ASTVผู้จัดการรายวัน - คดีตัดต่อคลิปเสียงนายกฯ คืบ ตำรวจเตรียมเอาผิด 15 มือฟอร์เวิร์ด สภาเดือด "มาร์ค" เปิดศึก"เป็ดเหลิม" ยกตัวอย่างตัดต่อประโยคมีคำว่า "หมา" กลางสภา ยืนยันเสียงจริงในคลิป พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย แต่มีคนสมคบกันตัดต่อหวังทำร้ายประเทศชาติ "เป็ดเหลิม" สำราก อวดโอ่ความขี้เท่อ ตะแบงไม่เชื่อผลพิสูจน์หลักฐาน ฝืนอ่านข้อความในคลิป เจอ ส.ส.ปชป.รุมประท้วงวุ่น
ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีตัดต่อคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ ว่า การทำงานของตำรวจแบ่งออกเป็น 2 สาย คือโดยมี พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวน ได้มอบหมายให้ บช.ภ.4 ดำเนินการตรวจสอบการนำคลิปเสียงเผยแพร่ในรายการวิทยุชุมชนคนรักอุดร ส่วน บช.ก. ตรวจสอบการส่งอีเมลคลิปเสียง ที่มี นายสมศักดิ์ แซ่อึ้ง และน.ส.กันทิมา แต้มครู พนักงานบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ต้องหา
พล.ต.ท.ไถงกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการส่งอีเมล พบว่า มีส่งต่อทั้งสิ้นจำนวน 15 ครั้ง มีรายชื่ออีเมลผู้รับทั้งสิ้น จำนวน 179 รายชื่อ เบื้องต้นได้ดำเนินการเรียก 15 คน ที่เริ่มส่งต่อคลิปเสียงที่ได้จากการตรวจสอบหมายเลข ไอพีแอดเดรส มาสอบปากคำก่อนว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งมีหลายคนได้เข้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว ว่าไม่รู้เรื่อง เพียงแต่เป็นผู้ได้รับอีเมล แต่ไม่ได้ส่งต่อ
อย่างไรก็ตาม ถือว่าทั้ง 15 คน ที่เริ่มส่งคลิปเสียงต่อ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฐานเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ
"พนักงานสอบสวนได้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า นายสมศักดิ์ ซึ่งเผยแพร่คลิปเสียงเป็นคนแรก อาจเป็นคนตัดคลิปเสียง หรือทราบที่มาของคลิปเสียง เนื่องจากข้อกล่าวอ้างที่ว่า ได้รับแจกซีดีคลิปเสียงมาจากย่านห้าแยกปากเกร็ด แต่เมื่อถามถึงซีดีดังกล่าว ก็อ้างว่าหักทิ้งไปแล้ว ซึ่งน่าสงสัย เมื่อลงตรวจสอบในพื้นที่ ก็ไม่มีใครยืนยันว่ามีการแจกซีดี ดังกล่าว ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนก็ยังไม่พบว่า มีการแจกซีดีในพื้นที่ใดๆ และไม่มีการเผยแพร่คลิปเสียงในรูปแบบซีดีมีการพูดเพียงไปพบที่นั่นที่นี่ เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบ" ผบช.ก. กล่าว
พล.ต.ท.ไถงกล่าวว่า ทาง บช.ก.โคลนนิง ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์พนักงาน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ข้อมูลตรงนี้สามารถยืนยันได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องไหนมีการตัดต่อ หรือนำไฟล์เสียงที่นายกรัฐมนตรีพูดผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์ จะเป็นหลักฐานที่สาวไปถึงคนตัดต่อได้
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบหลายหน่วยงานเพื่อหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสั่งทำคลิปดังกล่าว หากพบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง ก็จะมีความผิดฐานเป็นตัวการ หรือผู้สนับสนุน นอกจากนี้ หลักฐานทางคอมพิวเตอร์ยังสามารถชี้ได้ว่า คนทำเพราะเป็นความชอบส่วนตัว หากสืบไปได้ว่า วัตถุประสงค์ในการทำเพื่อก่อให้ความวุ่นวาย ยั่วยุให้เกิดความโกลาหล ก็จะทำให้มีโทษเพิ่มขึ้น
***มาร์คปะทะเดือดเป็ดเหลิม
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดเรื่อง เทป(คลิป) คำพูดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน โดยจะขออนุญาตเปิดคลิปเสียงดังกล่าว และหากใครจะร้องทุกข์กล่าวหา หรือจะแจ้งจับตนก็เชิญเลย
