xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คยันมีคนจ้องล้มรัฐบาล-สภาทนายฯชี้ไม่มีสิทธิถวายฎีกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามของนักเรียน นักศึกษา ในงานธรรมศาสตร์วิชาการ 52 ระหว่างปาฐกถาพิเศษเรื่อง อนาคตประเทศไทย ที่ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะยังมีอิทธิพลหรือบทบาทในประเทศในอนาคต หรือไม่ว่านักการเมืองที่มีโอกาสบริหารประเทศทุกคนมีอิทธิพล ไม่มากก็น้อยกับสังคม โดยเฉพาะนักการเมืองที่เป็นหัวหน้าพรรคและลงเลือกตั้งย่อมมีอิทธิพลทางความคิดกับนักการเมืองจำนวนมาก มันเป็นข้อเท็จจริงและตนไม่ถือว่าเป็นปัญหาตราบเท่าที่การ ได้รับอิทธิพลเป็นการผลักดันความคิดทางการเมืองไม่ใช่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง ฉะนั้นนักการเมืองทุกคนย่อมมีจุดดี จุดเลว จุดแข็งจุดอ่อน และมีความคิดที่เป็นประโยชน์และมีอิทธิพลนั้นตนไม่คิดว่าเป็นปัญหา
หากว่ามามีอิทธิพลให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ตัวเองและกลุ่ม โดยทำลายบ้านเมือง อย่างนี้กฎหมายและผู้รับผิดชอบต้องจัดการ การเคลื่อนไหว ของกลุ่มที่อยู่กับอดีตนายกฯที่เป็นพรรคการเมืองและกลุ่มที่เคลื่อนไหวนอกสภา หากกระทำโดยเสนอความคิดอย่างสุจริตและอยู่ในขอบเขตกฎหมาย ผมไม่ได้ไปขัดขวางและถือเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยหากกระทำแบบผิดกฎหมายเช่นยุงยง ใช้ความรุนแรง กระทำขัดกฎหมายเกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือสถาบันหลักของชาติ หรือไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เป็นหน้าที่บ้านเมืองต้องจัดการ ถามว่ามีอิทธิพล มากน้อยเพียงใดนั้นมันขึ้นอยู่กับประชาชน หากประชาชนเห็นว่าแนวคิดของ อดีตนายกฯเป็นประโยชน์ แนวคิดนั้นจะได้รับการสนับสนุน หากประชาชนเห็นว่า สิ่งที่อดีตนายกฯพยายามทำเป็นเรื่องประโยชน์ส่วนตัวและเป็นปัญหากับบ้านเมือง ประชาชนต้องตัดสินว่าอยากให้ประเทศเดินหน้าหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่าการตามจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ง่าย เพราะบางประเทศไม่มีข้อตกลงการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย และยืนยันว่ารัฐบาลทำตามหน้าที่ ไม่ได้กลั่นแกล้งใครและละเว้นไม่ได้ ทำเท่าที่ทำได้ในการติดตาม
ส่วนที่มีฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลปฏิบัติเหมือนคนอื่นๆ เมื่อเสนอมาก็ส่งให้หน่วยงาน คือกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ไปดูว่ากรณีนี้เข้าเกณฑ์การฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่และสรุปข้อมูลส่งให้รัฐบาลทำความเห็นประกอบและส่งกลับไปสำนักราชเลขาธิการ
ส่วนคนไทยจะเป็นสีเดียวกันเมื่อไหร่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นว่าคนทั้งประเทศจะเห็นตรงกันทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องการเมือง อย่าไปตั้งโจทย์แบบนั้น หากสีสะท้อนถึงความแตกต่าง เราต้องคิดว่าทำอย่างไรทุกสีจะมาอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีความรุนแรง ไม่ฆ่าฟัน เคารพกันและกันทั้งสิทธิและเหตุผล ยอมรับกติกาว่า เมื่อแต่ละสีมีความเห็นไม่เหมือนกัน แต่เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกัน ก็เป็นห่วง เพราะสิ่งที่สำคัญคือทุกสีต้องยึดมั่นในสิ่งที่เป็นจุดร่วมของความที่เป็นคนไทย ที่ต้องอยู่ร่วมกันในสังคมไทยคือสถาบันหลัก และความเป็นชาติ ฉะนั้นตนไม่ขัดข้องว่า จะมีกี่สี อาจจะงดงามขึ้นด้วยซ้ำเพราะนั่นคือสังคมประชาธิปไตยที่มีความหลากหลาย และยังมีความงดงามเมื่อหลากสีอยู่ร่วมกัน
