ASTVผู้จัดการรายวัน – กรมอุตุฯฉาว สตง.จ้องฟันโครงการประมูลระบบเตือนภัยทางทะเล 200 ล้านส่งกลิ่น หลังพบล็อกสเปก 4 ขั้น เอื้อประโยชน์บางบริษัท ด้านว่าที่อธิบดีกรมอุตุฯคนใหม่แจงหากได้รับโปรดเกล้าฯเมื่อไหร่ พร้อมดำเนินการตรวจสอบทันที
แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่าสตง.ได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสของโครงการจัดหาระบบเตือนภัยพิบัติอุตุนิยมวิทยาทะเล 1 ระบบของศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท โดยลงเลขรับที่ 436 ลงวันที่ 4 พ.ค. 2552 จากบริษัท แมพพ้อยท์เอเชีย (ประเทศไทย)
ทั้งนี้ในหนังสือร้องเรียนระบุว่ากรมอุตุฯได้ออกประกาศร่างทีโออาร์ การประกวดราคาโครงการดังกล่าว ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 20-25 มี.ค. 2552 โดยบริษัทพบว่าคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในทีโออาร์ไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส โดยเอื้อประโยชน์กับผู้ผลิต CODAR เพียงรายเดียว เป็นเหตุให้บริษัทอื่นๆไม่สามารถเข้าร่วมประกวดราคาได้ ซึ่งบริษัทได้เขียนความเห็นไว้บนหน้าเว็บไซต์ของกรมอุตุฯ ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. กรมอุตุฯได้ออกประกาศร่างทีโออาร์ดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็น ในขณะที่ยังมีเนื้อหาสาระที่เอื้อประโยชน์กับผู้ผลิต CODAR เพียงรายเดียวเช่นเดิม
แหล่งข่าวจากกรมอุตุฯกล่าวว่าเบื้องหลังโครงการนี้เริ่มด้วยประกาศทีโออาร์ครั้งแรกในช่วงวันที่ 20-25 มี.ค.52 แต่มีเสียงสะท้อนว่าล็อกสเปกอุปกรณ์ให้ผู้ผลิตรายหนึ่งเป็นการเฉพาะอีกทั้งระบบการให้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคคลุมเครือไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนขึ้นอยู่กับความพอใจของคณะกรรมการ พอมีคนรู้ทัน กรมอุตุฯจึงทำการปรับปรุงทีโออาร์เล็กน้อยในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญเพราะยังคงสาระสำคัญในการล็อกสเปกอุปกรณ์เรดาร์ตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำให้ผู้ผลิตบางรายไว้เช่นเดิม แล้วประกาศขายซองประกวดราคาเลยในระหว่างวันที่ 15-22 พ.ค.2552 ถือเป็นการล็อกสเปกขั้นที่ 1
‘คนซื้อซองประกวดราคางงเป็นไก่ตาแตก เพราะเจอวิชามารกำหนดให้ผู้ที่มีข้อสงสัยในทีโออาร์ต้องยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังกรมอุตุฯในวันที่ 20 พ.ค. 2552 ก่อนเวลา 15.00 น.หากช้ากว่านั้นจะไม่ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น ถือเป็นการจงใจปิดกั้นข้อสงสัยก่อนหมดระยะเวลาการซื้อซองประกวดราคา’
แต่เมื่อมีคนสงสัยถามถึงเหตุผลในการปิดกั้นดังกล่าว กรมอุตุฯจึงแก้เกี้ยวด้วยการแจ้งให้ผู้ซื้อซองประกวดราคามาฟังการชี้แจงรายละเอียดและตอบคำถามในวันที่ 26 พ.ค.2552 ซึ่งเมื่อมีคนถามว่าทำไมทีโออาร์ที่ปรับปรุงใหม่ยังต้องมีการล็อกสเปกคอมพิวเตอร์เป็นยี่ห้อเดลล์ (DELL) แถมยังล็อกอีกชั้นด้วยการกำหนดว่าต้องเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิตโดยตรงหรือจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย มีอายุไม่เกิน 60 วันนับถึงวันที่เสนอราคา ทำให้ถึงแม้บางบริษัทจะเคยได้รับการแต่งตั้งมาแล้ว หากอายุเกิน 60 วันก็ใช้ไม่ได้ ซึ่งปรากฏว่ามีผู้สนใจติดต่อขอเป็นตัวแทนไปที่เดลล์ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเพราะแต่งตั้งตัวแทนให้บางบริษัทไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นการล็อกสเปกขั้นที่ 2