อย่างไรก็ตาม นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ไม่ยินยอมให้มีการเปิดคลิปดังกล่าว โดยอ้างว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งไว้ว่า ไม่อนุญาตให้เปิดเทปคำพูดนายกฯ เพราะในช่วงการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ซึ่งมีส.ส.ฝ่ายค้านจะนำมาเปิด ก็ไม่อนุญาตมาครั้งหนึ่งแล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากนายกฯใจกว้าง จะกลัวทำไม แล้วก็ไปเก่งนอกสภา ที่บอกเปิดแล้วจะแจ้งจับตนนั้น ตนไม่กลัว และกล้ายืนยันหรือไม่ว่าเป็นเสียงนายอภิสิทธิ์ การที่ตนอยากให้เปิด เพราะต้องการให้ประชาชนได้ฟังว่า เทปนี้ตัดต่อหรือไม่ ซึ่งในเทปคำพูดดังกล่าว เสียงคุ้นหูคล้ายเสียงนายกฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้เปิดเทปเสียง ร.ต.อ.เฉลิม จึงได้อ่านถ้อยคำ ที่แกะมาจากเทปคำพูด ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างลุกขึ้นประท้วงประธานในที่ประชุมทันที ว่าประธานอนุญาตให้นำข้อความที่ไม่เป็นความจริง มาใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ไม่ถูกต้อง และขอให้ประธานได้ทบทวน เพราะขณะนี้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ อาจทำให้ประชาชนสับสนได้ เพราะข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ด้านนายสามารถ ชี้แจงว่า คลิปดังกล่าวปรากฏในสื่อมวลชนอยู่แล้ว และร.ต.อ.เฉลิมได้นำข้อความเหล่านั้นมาอ่านให้ฟัง ซึ่งตนทำตามข้อบังคับการประชุม และไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามแม้ประธานในที่ประชุมจะให้ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายต่อ แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังประท้วงต่อไป ซึ่งประธานในที่ประชุมจึงให้ ร.ต.อ.เฉลิม ถามคำถามแรกทันที เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีการประท้วงต่อไปไม่จบไม่สิ้น แต่ร.ต.อ.เฉลิม ก็ยังไม่ตั้งคำถาม แต่พยายามที่จะอ่านข้อความตามที่ได้ถอดเทปมา ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างลุกขึ้นประท้วงเรื่องการควบคุมการประชุม ของประธานในที่ประชุม
ในที่สุด ร.ต.อ.เฉลิม ได้ตั้งคำถามแรกว่า ในเทปคลิปเสียง เป็นเสียงนายกฯใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็บอกไม่ใช่ แล้วไม่ต้องตอบต่อ ถ้าไม่ใช่ก็จบ ถ้าใช่ถามว่ากล่าวในโอกาสใด เมื่อใด สถานที่ใด มีบุคคลใดอยู่ในสถานที่นั้นด้วย และทำไมกล่าวเช่นนั้น
**ยันเสียงตัดต่อจากรายการเชื่อมั่นฯ
นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงว่า การจะให้สภาฯเปิดคลิปเสียงหรือไม่เปิดนั้น ขอทำความเข้าใจว่า ไม่มีอะไรน่าเกรงกลัว แต่สภาฯนี้ต้องมีบรรทัดฐาน หากเสียงดังกล่าวมีการพิสูจน์ว่าเป็นเท็จแล้วใช้ประโยชน์ทางการเมือง ก็เป็นเรื่องที่แย่อยู่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองเป็นเรื่องที่แย่มากกว่า และเมื่อพิสูจน์เบื้องต้นเป็นเท็จ ก็เป็นการสมคบทำร้ายประเทศชาติบ้านเมือง ที่จะตอบคือ ตนได้ฟังข้อความทั้งหมด 3 นาที 28 วินาที ยืนยันว่า มีข้อความหลายตอนเป็นเสียงตน แต่ไม่สามารถยืนยันเป็นเสียงตนทั้งหมดหรือไม่ และถ้าฟัง และวิเคราะห์ตรวจสอบข้อเท็จจริง จะทราบมุ่งหมายของคนทำคลิปนี้มีจุดมุ่งหมายอะไร และเสียงที่ยืนยันได้คือ ส่วนใหญ่เป็นเสียงที่ตนที่ไปออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทย วันที่ 19 และ 26 เม.ย. และมีทีมงานของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยอยู่ด้วย
ส่วนผู้ติดตามวอล์เปเปอร์ มีหรือไม่ จำไม่ได้ ที่บอกว่าตัดมา 6 ช่วงนั้น เป็นการเอาคำพูดของตนในรายการบันทึกเทป 2 ครั้งหลัก มาเรียบเรียงใหม่ เนื้อหาสาระไม่ใช่อยู่แล้ว และตนยืนยันว่า ข้อความที่ระบุว่า "ขอให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบในการชุมนุม" ซึ่งตนยืนยันว่า คำพูดว่า ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบเป็นเสียงตน ซึ่งพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย วันที่ 26 เม.ย. 52 นาทีที่ 3 วินาทีที่ 28 ตนพูดต่อเนื่องว่า ทุกมาตรการที่ใช้ 1. ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ 2. พึ่งหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่คนทำคลิปนี้ตัดข้อความที่ว่าพึ่งหลีกเลี่ยงออก เหลือแค่ “ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ” ซึ่งทางวิทยาศาสตร์พูดสองครั้ง มันจะไม่เหมือนกันแบบนี้ เห็นว่าคนที่ทำจงใจบิดเบือน และจงใจให้เป็นเรื่องเท็จ จงใจใส่ร้าย และเข้าใจผิดในตัวตน เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย อย่างถ้อยคำที่บอกว่า ให้ปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์ และวิทยุกระจายเสียง ตนได้พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยวันที่ 19 เม.ย. ซึ่งตนพูดว่า ทราบดีว่าจะไปปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์ และวิทยุกระจายเสียง แต่มีการตัดออกให้เหลือแค่ ปิดสถานี