ส่วนปีนี้สังคมไทยจะอยู่ภาจใต้สีเดียวกันได้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีกลุ่มคนที่ไม่หวังดีต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องความเห็นที่แตกต่าง เพราะคนกลุ่มหนึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นวายเพื่อนำไปสู่การ เปลี่ยนแปลง อย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำคือ อะไรที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย และทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่ร่วมกันโดยที่ไม่ตกลงไปเป็นเหยื่อของคน ที่ต้อง การให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องบริหารประเทศให้ตอบสนองความต้องการ ของคนส่วนใหญ่ และมีความเป็นกลางได้
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของกลุ่มคนเสื้อแดง หากกระทรวงยุติธรรมยกฎีกาไม่เข้าข่ายกฎหมายจะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ว่า ทุกเรื่องต้องมีการอ้างอิงตามกฎหมาย ถ้าไม่เข้าข่ายต้องมีการเสนอกันใหม่
ส่วนที่ประชาชน 3.5 ล้านคนที่ลงชื่อถวายฎีกา ทางกระทรวงมหาดไทยจะเข้าไปชี้แจงในเรื่องของการถวายฎีกาหรือไม่นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ เป็นส่วนของกระทรวงยุติธรรมมากกว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเพียงแต่ให้ประชาชนมาลงชื่อไม่เห็นด้วยและคัดค้านการถวายฎีกา ขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยได้รับแจ้งจำนวนผู้ลงชื่อการคัดค้านถวายฎีกา 11 ล้าน โดยยังไม่ได้กำหนดวันยื่นคัดค้าน ซึ่งจะตั้งโต๊ะไปเรื่อยๆ แต่จะไม่มีการตั้งเป้าจำนวนตัวเลข เพราะเราพอใจในตัวเลขอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการประเมินสถานการณ์อย่างไร ถ้ามีการยกร่างฎีกาจริง จะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ โดยเฉพาะการออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายชวรัตน์ กล่าวว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ถ้ากลุ่มเสื้อแดงจะออกมาเรียกร้อง ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายใน
นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ และ นายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการสภาทนายความ แถลงชี้แจงเรื่องการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณว่า กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง ยื่นคำร้องต่อสำนักราชเลขาธิการ เพื่อขอรับพระราชทานความเป็นธรรมในรูปของการถวายฎีกาเพื่อขอทรงพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปี คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ต้องเป็นไปตามระเบียบการทูลเกล้าฯถวายฎีกา ตามพระราชกฤษฎีกาที่วางระเบียบการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา พ.ศ.2457 ซึ่งเป็นการขอพระราชทานพระมหากรุณาลดหย่อนผ่อนโทษที่ศาลได้วางบทลงโทษแล้ว แต่ไม่ใช่โต้แย้ง คำพิพากษาของศาล การพระราชทานอภัยโทษจึงไม่ใช่สิทธิของนักโทษหรือผู้หลบหนี คำพิพากษาของศาลที่ถึงที่สุดแล้ว เพราะไม่มีกฎหมายใดรับรองสิทธิ
การที่กลุ่มคนเสื้อแดง อ้างว่า การขอ หรือร้องถวายฎีกา เป็นสิทธิของตนเองหรือคนใดคนหนึ่งจึงเป็นการตีความเอาเองทั้งสิ้น เพราะหากถือว่ามีสิทธิโต้แย้งคำพิพากษาของศาลไม่ชอบแล้วความปั่นป่วนในบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้น ผู้ต้องโทษทั้งหลายจะอ้างสิทธิไม่ต้องรับโทษ และหากจะใช้สิทธิซึ่งคิดว่ามีอยู่นั้นก็ต้องกระทำโดยสุจริต การเกณฑ์ผู้คนหรือผู้สนับสนุนตัวเองมากเป็นล้านๆ ชื่อนั้นไม่มีความหมายอะไร เพราะหากมีรายชื่อหนึ่งที่ไม่สุจริตจะทำให้การระดมรายชื่อนั้นใช้ไม่ได้ การที่รวมกลุ่มกันสนับสนุนให้มีการไม่ยอมรับคำพิพากษาเพื่อประโยชน์ของคนที่หลบหนีไป แสดงให้เห็นเจตนารมณ์ที่แฝงเร้นไม่ชอบธรรม
