตั้งใจทำหน้าที่เท่าที่จะสามารถทำได้ พร้อมกับยืนยันว่าไม่หนักใจที่มารับตำแหน่ง รรท. ผบ.ตร.
ส่วนจะสามารถเข้าประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ได้หรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า รักษาราชการแทนก็มีอำนาจเหมือน ผบ.ตร.ตัวจริงทุกอย่าง สามารถทำแทนได้หมด เมื่อถามว่าจะเห็นชอบตัว ผบ.ตร.คนใหม่ ตามที่นายกรัฐมนตรีจะเสนอหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ไม่ทราบ
ส่วนเรื่องคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯนั้น พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า วันศุกร์นี้(11 ก.ย.)จะประชุมคณะทำงานอีกครั้ง ส่วนจะมีความคืบหน้าหรือไม่ ต้องดูว่า งานที่ได้มอบหมายให้คณะทำงานไปดำเนินการนั้นสำเร็จหรือไม่

**ประวิตรเครียดน้องถูกชี้มูลความผิด
พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท น้องชายถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด โดยกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของผม ส่วนการปฏิบัติงานในการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19 ก.ย.จะถูกดำเนินคดีเหมือนกรณีเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.2551 หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องว่ากันไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกับ พล.ต.อ.พัชรวาท ฐานความผิดคดีอาญา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ผมไม่เกี่ยว ผมไม่ตอบ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี นายกรัฐมนตรีจะมาคุยอะไรกับตน ท่านก็คุยเฉพาะเรื่องงาน ท่านก็สั่งงานกับตนที่รับผิดชอบกระทรวงกลาโหม
ส่วนที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการปลด ผบ.ตร. หรือให้ออกขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร ปฎิเสธคำถาม โดยสีหน้าเคร่งเครียดก่อนจะเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวออกไปทันที

นิพนธ์ ปัดขัดแย้งอภิสิทธิ์
ทางด้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวความขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี กรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ ว่า ไม่มีความขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เป็นข่าวออกไป ได้อย่างไร ตนไม่ได้เป็นคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) แล้วจะไปขัดแย้งได้อย่างไร อีกทั้งตนยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกรัฐมนตรี ด้วย

ปัดตั้งธานีเพื่อช่วยโหวตในก.ต.ช.
นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการส่วนตัวนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท ครั้งนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมายล้วนๆ เพราะเข้าข่ายมาตรา 55 ของกฎหมาย ป.ป.ช.ที่ว่ากรณีผู้ที่ถูกกล่าวแล้ว ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากปล่อยไปหาก ผบ.ตร. เซ็นเอกสารชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะหากมีการเซ็นเอกสารแล้วขัดต่อกฎหมาย นายกฯก็ต้องมารับผิดชอบ หากรู้อยู่แล้วแต่ไม่ปฏิบัติ
ส่วนที่มีการตั้งพล.ต.อ.ธานี มาปฏิบัติราชการแทนนั้น นายศิริโชค กล่าวว่า ท่านนายกฯดูเรื่องของความเหมาะสมมากกว่า และท่านเองก็มีความอาวุโส และที่ก่อนหน้านี้นายกฯเคยตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิศรี ที่ปรึกษา (สบ10) รักษาราชการแทนพล.ต.อ.พัชรวาทนั้น เป็นเรื่องของเหตุการณ์ในขณะนั้นมากกว่าว่า ใครเหมาะสม ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าการตั้งพล.ต.อ.ธานีเพื่อเพิ่มเสียงใน ก.ต.ช. ในการโหวตเลือกผบ.ตร.คนใหม่นั้น ที่ผ่านมาพล.ต.อ.ธานีก็ไม่แสดงออกหรือประกาศชัดว่าสนับสนุนใคร ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และเป็นเรื่องธรรมดา อย่างไงก็ถูกมองอยู่แล้ว