‘น่าสังเกตว่าอุปกรณ์หลักของระบบเตือนภัยทางทะเลคือเรดาร์ตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำที่จำเป็นจะต้องมีหนังสือรับรองการเป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิต เพื่อความมั่นใจของกรมอุตุฯว่าการส่งมอบเครื่องและการบำรุงรักษาจะไม่เกิดปัญหา แต่สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เป็นอุปกรณ์ประกอบที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป ทำไมถึงต้องมีหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย และยังต้องระบุระยะเวลา 60 วันด้วย’
นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าสงสัยในเรื่องข้อเสนอด้านเทคนิคซึ่งผู้เข้าประกวดราคาต้องเตรียมซีดี สาธิตโปรแกรมจำลองภาพเคลื่อนไหว 3 มิติเพื่อใช้ในการพยากรณ์สภาพอากาศ การเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง การเคลื่อนตัวของคลื่นและกระแสน้ำ โดยยกำหนดให้คะแนนผลการสาธิตโปรแกรมสูงถึง 20 คะแนน แต่เมื่อถามถึงหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานในการให้คะแนน คณะกรรมการกลับตอบว่าอยู่ที่ดุลยพินิจของคณะกรรมการในการให้คะแนน ถือเป็นการล็อกสเปกขั้นที่ 3
โครงการดังกล่าวยังมีการหมกเม็ดหลายขั้นตอนอย่างเรื่องสถานที่ติดตั้งระบบเรดาร์ตรวจวัดคลื่นกระแสน้ำ มีการกำหนดไว้อย่างกว้างๆเช่นระบบบเรดาร์ติดตั้งที่ชลบุรีหรือระยอง 1 ชุด ติดตั้งที่สุราษฎร์ธานีหรือนครศรีธรรมราช 1 ชุดและที่ภูเก็ต 1 ชุด เครื่องมือตรวจอากาศติดตั้งตามชายฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน 14 แห่งของจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สมุทรปราการ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ตและปัตตานี โดยไม่กำหนดว่าอยู่ในอำเภอไหน หรือตำบลใด ต้องไปควานหากันเองและไม่ใช่พื้นที่ของกรมอุตุฯ ทำให้ต้องมีการขออนุญาตเจ้าของสถานที่ก่อน ซึ่งเป็นปัญหาในการสำรวจที่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูง
แต่หากบริษัทไหนมีความสนิทสนมใกล้ชิดรู้สถานที่ล่วงหน้า ก็สามารถคิดคำนวณค่าใช้จ่ายได้ใกล้เคียงและแม่นยำมากกว่าคนอื่น ถือเป็นการล็อกสเปกเอื้อประโยชน์ขั้นที่ 4
ทั้งนี้โครงการประกวดราคาระบบเตือนภัยทางทะเลมีนายสมชาย ใบม่วง เป็นประธานกรรมการ นายวัฒนา กันบัว นายประเสริฐสุทธิ์ สุทธิเทศและนายธนรัชต์ แจ่มฤกษ์แจ้ง เป็นกรรมการ โดยนายสมชายในขณะนั้นถือเป็นว่าที่อธิบดีกรมอุตุฯ หลังผ่านกระบวนการสรรหาประเภทคาบลูกคาบดอก แต่ภายหลังกระทรวงไอซีทีต้องถอนชื่อนายสมชายกลับเพราะพบว่าผิดขั้นตอนไม่เป็นไปตามพ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 และเสนอชื่อนายอังสุมาล ศุนาลัย รองปลัดกระทรวงไอซีที ขึ้นเป็นอธิบดีกรมอุตุฯราว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
ด้านนายอังสุมาลกล่าวถึงเรื่องมีผู้ร้องให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างเรดาร์ทะเลว่าหากเรื่องดังกล่าวถูกส่งมายังกระทรวงไอซีทีก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบ หรือหากได้เข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุตุฯภายหลังการโปรดเกล้าฯก็จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการดังกล่าวทันที