นายเดชอุดม กล่าวว่า เมื่อสำนักราชเลขาธิการรับคำขอไว้แล้ว ก็ยังไม่อาจ ถือได้ว่าความทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว เพราะจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ ความถูกต้องก่อน ดังนั้นรัฐบาลจะต้องดำเนินการตรวจสอบให้รอบครอบ หากพบว่าการยื่นฎีกาไม่สุจริต ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่ควรที่จะรับไว้พิจารณา
กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีอาญาที่ถึงที่สุดแล้วต้องยอมรับระบบศาลยุติธรรม และคำพิพากษาก่อนขอรับพระราชทานอภัยโทษ ผู้รับราชการสนองคุณูปการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่ดีย่อมต้องไม่หลีกเลี่ยง ความผิดของตน ดังเช่น พันท้ายนรสิงห์ นักการเมืองต้องยอมรับผลแห่งการกระทำของตนเหมือนนานาอารยประเทศ เช่น นายโนห์ มู ฮยอน อดีตประธานาธิบดีประเทศเกาหลีใต้ที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกกล่าวหาว่าครอบครัวคอร์รัปชัน เมื่ออาสามาบริหารแผ่นดินหากผิดพลาดทั้งประมาทหรือเจตนาต้องกล้ารับผิด
นายเดชอุดม กล่าวด้วยว่า เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ด้วย ที่จะต้องดำเนินการปลดยศอดีตตำรวจ ผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุด รวมถึงสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต้องทำเรื่องการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลที่ไม่รู้จักมารยาทและขั้นตอน เพราะสำนักราชเลขาธิการ ต้องส่งเรื่องให้รัฐบาลเพื่อให้ถวายความเห็นประกอบ แต่นายอภิสิทธิ์กลับเล่นเกมยื้อ เพื่อสร้างประเด็นปัญหาของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อหวังกลบข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ตนขอบอกว่าไม่สำเร็จ แต่หากส่งเรื่องถวายความเห็นประกอบไปกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะยุติความเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังเป็นการทำลายสถาบันและดึงสถาบันลงมาอีกด้วย รวมทั้งการเกณฑ์คนมาลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาของกระทรวงมหาดไทยนั้นก็เป็นของปลอม ซึ่งเป็นขบวนการต้มเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ขอท้านายชวรัตน์ ชาญวีระกูล ให้มาฟ้องหมิ่นประมาทตนอีกคนก็ได้
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 21 ส.ค. แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จะประชุมหารือกันที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว เวลา 10.00 น. เรื่องการยกระดับขับไล่รัฐบาลและโค่นล้มอำมาตย์ อีกทั้งจะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอน นายอภิสิทธิ์ ในเรื่องของการบริหารประเทศที่ล้มเหลวด้วย และรวมถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย คาดว่าน่าจะได้จำนวนถึง 10 ล้านรายชื่อ โดยจะดำเนินการ ไปตามขบวนการของกฎหมาย และไม่คาดหวังว่าส.ว.ที่เป็นผู้ตรวจสอบจะเห็นชอบ ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงเสนอ แต่ต้องการให้นายอภิสิทธิ์รู้ว่าประชาชนไม่ต้องการ นายกฯ ที่ไม่ได้มาจากเสียงประชาชน เพราะมาจากการอุ้มของทหารและอำมาตย์ นั้นมีจำนวนมากขนาดไหน
กำลังโหลดความคิดเห็น