" ดังนั้นจบเพียงแค่นี้ และผมจะตอบแค่นี้ อย่าให้ไร้สาระไปมากกว่านี้ จะผิดข้อบังคับ"
**ตะแบงไม่ยอมรับฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้อภิปรายต่อว่า เหตุที่ตนและพรรคเพื่อไทย ไม่เชื่อถือในการพิสูจน์หลักฐาน เพราะที่รัฐบาลอ้างว่ามีการตรวจสอบเทปดังกล่าวทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่ามีการตัดต่อ โดยอ้างว่า พ.ต.ท.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว ที่ฝ่ายค้านไม่เชื่อเพราะคนที่เชี่ยวชาญต้องขึ้นทะเบียนกับศาล แต่จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และ พ.ต.ท.วิวัฒน์ ทางกระทรวงวิทยาศาตร์แต่งตั้งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ จบปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านฟิสิกส์ แต่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกองพิสูจน์หลักฐาน ส่วน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ จบนิติวิทยาศาสตร์ มีความน่าเชื่อถือในด้านการชันสูตรพลิกศพ แล้วมาตรวจเทป ตนจะเชื่อได้หรือ
ส่วน รมว.ไอซีที บอกว่าส่งเทปเจ้าปัญหาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้ว ส่งให้ใคร ตนไปตรวจสอบพบว่า ส่งไปให้บริษัทกันตนา ซึ่งเขาเชี่ยวชาญด้านตัดต่อละคร แบบนี้จะเชื่อได้อย่างไร แล้วส่งไปที่ ดีเอสไอ กรมนี้ตนเขียนยกร่าง ก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร บอกว่าตนไม่เคารพผู้เชี่ยวชาญ แต่จริงๆไม่ได้ตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญเขาต้องใช้คำว่า อาจเชื่อได้ว่า ไม่ใช่ฟันธงเช่นนี้ แบบนี้มันเป็นการอุ้มรัฐบาล อยากให้พูดตรงไปตรงมา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
"ผมเชื่อว่าเป็นการลักลอบอัดเทป แล้วอาจเดินไปเดินมาทำให้เสียงคลื่นไม่ตรงกัน แล้วเรื่องนี้ข่าวออกมาตอนไหน ก็ออกมาตอนช่วงอภิสิทธิ์ขัดแย้งกับหน่วยงานความมั่นคง เรื่องตั้ง ผบ.ตร. เนื้อหาในเทปพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ และพูดหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งการยึดสถานี มีจริง การสลายการชุมนุมก็มี ซึ่งพูดอะไรก็มีหมด แล้วหากฟังก็เป็นเสียงของคนคนเดียว และน่าเชื่อว่าคำพูดทั้งหมดเป็นของนายกฯ ดังนั้นนายกฯ เอาเทปบันทึกเมื่อวันที่ 19 เม.ย. และวันที่ 26 เม.ย. เอามาชี้แจง ผมกล่าวหาท่านบอกว่าเป็นเสียงของท่าน ก็ต้องพิสูจน์ว่า ตัดต่ออย่างไร อย่าไปเชื่อกองพิสูจน์หลักฐาน คนส่งไปตรวจสอบเป็นคนของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จึงส่งไปตรวจเร็วมาเร็ว และหากถอดเทปถ้อยคำไม่กระโดด"ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงนี้ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า การตั้งกระทู้ของ ร.ต.อ.เฉลิม จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสภาฯ เพราะไม่ดำเนินการตามข้อบังคับ ไม่เข้าข่ายกระทู้ถามสด และการตั้งกระทู้ดังกล่าว จะสร้างความเสียหายให้กับท่านเอง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวตอบโต้ว่า จะเสียหาย ตนก็เสียหายเอง และถามว่าวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน ต้องถามเรื่องนี้แน่นอน แล้วที่บอกว่าเป็นของปลอม แล้วของจริงอยู่ไหน เอาออกมา ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ทางการเมืองเรียกว่า ขี้ขลาดตาขาว
เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวคำว่า ขี้ขลาดตาขาว ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงทันที และขอให้ถอนคำพูดดังกล่าว แต่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตนบอกว่าพฤติกรรมแบบนี้ของรัฐบาล เรียกว่า ขี้ขลาดตาขาว อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ก็ยอมถอนคำพูด