โทษ”ป๊อด”ปลดออก-ไล่ออก-ให้ออก
นายวิชัย วิวิตเสวี คณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช. ยังจะเพื่อทำหนังสือผลวินิจฉัยกลาง เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี แม้จะมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท มาช่วยราชการที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) หลังจาก ถูกคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยรายแรงและผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 157 จากคดีที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลังสลายผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาฯ
ป.ป.ช.ยังต้องทำหนังสือไปให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.พัชรวาทเพราะเป็นกระบวนการตามกฎหมาย ที่ต้องดำเนินการลงโทษ ตามความผิดวินัยร้ายแรง โดยมี 3 ขั้นประกอบด้วย ปลดออก ให้ออก และไล่ออก ส่วนโทษของพล.ต.อ.พัชรวาท จะอยู่ที่ขั้นใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถส่งหนังสือดังกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีได้
สำหรับข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยที่เคลื่อนไหวไม่เห็นด้วยกับการชี้มูลความผิด ของ ป.ป.ช.และเตรียมฟ้องศาลปกครองนั้น นายวิชัย กล่าวว่า เห็นว่าก็เป็นสิทธิ และเป็นเพียงความเห็น ซึ่งป.ป.ช.ทำงานเช่นนี้ก็ต้องถูกหลายฝ่ายจับตาอยู่แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. เตรียมหารือเพื่อสรุปคำวินิจฉัยกลาง เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี คาดว่า ในวันอังคารที่ 15 ก.ย. 2552 นี้

ตุ๊ดตู่ตามฟอร์มอัดป.ป.ช.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มนคนเสื้อแดง แถลงว่าการที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมในวันที่ 7 ต.ค. สื่อให้เห็นว่าองค์กรนี้สามารถใช้อารมณ์ความรู้สึกกำหนดธงการตัดสินได้ หากใครไม่ใช่พวกจากถูกจะกลายเป็นผิด ถ้าใครเป็นพวกจากผิดก็จะกลายเป็นถูก ดังนั้นจึงน่าจับตาว่าในวันที่ 21 ก.ย.ที่จะมีการตัดสินคดีกล้ายางนั้นผลจะออกมาว่ารอดทั้งหมดหรือไม่ เนื่องจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท ซีพี นอกจากนี้ การตัดสินนั้นไม่มีหลักอะไรมาอธิบายได้เลย ว่าเหตุใดจึงลงโทษแต่ พล.ต.อ.พัชรวาท และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.น. โดยที่ไม่ลงโทษผู้บัญชาการที่ระดับต่ำกว่านั้นในฐานะผู้ปฏิบัติ และการตัดสินให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีความผิดนั้นชี้ให้เห็นว่าใครที่เป็นคนในตระกูลชินวัตรจะต้องโดนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สำหรับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล นายสมชายนั้น โดนเพราะไม่ได้ไปบ้าน พล.อ.เปรมในงานวันเกิดที่ผ่านมา ในทางกลับกันเหตุการณ์สงกรานต์เลือดที่ทหารดำเนินการกับกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งมีทั้งปืนอาก้า และปืนเอ็ม16 นั้น ป.ป.ช.ไม่คิดแม้แต่จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งต่างจากกรณีของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ใช้เพียงแก๊สน้ำตาแต่กลับมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ

เตือนมาร์คไปนอกระวังไม่ได้กลับ
นายจตุพร ยังกล่าวขู่นายกฯว่า อยากถามว่าหากต่อไปมีคนบุกล้อมป.ป.ช.บ้างแล้วตำรวจ หน้าไหนจะกล้าไปปกป้อง ซึ่งกรณีนี้จะยิ่งทำให้ประชาชนคนเสื้อแดง ออกมาร่วมชุมนุม เพื่อไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ในวันที่ 19 ก.ย. มากขึ้น และไม่แน่ใจว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะต้องเดินทางไปราชการที่ต่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าวพอดีนั้นจะได้กลับประเทศไทยหรือไม่ ขอให้สั่งเสียงลูกเมียให้เรียบร้อย เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจจะเกิดรัฐประหารครั้งใหม่ ที่เป็นการยึดอำนาจกันเองโดยมีสาเหตุจากความขัดแย้ง ในรัฐบาลเองก็ได้
ส่วนการยึดอำนาจที่ระบุนั้นจะเกิดขึ้นจากพี่ชายพล.ต.อ.พัชรวาท ใช่หรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ตรงนี้เป็นปัญหาที่สะสมมาตลอด เพราะก่อนหน้านี้พล.อ.ประวิตร ก็เคยออกมาถามว่าน้องผมผิดอะไร อีกทั้งตั้งแต่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเหตุการณ์ 7 ต.ค. พล.อ.ประวิตรก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ในภาษานักเลงรู้กันดีว่า คนโกรธจะไม่พูดแต่จะทำเลย

