นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลสำรวจทัศนของประชาชนต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐษนะผู้นำรัฐบาล จากกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ว่า ขณะนี้ผลการแต่งตั้งยังไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะผู้นำของนายกฯ หรือเรื่องอื่นๆ ถือว่าจะต้องรอให้กระบวนการยุติเสียก่อน จึงจะสะท้อนความรู้สึกของประชาชนที่แท้จริง
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่ากระบวนการปล่อยข่าวลวง ในเรื่องการปฏิวัติ การเตรียมชุมนุมใหญ่ ของกลุ่ม นปช. ก็มีผลต่อความเชื่อมั่น แต่เมื่อสิ่งต่างๆ ยุติลงในสิ้นเดือนนี้ ความเชื่อมั่นและความคาดหวังที่ประชาชนมี ก็จะทำให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าได้อีกครั้งหนึ่ง
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทยได้เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ในวันนี้ (25ส.ค.) เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าในคดี พันธมิตรฯ ยึดสนามบิน ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากเจตนาในการสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนว่า รัฐบาลเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มการเมือง ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคดีความเกิดขึ้นกับกลุ่ม นปช. ตั้งแต่เมื่อรัฐบาลที่แล้ว และรัฐบาลปัจจุบัน คดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งหมดถือว่าเดินหน้าด้วยมาตรฐานเดียว ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม หากนับตามจำนวนคดี กลุ่มพันธมิตรฯ มีคดีมากกว่ากลุ่ม นปช. แต่พันธมิตรฯ ก็ยอมรับที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากพรรคเพื่อไทยต้องการรักษาความถูกต้องของบ้านเมือง ก็ควรจะเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม เช่น เดียวกับผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีอื่น โดยรัฐบาลจะไม่เลือกปฏิบัติ และจะให้ทุกคนได้รับสิทธิในการได้รับความยุติธรรม
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า จะสนับสนุนให้ นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ต่อจากนายอภิสิทธิ์ ว่า พรรคได้มีการประเมินว่า ข่าวที่ปล่อยออกมาจากไหน ซึ่งวันนี้ทราบแล้วว่า มาจากพรรคเพื่อไทย จึงตั้งข้อสงสัยว่า วันนี้หากพรรคเพื่อไทยเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เหมาะสมที่จะบริหารบ้านเมืองต่อไป ทำไมฝ่ายค้านจึงไม่มีความพร้อมที่จะเสนอบุคคลที่มีความเหมาะสม เข้ามาดูแลปัญหาของประเทศชาติ หากจะใช้กระบวนการรัฐสภาให้เดินหน้าได้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในการปะชุมสภาสมัยทั่วไปครั้งหน้า ก็สามารถกระทำได้
ขณะนี้สิ่งที่ทำให้กระบวนการตรวจสอบไม่สามารถทำงานได้ คือ การที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถ หาบุคคลที่พร้อมจะเป็นนายกฯ มาเป็นหัวหน้าพรรค ทำให้ไม่สามารถโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้สังคมขาดทางเลือกทางการเมือง ในช่วงที่บ้านเมืองจำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบแข่งขันตรวจสอบนโยบายและการบริหารประเทศเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า ระบอบประชาธิปไตยจะมีทางออกให้กับบ้านเมืองแม้จะอยูในยามวิกฤติก็ตาม
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่ากระบวนการปล่อยข่าวลวง ในเรื่องการปฏิวัติ การเตรียมชุมนุมใหญ่ ของกลุ่ม นปช. ก็มีผลต่อความเชื่อมั่น แต่เมื่อสิ่งต่างๆ ยุติลงในสิ้นเดือนนี้ ความเชื่อมั่นและความคาดหวังที่ประชาชนมี ก็จะทำให้ประเทศชาติสามารถเดินหน้าได้อีกครั้งหนึ่ง
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทยได้เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ในวันนี้ (25ส.ค.) เพื่อทวงถามถึงความคืบหน้าในคดี พันธมิตรฯ ยึดสนามบิน ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากเจตนาในการสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนว่า รัฐบาลเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มการเมือง ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ข้อเท็จจริงคดีความเกิดขึ้นกับกลุ่ม นปช. ตั้งแต่เมื่อรัฐบาลที่แล้ว และรัฐบาลปัจจุบัน คดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งหมดถือว่าเดินหน้าด้วยมาตรฐานเดียว ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม หากนับตามจำนวนคดี กลุ่มพันธมิตรฯ มีคดีมากกว่ากลุ่ม นปช. แต่พันธมิตรฯ ก็ยอมรับที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากพรรคเพื่อไทยต้องการรักษาความถูกต้องของบ้านเมือง ก็ควรจะเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม เช่น เดียวกับผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีอื่น โดยรัฐบาลจะไม่เลือกปฏิบัติ และจะให้ทุกคนได้รับสิทธิในการได้รับความยุติธรรม
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า จะสนับสนุนให้ นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ต่อจากนายอภิสิทธิ์ ว่า พรรคได้มีการประเมินว่า ข่าวที่ปล่อยออกมาจากไหน ซึ่งวันนี้ทราบแล้วว่า มาจากพรรคเพื่อไทย จึงตั้งข้อสงสัยว่า วันนี้หากพรรคเพื่อไทยเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เหมาะสมที่จะบริหารบ้านเมืองต่อไป ทำไมฝ่ายค้านจึงไม่มีความพร้อมที่จะเสนอบุคคลที่มีความเหมาะสม เข้ามาดูแลปัญหาของประเทศชาติ หากจะใช้กระบวนการรัฐสภาให้เดินหน้าได้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในการปะชุมสภาสมัยทั่วไปครั้งหน้า ก็สามารถกระทำได้
ขณะนี้สิ่งที่ทำให้กระบวนการตรวจสอบไม่สามารถทำงานได้ คือ การที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถ หาบุคคลที่พร้อมจะเป็นนายกฯ มาเป็นหัวหน้าพรรค ทำให้ไม่สามารถโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะทำให้สังคมขาดทางเลือกทางการเมือง ในช่วงที่บ้านเมืองจำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบแข่งขันตรวจสอบนโยบายและการบริหารประเทศเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า ระบอบประชาธิปไตยจะมีทางออกให้กับบ้านเมืองแม้จะอยูในยามวิกฤติก็ตาม