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า มีกระบวนการขัดขวางไม่ให้ตนอภิปราย เกรงความจริงจะปรากฏ จึงถามว่า ภายหลังจากที่เทปซีดี เผยแพร่สู่ประชาชน แล้วนายกฯ บอกว่าตัดต่อ แล้วเทปของจริงอยู่ที่ไหน ตัดต่ออย่างไรบ้างขอให้ชี้แจงให้ละเอียด
**ตัดต่อคำว่า "หมา" กระทบเหลิม
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า เรื่องนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน 3 คน และยืนยันว่า เสียงส่วนใหญ่มาจากการพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย วันที่ 19 และ26 เม.ย. ทั้งหมดชัดเจนว่า มีการตัดคำว่า ไม่ ออกแล้วไปต่อบ้าง ซึ่งตนก็อยากทราบว่าต้องการอะไร แล้วให้คิดว่าเป็นปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง ตนอยากคิดว่าถ้าเชื่อว่าเป็นเสียงตนจริงๆ กล้าประกาศไหมว่าเป็นเสียงตนจริง พูดที่ไหน เมื่อไร มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
" ถ้ามีคนไปเอาเสียง ร.ต.อ.เฉลิม พูดว่า ถ้าแบบนี้ ผมก็เป็นหมา แล้วไปตัดคำว่า เป็นหมา จะทำอย่างไร ซึ่งคลิปเสียงที่พยายามทำให้เกิดความสับสนบ้านเมืองว่า นายกฯพยายามวางแผนให้เกิดความวุ่นวาย เป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ และตนจะให้ผู้เกี่ยวข้องเผยแพร่ตนฉบับว่าเป็นอย่างไร เพราะมีหลายช่วงในคลิปดังกล่าว"
อย่างไรก็ตามในช่วงคำถามที่ 3 ร.ต.อ.เฉลิม ได้พยายามที่จะอ่านคำถอดเทปอีกครั้ง แต่ ส.ส. ประชาธิปัตย์ได้พยายามประท้วงตลอดเวลา ทำให้ประธานในที่ประชุมต้องขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ถามคำถามสุดท้าย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า พวกตนมีสติปัญญาพอ ถ้าพวกตนทำเทปพวกนี้มา จะไปด่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำไม จึงอยากถามว่าคลิปเทปนายอภิสิทธิ์ ตัดต่อตรงไหน
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า ตนตอบเรื่องนี้มาสองรอบแล้ว แล้วที่บอกว่า ถ้าพวกท่านทำคลิปนี้ จะไปพาดพิงทักษิณทำไม ซึ่งตนก็แค่บอกว่า คนที่ทำคลิปนี้ต้องการให้เกิดความเข้าใจว่า ตนไปใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ
**"เหลิม"ขู่เปิดซักฟอก ม.ค.ปีหน้า
ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์หลังการตั้งกระทู้ถามนายอภิสิทธิ์ ว่า อยากเตือนให้ตำรวจระมัดระวังการไปจับกุม เพราะถ้าสุดท้ายพิสูจน์ได้ว่า เนื้อหาในคลิป เป็นของจริงตำรวจอาจถูกฟ้องกลับได้ ยืนยันว่าเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำ ดังนั้นเลิกพูดได้แล้วประเด็นการยุบพรรค
สำหรับการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ ในสภานั้น เป็นการปฏิเสธมากกว่า ไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย ซึ่งฝ่ายค้านจะเก็บเรื่องนี้ไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ชอบธรรม และการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงใน เดือนม.ค.ด้วย เพียงแต่ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงหรือเปล่า
**ตอก"เป็ดเหลิม" ก๊าบๆ ลับหลัง
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวง ยุติธรรม กล่าวตอบโต้กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี ว่า คำพูดของคนสะท้อนสติปัญญาของตัวเอง เพิ่งรู้ว่าคนเรียนปริญญาเอก พูดได้แค่นี้ มีคนมาบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ก็รู้สึกเฉยๆ หากเป็นคนที่มีความเจริญแล้ว ต้องกลัวอะไรที่จะพูดต่อหน้า ไม่ใช่มาพูดลับหลัง ทำให้เสียหายอย่างนี้ แต่จะไม่ฟ้องร้อง เพราะกรรมใดใครก่อ ก็ได้อย่างนั้น
"อยากให้มาเจอตัวต่อตัวหน่อย ดูซิว่าจะกล้าพูดไหม หมอรู้ดีว่านิติวิทยาศาสตร์ มีอำนาจหน้าที่แค่ไหน แล้ว ร.ต.อ.เฉลิมไม่รู้เลยหรือว่าความจริงแล้วนิติวิทยาศาสตร์ ทำได้หมด หากมีใครร้องขอ และเรื่องนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีก็เป็นคนร้องขอมา แล้วเราทำไมจะไม่ทำ พูดแค่นี้ ร.ต.อ.เฉลิมคงเข้าใจนะ" พ.ญ.คุณพรทิพย์กล่าว.
