“ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ” ชี้ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมีวาระซ่อนเร้น หวังเว้นโทษนักการเมือง-ข้าราชการลิ่วล้อ แนะอยากสมานฉันท์จริงให้เสนอร่าง พ.ร.บ.ลากตัวนักโทษหนีคดีมารับโทษ หรือนิรโทษกรรมความผิดเกษตรกรคนยากคนจนจะดีกว่า ลั่น พันธมิตรฯ ไม่กลัวความผิด ยันมีเจตนาบริสุทธิ์หวังปกป้องส่วนรวม ทั้งพร้อมรับโทษไม่หนี-ไม่ฎีกา
วันนี้ (19 ส.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งพันธมิตรฯ และ นปช.ของพรรคภูมิใจไทย ว่า ตนเห็นว่า กฎหมายนิรโทษกรรมดังกล่าวมีวาระซ่อนเร้นมากกว่าต้องการสมานฉันท์อย่างแท้จริง เพราะในสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้หวังนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่ ทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งเป็นการเหวี่ยงแหโดยไม่จำแนกแยกแยะ ทั้งนี้ ผลของกฎหมายฉบับนี้จะทำให้มีการนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 และกรณีที่ข้าราชการเมืองและข้าราชการประจำกว่า 40 คน ที่คบคิดกันยกปราสาทพระวิหารให้กับประเทศกัมพูชา ซึ่งพันธมิตรฯได้ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ไต่สวนและกำลังจะชี้มูลความผิดเร็วๆ นี้แล้ว
นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เอาเรื่องความสมานฉันท์และความขัดแย้งของประชาชนมาเป็นข้ออ้างเท่านั้น เพราะลึกๆ แล้วหวังนิรโทษกรรมให้กับข้าราชการประจำระดับสูงที่อิงแอบกับพรรคการเมืองโดยเฉพาะนายตำรวจใหญ่หลายนายที่กำลังจะต้องรับผิดชอบใน คดี 7 ตุลา ประการสำคัญหากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านสภาก็จะไต่ระดับไปออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับบรรดานักการเมืองอีกหลายสิบคนที่ถูกดำเนินคดีต่างๆ อยู่ในขณะนี้ ดังนั้นหากพรรคภูมิใจไทยอยากเห็นความสมานฉันท์จริงควรเสนอร่างกฎหมายพิเศษเพื่อดำเนินคดีกับนักโทษที่หนีคดีหนีคำพิพากษาไปอยู่ต่างประเทศ หรือไม่ก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับเกษตรกรคนยากคนจนน่าจะดีกว่า
“หากร่างกฎหมายนี้ผ่านสภาจะยิ่งเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยเฉพาะศาลสถิตยุติธรรม และสร้างแบบอย่างไม่ดีให้กับคนผิด เมื่อทำผิดแล้วก็มาออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเอง หรือพวกพ้อง” เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวและว่า ส่วนคดีความของแกนนำพันธมิตรฯ นั้น พวกเราไม่เคยวิตกกังวล เพราะเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ใจและการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาที่เคร่งครัดในรัฐธรรมนูญและแนวทางสันติวิธีและทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณะโดยเฉพาะการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพื่อคนๆ เดียว
นอกจากนี้ แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของตัวเองทุกขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรมแม้มีคำพิพากษาให้มีความผิดก็จะน้อมรับคำพิพากษาจะไม่หนีไปไหน และที่สำคัญจะไม่มีการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษอีกด้วย