xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” ดักคอไข่แม้วจ้องเสียบ กม.ปรองดองประกอบร่างของ ภท.แน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“โฆษกส่วนตัวมาร์ค” อ้างไม่รู้สาเหตุ “ภูมิใจไทย” เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมผู้ชุมนุม ชี้ไม่มีปี่มีขลุ่ยมาก่อน ยันรอสภาบรรจุวาระก่อน ค่อยถกความเห็นคนในพรรค พร้อมดักทาง “ไข่แม้ว” จ้องแนบคู่ กม.ปรองดองประกบร่างนี้แน่ เชื่อหวังช่วย “นช.แม้ว” พ้นโทษ ยันต้องรอฟังทุกฝ่ายจะออกกฎหมายพร่ำเพรื่อเพื่อใครไม่ได้

วันนี้ (20 ส.ค.) ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพรรคภูมิใจไทยเพราะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยมาก่อน แต่ถ้ามีเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากพ.ร.บ.นี้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มคนเสื้อเลือง 2.กลุ่มคนเสื้อแดงและ 3.ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ชุมนุมและเสียงตอบรับจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงต่างก็ออกมาปฏิเสธไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นี้ ยังมีเพียงแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีผลกระทบโยตรงจากเหตุการณ์ชุมนุม เพราะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาและโทษทางวินัยข้าราชการด้วย ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เองคงต้องรอให้ประธานสภาบรรจุร่าง พ.ร.บ.นี้สู่วาระประชุมก่อน แล้วจึงค่อยหารือในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งว่ามีความเห็นอย่างไร

“เชื่อว่า ถ้าร่าง พ.ร.บ.นี้เข้าสู่การพิจารณาของสภา พรรคเพื่อไทยจะเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติที่เคยยื่นมาก่อนหน้านี้แล้วประกบกับร่างกฎหมายนี้แน่นอน โดยหวังผลที่จะช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยตรง ซึ่งอาจเชื่อมโยงถึงการนิรโทษกรรมย้อนหลังตั้งแต่ 19 ก.ย.2549 จนถึงเหตุการณ์ 13 เม.ย. 2552 แน่นอน” นายเทพไท ระบุ

นายเทพไทกล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องรับฟังเสียงสะท้อนและความเห็นของสังคมทุกภาคส่วนด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วการนิรโทษกรรมจะเป็นการออกกฏหมายพร่ำเพรื่อและทำลายหลักนิติรัฐของชาติ ที่ใครคนใดคนหนึ่งกระทำความผิดแล้วกดดันเคลื่อนไหวเพื่อขอนิรโทษกรรมการกระทำของตนเองได้ จะทำให้หลักกฏหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ การยกเรื่องนี้มาพิจารณาโดยอ้างความสมานฉันท์นั้น ซึ่งข้อเท็จจริงความสมานฉันท์ของคนในชาติจะเกิดได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ก็ได้ แต่ผู้กระทำความผิดทุกคนจะต้องได้รับการปฏิบัติภายใต้กฎหมายด้วยกัน มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งรัฐบาลนี้กำลังดำเนินการอยู่ ถ้าทุกคนยอมรับการบังคับใช้กฏหมายของประเทศก็จะไม่เป็นปัญหาในเรื่องความสมานฉันท์ เว้นแต่บางคนที่มีพฤติกรรมไม่ยอมรับการบังคับใช้กฏหมายของชาติไทย โดยระบุว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง เมื่อตัวเองได้ประโยชน์ก็ยอมรับและใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งพิง แต่เมื่อตัวเองเสียประโยชน์ก็บิดเบือนใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรมว่า ถูกแทรกแซงกลั่นแกล้งตนเอง มีสองมาตรฐาน

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายวิทยา บุรณะศิริ ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวพาดพิงถึงนายกฯว่า เตะถ่วงผลสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมว่า กรณีนี้นายกฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอดเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ปั้นมากับมือ โดยได้เข้าไปรับฟังข้อสรุปด้วยตนเอง แต่ขั้นตอนการปฏิบัติจะต้องพิจารณาว่าควรจะให้ฝ่ายใดเป็นเจ้าภาพ ซึ่งในเบื้องต้นเห็นว่าฝ่ายนิติบัญญัติน่าจะมีความเหมาะสมที่จะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการให้เป็นรูปธรรม โดยอาจจัดเป็นรูปแบบคณะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นโยให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมเป็นกรรมาธิการด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรโยนความผิดบิดประเด็นให้นายกฯ ตัวนายวิทยาเองก็เป็นถึงประธานวิปฝ่ายค้านน่าจะไปหารือกับประธานวิปรัฐบาลและประธานสภาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น