ที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนคดีตัดต่อคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ ว่า การทำงานของตำรวจแบ่งออกเป็น 2 สาย คือโดยมี พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวน ได้มอบหมายให้ บช.ภ.4 ดำเนินการตรวจสอบการนำคลิปเสียงเผยแพร่ในรายการวิทยุชุมชนคนรักอุดร ส่วน บช.ก. ตรวจสอบการส่งอีเมลคลิปเสียง ที่มี นายสมศักดิ์ แซ่อึ้ง และน.ส.กันทิมา แต้มครู พนักงานบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ต้องหา
พล.ต.ท.ไถงกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการส่งอีเมล พบว่า มีส่งต่อทั้งสิ้นจำนวน 15 ครั้ง มีรายชื่ออีเมลผู้รับทั้งสิ้น จำนวน 179 รายชื่อ เบื้องต้นได้ดำเนินการเรียก 15 คน ที่เริ่มส่งต่อคลิปเสียงที่ได้จากการตรวจสอบหมายเลข ไอพีแอดเดรส มาสอบปากคำก่อนว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งมีหลายคนได้เข้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว ว่าไม่รู้เรื่อง เพียงแต่เป็นผู้ได้รับอีเมล แต่ไม่ได้ส่งต่อ
อย่างไรก็ตาม ถือว่าทั้ง 15 คน ที่เริ่มส่งคลิปเสียงต่อ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฐานเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ
"พนักงานสอบสวนได้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า นายสมศักดิ์ ซึ่งเผยแพร่คลิปเสียงเป็นคนแรก อาจเป็นคนตัดคลิปเสียง หรือทราบที่มาของคลิปเสียง เนื่องจากข้อกล่าวอ้างที่ว่า ได้รับแจกซีดีคลิปเสียงมาจากย่านห้าแยกปากเกร็ด แต่เมื่อถามถึงซีดีดังกล่าว ก็อ้างว่าหักทิ้งไปแล้ว ซึ่งน่าสงสัย เมื่อลงตรวจสอบในพื้นที่ ก็ไม่มีใครยืนยันว่ามีการแจกซีดี ดังกล่าว ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนก็ยังไม่พบว่า มีการแจกซีดีในพื้นที่ใดๆ และไม่มีการเผยแพร่คลิปเสียงในรูปแบบซีดีมีการพูดเพียงไปพบที่นั่นที่นี่ เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบ" ผบช.ก. กล่าว
พล.ต.ท.ไถงกล่าวว่า ทาง บช.ก.โคลนนิง ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์พนักงาน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ข้อมูลตรงนี้สามารถยืนยันได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องไหนมีการตัดต่อ หรือนำไฟล์เสียงที่นายกรัฐมนตรีพูดผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์ จะเป็นหลักฐานที่สาวไปถึงคนตัดต่อได้
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบหลายหน่วยงานเพื่อหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสั่งทำคลิปดังกล่าว หากพบว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง ก็จะมีความผิดฐานเป็นตัวการ หรือผู้สนับสนุน นอกจากนี้ หลักฐานทางคอมพิวเตอร์ยังสามารถชี้ได้ว่า คนทำเพราะเป็นความชอบส่วนตัว หากสืบไปได้ว่า วัตถุประสงค์ในการทำเพื่อก่อให้ความวุ่นวาย ยั่วยุให้เกิดความโกลาหล ก็จะทำให้มีโทษเพิ่มขึ้น
***มาร์คปะทะเดือดเป็ดเหลิม
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดเรื่อง เทป(คลิป) คำพูดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน โดยจะขออนุญาตเปิดคลิปเสียงดังกล่าว และหากใครจะร้องทุกข์กล่าวหา หรือจะแจ้งจับตนก็เชิญเลย
อย่างไรก็ตาม นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ไม่ยินยอมให้มีการเปิดคลิปดังกล่าว โดยอ้างว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งไว้ว่า ไม่อนุญาตให้เปิดเทปคำพูดนายกฯ เพราะในช่วงการอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ซึ่งมีส.ส.ฝ่ายค้านจะนำมาเปิด ก็ไม่อนุญาตมาครั้งหนึ่งแล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า หากนายกฯใจกว้าง จะกลัวทำไม แล้วก็ไปเก่งนอกสภา ที่บอกเปิดแล้วจะแจ้งจับตนนั้น ตนไม่กลัว และกล้ายืนยันหรือไม่ว่าเป็นเสียงนายอภิสิทธิ์ การที่ตนอยากให้เปิด เพราะต้องการให้ประชาชนได้ฟังว่า เทปนี้ตัดต่อหรือไม่ ซึ่งในเทปคำพูดดังกล่าว เสียงคุ้นหูคล้ายเสียงนายกฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อประธานในที่ประชุมไม่อนุญาตให้เปิดเทปเสียง ร.