แหล่งข่าวจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวว่าสตง.ได้รับหนังสือร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสของโครงการจัดหาระบบเตือนภัยพิบัติอุตุนิยมวิทยาทะเล 1 ระบบของศูนย์อุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท โดยลงเลขรับที่ 436 ลงวันที่ 4 พ.ค. 2552 จากบริษัท แมพพ้อยท์เอเชีย (ประเทศไทย)
ทั้งนี้ในหนังสือร้องเรียนระบุว่ากรมอุตุฯได้ออกประกาศร่างทีโออาร์ การประกวดราคาโครงการดังกล่าว ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 20-25 มี.ค. 2552 โดยบริษัทพบว่าคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในทีโออาร์ไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใส โดยเอื้อประโยชน์กับผู้ผลิต CODAR เพียงรายเดียว เป็นเหตุให้บริษัทอื่นๆไม่สามารถเข้าร่วมประกวดราคาได้ ซึ่งบริษัทได้เขียนความเห็นไว้บนหน้าเว็บไซต์ของกรมอุตุฯ ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. กรมอุตุฯได้ออกประกาศร่างทีโออาร์ดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้มีการแสดงความเห็น ในขณะที่ยังมีเนื้อหาสาระที่เอื้อประโยชน์กับผู้ผลิต CODAR เพียงรายเดียวเช่นเดิม
แหล่งข่าวจากกรมอุตุฯกล่าวว่าเบื้องหลังโครงการนี้เริ่มด้วยประกาศทีโออาร์ครั้งแรกในช่วงวันที่ 20-25 มี.ค.52 แต่มีเสียงสะท้อนว่าล็อกสเปกอุปกรณ์ให้ผู้ผลิตรายหนึ่งเป็นการเฉพาะอีกทั้งระบบการให้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคคลุมเครือไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนขึ้นอยู่กับความพอใจของคณะกรรมการ พอมีคนรู้ทัน กรมอุตุฯจึงทำการปรับปรุงทีโออาร์เล็กน้อยในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญเพราะยังคงสาระสำคัญในการล็อกสเปกอุปกรณ์เรดาร์ตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำให้ผู้ผลิตบางรายไว้เช่นเดิม แล้วประกาศขายซองประกวดราคาเลยในระหว่างวันที่ 15-22 พ.ค.2552 ถือเป็นการล็อกสเปกขั้นที่ 1
‘คนซื้อซองประกวดราคางงเป็นไก่ตาแตก เพราะเจอวิชามารกำหนดให้ผู้ที่มีข้อสงสัยในทีโออาร์ต้องยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังกรมอุตุฯในวันที่ 20 พ.ค. 2552 ก่อนเวลา 15.00 น.หากช้ากว่านั้นจะไม่ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น ถือเป็นการจงใจปิดกั้นข้อสงสัยก่อนหมดระยะเวลาการซื้อซองประกวดราคา’
แต่เมื่อมีคนสงสัยถามถึงเหตุผลในการปิดกั้นดังกล่าว กรมอุตุฯจึงแก้เกี้ยวด้วยการแจ้งให้ผู้ซื้อซองประกวดราคามาฟังการชี้แจงรายละเอียดและตอบคำถามในวันที่ 26 พ.ค.2552 ซึ่งเมื่อมีคนถามว่าทำไมทีโออาร์ที่ปรับปรุงใหม่ยังต้องมีการล็อกสเปกคอมพิวเตอร์เป็นยี่ห้อเดลล์ (DELL) แถมยังล็อกอีกชั้นด้วยการกำหนดว่าต้องเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิตโดยตรงหรือจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย มีอายุไม่เกิน 60 วันนับถึงวันที่เสนอราคา ทำให้ถึงแม้บางบริษัทจะเคยได้รับการแต่งตั้งมาแล้ว หากอายุเกิน 60 วันก็ใช้ไม่ได้ ซึ่งปรากฏว่ามีผู้สนใจติดต่อขอเป็นตัวแทนไปที่เดลล์ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเพราะแต่งตั้งตัวแทนให้บางบริษัทไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นการล็อกสเปกขั้นที่ 2
