xs
xsm
sm
md
lg

"คำนูณ"กระทุ้งรัฐบาล ปฏิรูปการเมืองเอาไงแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวานนี้ ( 24 ส.ค.) โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ซ฿งได้มีการพิจารณากระทู้ถาม เรื่องแนวทางในการดำเนินการปฏิรูปการเมือง ตามนโยบายของรัฐบาลข้อ 1.1.3 ที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ถามต่อนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ มอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ มาตอบกระทู้แทน
นายคำนูณ กล่าวว่า รัฐบาลประกาศนโยบายปฏิรูปการเมืองโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมต่อรัฐสภา ต่อมาคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอผลการศึกษา ซึ่งแม้มีความเห็นที่แตกต่าง แต่บางครั้งรัฐบาลต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง ในสิ่งที่เห็นว่าถูกต้อง ถ้าเคลื่อนก็จะค่อยๆ สร้างความเห็นพ้องระดับหนึ่ง แต่ถ้ารัฐบาลยังทำแบบนี้คือ โยนไปโยนมา ถึงจุดสุดท้าย จะสมานฉันท์ หรือจะปฏิรูปการเมืองตรงไหน แล้วรัฐบาลมีท่าทีอย่างไร ต่อสิ่งที่พรรคการเมืองเริ่มเสนอแนวทางเช่น ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ หรือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ผู้ชุมนุม
นายสาทิตย์ ชี้แจงว่ารัฐบาลเห็นปัญหา จึงคิดว่าจะให้สถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้ดำเนินการ แต่มีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย ต่อมาเมื่อมีเหตุการณ์ช่วงสงกรานต์ ทำให้ความขัดแย้งปะทุรุนแรงขึ้น จนสภาเรียกร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และทุกฝ่ายหันมาพูดถึงการสมานฉันท์ ทำให้มีคณะกรรมการขึ้นมา รัฐบาลก็เห็นว่า น่าจะเป็นทางออก เพราะมีหลายฝ่ายเข้ามาร่วมกัน เมื่อคณะกรรมการศึกษาเสร็จสิ้นและเสนอมาก็มีคำถามว่า ทำไมรัฐบาลถึงโยนมาที่สภาอีกครั้ง เรื่องนี้ ต้องพิจารณาให้ชัดโดย ข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ มี 3 กรอบ คือ กรอบสมานฉันท์ กรอบปฏิรูปการเมือง และนำไปสู่กรอบแก้รัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ดี ข้อเสนอบางเรื่องยังมีการคัดค้าน และเตรียมเคลื่อนไหว และมองว่าไม่ใช่การปฏิรูป แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะนักการเมือง รัฐบาลเองก็ได้พูดคุยกันถึงตรงนี้ จึงมองว่าถ้ารัฐบาลเป็นเจ้าภาพเสนอแก้รัฐธรรมนูญเอง ก็จะไม่สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ที่ให้ลดเงื่อนไข จึงเห็นว่า ควรเสนอให้รัฐสภาพิจารณา แต่รัฐบาลก็ติดตามผ่านพรรคการเมืองโดยตลอด แต่สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนเร็วมาก จนจู่ๆ มีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมเข้ามา ก็มีหลายฝ่ายยังไม่เห็นด้วย แต่ตอนนี้เมื่อบรรจุวาระแล้ว วิปรัฐบาลก็ต้องไปถามคนร่างว่า วัตถุประสงค์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร และดูกันว่าจะพิจารณากันอย่างไร
นายสาทิตย์ กล่าวว่า การกำหนด ระยะเวลาที่ชัดเจนในการปฏิรูปการเมือง เมื่อสถานการณ์มาถึงตรงจุดนี้ การตัดสินใจจะยิ่งสำคัญมาก โจทย์คือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ ที่มีการเสนอ และการแก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหลายประเด็นเรื่องการปฏิรูปการเมืองที่มากกว่านี้คือ การปราบทุจริต ซึ่งรัฐบาลเดินหน้าอยู่ ข้อครหาต่อรัฐบาลบางโครงการ รัฐบาลก็จะดำเนินการอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นจะสะท้อนว่า การเมืองยังล้มเหลวอยู่ ซึ่งนายกฯ ก็ตั้งกฎเหล็กตั้งแต่แรก 9 ข้อ ฉะนั้นการกำหนดว่า ที่สุดแล้วจะกำหนดจุดสิ้นสุดอย่างไรในเรื่องปฏิรูปการเมือง ทุกคนคงเห็นว่าเป็นเรื่องยาก และขออภัยที่ไม่สามาถตอบได้ว่า จะสิ้นสุดเรื่องการปฏิรูปการเมืองเมื่อใด แต่รัฐบาลยืนยันว่าพยายามทำให้บ้านเมืองเดินไปอย่างดีที่สุด
จากนั้น นายคำนูณ กล่าวฝากไปยังรัฐบาลว่า เหมือนรัฐบาลจะตอบว่า ยังไม่รู้จะทำอย่างไร ตนขอเสนอว่า ภาวะแบบนี้ รัฐบาลต้องมีวิธีบริหารวิธีพิเศษ ให้มากกว่าการบริหารปกติ และอยากเห็นการตัดสินใจของรัฐบาล และรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ รัฐบาลต้องปรับทัศนคติว่า นี่คือวิกฤต และต้องปรับเปลี่ยน วิธีการตัดสินใจ รับฟังเสียงให้มากที่สุด และตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างตกผลึก แม้บางส่วนจะไม่เห็นด้วย และอย่าโยนสภาเรื่องไม่ตัดสินใจ กับผลคณะกรรมการสมานฉันท์เสียที เพราะรัฐบาลเหลือเวลาไม่มากที่ต้องตัดสินใจเรื่องที่คั่งค้างอยู่ อย่าซื้อเวลา ประชุมรัฐสภาทีไร ต้องมาเถียงกัน 2 ชั่วโมงทุกทีว่า จะเลื่อนวาระพิจารราร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่มีประชาชนเสนอมาหรือไม่ คราวหน้า ถ้ายังไม่ตัดสินใจ ตนจะลงมติไม่ให้เลื่อนวาระดังกล่าวออกไป
ทั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าวตอบรับว่า รัฐบาลเห็นหลายเรื่องที่ต้องสะสาง และต้องตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรเสียที เพราะการบริหารคือ การตัดสินใจ และตัดสินใจไป นายกฯก็ต้องรับผิดชอบ อย่างกรณีเสนอผบ.ตร.คนใหม่ ทั้งนี้ ตนจะรับข้อเสนอไปแจ้งต่อรัฐบาล และขออภัยว่า บางคำตอบอาจไม่เป็นคำตอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น