ต.อ.เฉลิม จึงได้อ่านถ้อยคำ ที่แกะมาจากเทปคำพูด ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างลุกขึ้นประท้วงประธานในที่ประชุมทันที ว่าประธานอนุญาตให้นำข้อความที่ไม่เป็นความจริง มาใส่ร้ายป้ายสีนายกฯ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ที่ไม่ถูกต้อง และขอให้ประธานได้ทบทวน เพราะขณะนี้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ อาจทำให้ประชาชนสับสนได้ เพราะข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ด้านนายสามารถ ชี้แจงว่า คลิปดังกล่าวปรากฏในสื่อมวลชนอยู่แล้ว และร.ต.อ.เฉลิมได้นำข้อความเหล่านั้นมาอ่านให้ฟัง ซึ่งตนทำตามข้อบังคับการประชุม และไม่ได้เข้าข้างใครทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตามแม้ประธานในที่ประชุมจะให้ร.ต.อ.เฉลิม อภิปรายต่อ แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังประท้วงต่อไป ซึ่งประธานในที่ประชุมจึงให้ ร.ต.อ.เฉลิม ถามคำถามแรกทันที เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีการประท้วงต่อไปไม่จบไม่สิ้น แต่ร.ต.อ.เฉลิม ก็ยังไม่ตั้งคำถาม แต่พยายามที่จะอ่านข้อความตามที่ได้ถอดเทปมา ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างลุกขึ้นประท้วงเรื่องการควบคุมการประชุม ของประธานในที่ประชุม
ในที่สุด ร.ต.อ.เฉลิม ได้ตั้งคำถามแรกว่า ในเทปคลิปเสียง เป็นเสียงนายกฯใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็บอกไม่ใช่ แล้วไม่ต้องตอบต่อ ถ้าไม่ใช่ก็จบ ถ้าใช่ถามว่ากล่าวในโอกาสใด เมื่อใด สถานที่ใด มีบุคคลใดอยู่ในสถานที่นั้นด้วย และทำไมกล่าวเช่นนั้น
**ยันเสียงตัดต่อจากรายการเชื่อมั่นฯ
นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงว่า การจะให้สภาฯเปิดคลิปเสียงหรือไม่เปิดนั้น ขอทำความเข้าใจว่า ไม่มีอะไรน่าเกรงกลัว แต่สภาฯนี้ต้องมีบรรทัดฐาน หากเสียงดังกล่าวมีการพิสูจน์ว่าเป็นเท็จแล้วใช้ประโยชน์ทางการเมือง ก็เป็นเรื่องที่แย่อยู่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองเป็นเรื่องที่แย่มากกว่า และเมื่อพิสูจน์เบื้องต้นเป็นเท็จ ก็เป็นการสมคบทำร้ายประเทศชาติบ้านเมือง ที่จะตอบคือ ตนได้ฟังข้อความทั้งหมด 3 นาที 28 วินาที ยืนยันว่า มีข้อความหลายตอนเป็นเสียงตน แต่ไม่สามารถยืนยันเป็นเสียงตนทั้งหมดหรือไม่ และถ้าฟัง และวิเคราะห์ตรวจสอบข้อเท็จจริง จะทราบมุ่งหมายของคนทำคลิปนี้มีจุดมุ่งหมายอะไร และเสียงที่ยืนยันได้คือ ส่วนใหญ่เป็นเสียงที่ตนที่ไปออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทย วันที่ 19 และ 26 เม.ย. และมีทีมงานของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยอยู่ด้วย
ส่วนผู้ติดตามวอล์เปเปอร์ มีหรือไม่ จำไม่ได้ ที่บอกว่าตัดมา 6 ช่วงนั้น เป็นการเอาคำพูดของตนในรายการบันทึกเทป 2 ครั้งหลัก มาเรียบเรียงใหม่ เนื้อหาสาระไม่ใช่อยู่แล้ว และตนยืนยันว่า ข้อความที่ระบุว่า "ขอให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบในการชุมนุม" ซึ่งตนยืนยันว่า คำพูดว่า ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบเป็นเสียงตน ซึ่งพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย วันที่ 26 เม.ย. 52 นาทีที่ 3 วินาทีที่ 28 ตนพูดต่อเนื่องว่า ทุกมาตรการที่ใช้ 1. ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ 2. พึ่งหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ แต่คนทำคลิปนี้ตัดข้อความที่ว่าพึ่งหลีกเลี่ยงออก เหลือแค่ “ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ” ซึ่งทางวิทยาศาสตร์พูดสองครั้ง มันจะไม่เหมือนกันแบบนี้ เห็นว่าคนที่ทำจงใจบิดเบือน และจงใจให้เป็นเรื่องเท็จ จงใจใส่ร้าย และเข้าใจผิดในตัวตน เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย อย่างถ้อยคำที่บอกว่า ให้ปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์ และวิทยุกระจายเสียง ตนได้พูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยวันที่ 19 เม.ย. ซึ่งตนพูดว่า ทราบดีว่าจะไปปิดสถานีวิทยุโทรทัศน์ และวิทยุกระจายเสียง แต่มีการตัดออกให้เหลือแค่ ปิดสถานี