‘น่าสังเกตว่าอุปกรณ์หลักของระบบเตือนภัยทางทะเลคือเรดาร์ตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำที่จำเป็นจะต้องมีหนังสือรับรองการเป็นตัวแทนจำหน่ายจากผู้ผลิต เพื่อความมั่นใจของกรมอุตุฯว่าการส่งมอบเครื่องและการบำรุงรักษาจะไม่เกิดปัญหา แต่สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เป็นอุปกรณ์ประกอบที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หาซื้อได้ตามร้านทั่วไป ทำไมถึงต้องมีหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย และยังต้องระบุระยะเวลา 60 วันด้วย’
นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าสงสัยในเรื่องข้อเสนอด้านเทคนิคซึ่งผู้เข้าประกวดราคาต้องเตรียมซีดี สาธิตโปรแกรมจำลองภาพเคลื่อนไหว 3 มิติเพื่อใช้ในการพยากรณ์สภาพอากาศ การเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง การเคลื่อนตัวของคลื่นและกระแสน้ำ โดยยกำหนดให้คะแนนผลการสาธิตโปรแกรมสูงถึง 20 คะแนน แต่เมื่อถามถึงหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานในการให้คะแนน คณะกรรมการกลับตอบว่าอยู่ที่ดุลยพินิจของคณะกรรมการในการให้คะแนน ถือเป็นการล็อกสเปกขั้นที่ 3
โครงการดังกล่าวยังมีการหมกเม็ดหลายขั้นตอนอย่างเรื่องสถานที่ติดตั้งระบบเรดาร์ตรวจวัดคลื่นกระแสน้ำ มีการกำหนดไว้อย่างกว้างๆเช่นระบบบเรดาร์ติดตั้งที่ชลบุรีหรือระยอง 1 ชุด ติดตั้งที่สุราษฎร์ธานีหรือนครศรีธรรมราช 1 ชุดและที่ภูเก็ต 1 ชุด เครื่องมือตรวจอากาศติดตั้งตามชายฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน 14 แห่งของจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สมุทรปราการ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ตและปัตตานี โดยไม่กำหนดว่าอยู่ในอำเภอไหน หรือตำบลใด ต้องไปควานหากันเองและไม่ใช่พื้นที่ของกรมอุตุฯ ทำให้ต้องมีการขออนุญาตเจ้าของสถานที่ก่อน ซึ่งเป็นปัญหาในการสำรวจที่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายสูง
แต่หากบริษัทไหนมีความสนิทสนมใกล้ชิดรู้สถานที่ล่วงหน้า ก็สามารถคิดคำนวณค่าใช้จ่ายได้ใกล้เคียงและแม่นยำมากกว่าคนอื่น ถือเป็นการล็อกสเปกเอื้อประโยชน์ขั้นที่ 4
ทั้งนี้โครงการประกวดราคาระบบเตือนภัยทางทะเลมีนายสมชาย ใบม่วง เป็นประธานกรรมการ นายวัฒนา กันบัว นายประเสริฐสุทธิ์ สุทธิเทศและนายธนรัชต์ แจ่มฤกษ์แจ้ง เป็นกรรมการ โดยนายสมชายในขณะนั้นถือเป็นว่าที่อธิบดีกรมอุตุฯ หลังผ่านกระบวนการสรรหาประเภทคาบลูกคาบดอก แต่ภายหลังกระทรวงไอซีทีต้องถอนชื่อนายสมชายกลับเพราะพบว่าผิดขั้นตอนไม่เป็นไปตามพ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือนพ.ศ. 2551 และเสนอชื่อนายอังสุมาล ศุนาลัย รองปลัดกระทรวงไอซีที ขึ้นเป็นอธิบดีกรมอุตุฯราว 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
ด้านนายอังสุมาลกล่าวถึงเรื่องมีผู้ร้องให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างเรดาร์ทะเลว่าหากเรื่องดังกล่าวถูกส่งมายังกระทรวงไอซีทีก็จะเร่งดำเนินการตรวจสอบ หรือหากได้เข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมอุตุฯภายหลังการโปรดเกล้าฯก็จะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการดังกล่าวทันที