ตั้งธานีทำให้คนเสื้อแดงลุกฮืฮมากขึ้น
ส่วนที่มีคำสั่งย้ายพล.ต.อ.พัชรวาท โดยให้พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. มารักษาการแทนผบ.ตร.นั้น นายจตุพรกล่าวว่า เป็นสิ่งที่เขาต้องการมาตั้งแต่ต้น เป็นธงมาจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะพล.ต.อ.ธานี เป็นเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนกับนายสนธิ ซึ่งการย้ายครั้งนี้เพื่อเหตุผล 3 อย่างคือ 1.จัดโผโยกย้ายระดับต่างๆ ได้ง่ายขึ้น 2.การโหวตเลือกผบ.ตร.จะเป็นไปตามที่ นายอภิสิทธิ์ต้องการคือให้พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐเป็นผบ.ตร. และ 3.ทำให้คดี ของกลุ่มพันธมิตรฯ หลุดรอดมากขึ้น การตั้งพล.ต.อ.ธานีนั้นจะอ้างเรื่องอาวุโสไม่ได้ นอกจากเรื่องผลประโยชน์และคำสั่งจากบ้านพระอาทิตย์ นอกจากนี้ยังเป็นการดีต่อ การควบคุมกำลังเพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 19 ก.ย. เพื่อให้ สถานการณ์เป็นไปตามที่ต้องการด้วย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนเสื้อแดงเห็นว่าการนำพล.ต.อ.ธานีมารักษาการแทนนั้นจะเป็นผลดีต่อการชุมนุมเพราะจะทำให้คนเสื้อแดงลุกฮือยิ่งขึ้นเพราะทราบดีว่า เป็นคนของนายสนธิ ส่วนที่รัฐบาลระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมาบัญชาการ กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่บริเวณชายแดนนั้น เป็นความเท็จ นายปณิธาน วัฒนายากร รักษาการโฆษกรัฐบาล กำลังทำตัวเหมือนนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปทุกที

ศาลปกครองรับคดีสมชายฟ้องป.ป.ช.
วันเดียวกัน ศาลปกครองกลาง องค์คระที่ 13 ซึ่งมี นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง ตุลาการหัวหน้าคณะและตุลการเจ้าของสำนวน มีคำสั่งคดีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ เลขาธิการ ป.ป.ช. ผู้ถูกฟ้อง ที่มีคำสั่งกำหนดวันพิจารณาและชี้มูลความผิด คดีสั่งสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมทั้งปฏิเสธไม่อนุญาตให้ผู้ฟ้องคดี ได้ตรวจสอบเอกสารในสำนวนคดี และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการวินิฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร จึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของ ป.ป.ช.เมื่อวันที่15 พ.ค.52 และให้ผู้ฟ้องคดีได้มีโอกาสตรวจพยานหลักฐานในสำนวนตามสมควร ขอให้ศาลสั่ง ป.ป.ช.ชะลอการลงมติชี้มูลความผิดผู้ฟ้องคดีจนกว่าจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคมการบริหารราชการ แผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย และสั่งให้การกำหนดวันชี้มูลความผิดแก่ผู้ฟ้องคดี ในวันที่7 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ศาลรับฟ้องเพียงคดีที่ผู้ฟ้องคดีมีหนังสือลงวันที่ 7 พ.ค.2552 ขอตรวจสอบหรือขอทราบ เอกสารหรือพยานบุคคลต่อผู้ถูกฟ้องที่ 1 เพื่อขอใช้เป็นหลักฐานในการแก้ข้อกล่าวหา หลังผู้ถูกฟ้องที่ 1 ชี้มูลความผิดผู้ฟ้องคดีฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายกับผู้หนึ่งผู้ใด ในกรณีสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 แต่ทางผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช.ลับ ที่ ปช. 0014/3233  ลงวันที่ 15 พ.ค.2552 โดยปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้กับผู้ถูกฟ้องคดีตามคำขอ ผู้ถูกฟ้องคดีจึงมีหนังสืออุทธรณ์คำสั่งไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อคณะกรรมการข้อมูล ข่าวสารของราชการ ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการฯ แต่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 กลับไม่รอฟังผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ โดยจะทำการพิจาณาและชี้มูลความผิดของผู้ถูกฟ้องในวันที่ 7 ก.ย.2552 การกระทำของผู้ถูกฟ้อง จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ควรรับไว้พิจารณา เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ใช้อำนาจ ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 คดีจึงอยู่ในอำนาจขอ งศาลปกครอง
กำลังโหลดความคิดเห็น