" ดังนั้นจบเพียงแค่นี้ และผมจะตอบแค่นี้ อย่าให้ไร้สาระไปมากกว่านี้ จะผิดข้อบังคับ"
**ตะแบงไม่ยอมรับฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้อภิปรายต่อว่า เหตุที่ตนและพรรคเพื่อไทย ไม่เชื่อถือในการพิสูจน์หลักฐาน เพราะที่รัฐบาลอ้างว่ามีการตรวจสอบเทปดังกล่าวทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่ามีการตัดต่อ โดยอ้างว่า พ.ต.ท.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นักวิทยาศาสตร์ (สบ 3) ผู้เชี่ยวชาญกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว ที่ฝ่ายค้านไม่เชื่อเพราะคนที่เชี่ยวชาญต้องขึ้นทะเบียนกับศาล แต่จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ และ พ.ต.ท.วิวัฒน์ ทางกระทรวงวิทยาศาตร์แต่งตั้งให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ จบปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านฟิสิกส์ แต่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกองพิสูจน์หลักฐาน ส่วน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ จบนิติวิทยาศาสตร์ มีความน่าเชื่อถือในด้านการชันสูตรพลิกศพ แล้วมาตรวจเทป ตนจะเชื่อได้หรือ
ส่วน รมว.ไอซีที บอกว่าส่งเทปเจ้าปัญหาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบแล้ว ส่งให้ใคร ตนไปตรวจสอบพบว่า ส่งไปให้บริษัทกันตนา ซึ่งเขาเชี่ยวชาญด้านตัดต่อละคร แบบนี้จะเชื่อได้อย่างไร แล้วส่งไปที่ ดีเอสไอ กรมนี้ตนเขียนยกร่าง ก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร บอกว่าตนไม่เคารพผู้เชี่ยวชาญ แต่จริงๆไม่ได้ตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญเขาต้องใช้คำว่า อาจเชื่อได้ว่า ไม่ใช่ฟันธงเช่นนี้ แบบนี้มันเป็นการอุ้มรัฐบาล อยากให้พูดตรงไปตรงมา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
"ผมเชื่อว่าเป็นการลักลอบอัดเทป แล้วอาจเดินไปเดินมาทำให้เสียงคลื่นไม่ตรงกัน แล้วเรื่องนี้ข่าวออกมาตอนไหน ก็ออกมาตอนช่วงอภิสิทธิ์ขัดแย้งกับหน่วยงานความมั่นคง เรื่องตั้ง ผบ.ตร. เนื้อหาในเทปพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความสงบ และพูดหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งการยึดสถานี มีจริง การสลายการชุมนุมก็มี ซึ่งพูดอะไรก็มีหมด แล้วหากฟังก็เป็นเสียงของคนคนเดียว และน่าเชื่อว่าคำพูดทั้งหมดเป็นของนายกฯ ดังนั้นนายกฯ เอาเทปบันทึกเมื่อวันที่ 19 เม.ย. และวันที่ 26 เม.ย. เอามาชี้แจง ผมกล่าวหาท่านบอกว่าเป็นเสียงของท่าน ก็ต้องพิสูจน์ว่า ตัดต่ออย่างไร อย่าไปเชื่อกองพิสูจน์หลักฐาน คนส่งไปตรวจสอบเป็นคนของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จึงส่งไปตรวจเร็วมาเร็ว และหากถอดเทปถ้อยคำไม่กระโดด"ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงนี้ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า การตั้งกระทู้ของ ร.ต.อ.เฉลิม จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสภาฯ เพราะไม่ดำเนินการตามข้อบังคับ ไม่เข้าข่ายกระทู้ถามสด และการตั้งกระทู้ดังกล่าว จะสร้างความเสียหายให้กับท่านเอง
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวตอบโต้ว่า จะเสียหาย ตนก็เสียหายเอง และถามว่าวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน ต้องถามเรื่องนี้แน่นอน แล้วที่บอกว่าเป็นของปลอม แล้วของจริงอยู่ไหน เอาออกมา ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ทางการเมืองเรียกว่า ขี้ขลาดตาขาว
เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวคำว่า ขี้ขลาดตาขาว ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ลุกขึ้นประท้วงทันที และขอให้ถอนคำพูดดังกล่าว แต่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตนบอกว่าพฤติกรรมแบบนี้ของรัฐบาล เรียกว่า ขี้ขลาดตาขาว อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ก็ยอมถอนคำพูด
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า มีกระบวนการขัดขวางไม่ให้ตนอภิปราย เกรงความจริงจะปรากฏ จึงถามว่า ภายหลังจากที่เทปซีดี เผยแพร่สู่ประชาชน แล้วนายกฯ บอกว่าตัดต่อ แล้วเทปของจริงอยู่ที่ไหน ตัดต่ออย่างไรบ้างขอให้ชี้แจงให้ละเอียด
**ตัดต่อคำว่า "หมา" กระทบเหลิม
นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า เรื่องนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐาน 3 คน และยืนยันว่า เสียงส่วนใหญ่มาจากการพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทย วันที่ 19 และ26 เม.ย. ทั้งหมดชัดเจนว่า มีการตัดคำว่า ไม่ ออกแล้วไปต่อบ้าง ซึ่งตนก็อยากทราบว่าต้องการอะไร แล้วให้คิดว่าเป็นปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลบ้าง ตนอยากคิดว่าถ้าเชื่อว่าเป็นเสียงตนจริงๆ กล้าประกาศไหมว่าเป็นเสียงตนจริง พูดที่ไหน เมื่อไร มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
" ถ้ามีคนไปเอาเสียง ร.ต.อ.เฉลิม พูดว่า ถ้าแบบนี้ ผมก็เป็นหมา แล้วไปตัดคำว่า เป็นหมา จะทำอย่างไร ซึ่งคลิปเสียงที่พยายามทำให้เกิดความสับสนบ้านเมืองว่า นายกฯพยายามวางแผนให้เกิดความวุ่นวาย เป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ และตนจะให้ผู้เกี่ยวข้องเผยแพร่ตนฉบับว่าเป็นอย่างไร เพราะมีหลายช่วงในคลิปดังกล่าว"
อย่างไรก็ตามในช่วงคำถามที่ 3 ร.ต.อ.เฉลิม ได้พยายามที่จะอ่านคำถอดเทปอีกครั้ง แต่ ส.ส. ประชาธิปัตย์ได้พยายามประท้วงตลอดเวลา ทำให้ประธานในที่ประชุมต้องขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม ถามคำถามสุดท้าย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า พวกตนมีสติปัญญาพอ ถ้าพวกตนทำเทปพวกนี้มา จะไปด่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำไม จึงอยากถามว่าคลิปเทปนายอภิสิทธิ์ ตัดต่อตรงไหน
อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า ตนตอบเรื่องนี้มาสองรอบแล้ว แล้วที่บอกว่า ถ้าพวกท่านทำคลิปนี้ จะไปพาดพิงทักษิณทำไม ซึ่งตนก็แค่บอกว่า คนที่ทำคลิปนี้ต้องการให้เกิดความเข้าใจว่า ตนไปใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ
**"เหลิม"ขู่เปิดซักฟอก ม.ค.ปีหน้า
ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์หลังการตั้งกระทู้ถามนายอภิสิทธิ์ ว่า อยากเตือนให้ตำรวจระมัดระวังการไปจับกุม เพราะถ้าสุดท้ายพิสูจน์ได้ว่า เนื้อหาในคลิป เป็นของจริงตำรวจอาจถูกฟ้องกลับได้ ยืนยันว่าเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำ ดังนั้นเลิกพูดได้แล้วประเด็นการยุบพรรค
สำหรับการชี้แจงของนายอภิสิทธิ์ ในสภานั้น เป็นการปฏิเสธมากกว่า ไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย ซึ่งฝ่ายค้านจะเก็บเรื่องนี้ไว้อภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมกับเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ชอบธรรม และการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงใน เดือนม.ค.ด้วย เพียงแต่ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงหรือเปล่า
**ตอก"เป็ดเหลิม" ก๊าบๆ ลับหลัง
พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวง ยุติธรรม กล่าวตอบโต้กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี ว่า คำพูดของคนสะท้อนสติปัญญาของตัวเอง เพิ่งรู้ว่าคนเรียนปริญญาเอก พูดได้แค่นี้ มีคนมาบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว ก็รู้สึกเฉยๆ หากเป็นคนที่มีความเจริญแล้ว ต้องกลัวอะไรที่จะพูดต่อหน้า ไม่ใช่มาพูดลับหลัง ทำให้เสียหายอย่างนี้ แต่จะไม่ฟ้องร้อง เพราะกรรมใดใครก่อ ก็ได้อย่างนั้น
"อยากให้มาเจอตัวต่อตัวหน่อย ดูซิว่าจะกล้าพูดไหม หมอรู้ดีว่านิติวิทยาศาสตร์ มีอำนาจหน้าที่แค่ไหน แล้ว ร.ต.อ.เฉลิมไม่รู้เลยหรือว่าความจริงแล้วนิติวิทยาศาสตร์ ทำได้หมด หากมีใครร้องขอ และเรื่องนี้ทางสำนักนายกรัฐมนตรีก็เป็นคนร้องขอมา แล้วเราทำไมจะไม่ทำ พูดแค่นี้ ร.ต.อ.เฉลิมคงเข้าใจนะ" พ.ญ.คุณพรทิพย์กล่าว.