“สมุนหน้าเหลี่ยม” ตระบัดสัตย์ ขู่รัฐบาลดึงเกมถวายฎีกา เท่ากับเร่งเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ ปากดีเย้ยชื่อค้านถวายฎีกา 10 ล้านคนปลอมเกินครึ่ง พร้อมยกกรณี “วีระ” ได้รับพระราชทานอภัยโทษมาอ้าง เหน็บ “สาทิตย์” หวังดีประสงค์ร้าย เตรียมฟ้อง 29 ปลัดกระทรวง ท้า ตำรวจรีบถอนประกัน
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 12.30 น.ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวถึงกรณีที่สำนักราชเลขาธิการ มีแถลงการณ์ชี้แจงถึงขั้นตอนประเพณีการปฏิบัติที่เคยมีมาเกี่ยวกับการขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า จะต้องส่งเรื่องให้กับรัฐบาลเพื่อพิจารณาถวายความเห็นประกอบว่า แถลงการณ์ดังกล่าวมีความชัดเจนว่า รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ที่จะยับยั้งฎีกา ทำได้เพียงถวายความเห็นประกอบจะทำเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเคยออกแถลงการณ์มาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น แค่เพียงกระทรวงยุติธรรมส่งแถลงการณ์ให้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว ความจริงแล้วในวันที่ 19 ส.ค.ก็สามารถถวายความเห็นประกอบได้แล้ว ซึ่งรัฐบาลจะถวายความเห็นประกอบอย่างไรก็ได้ จะบอกว่า การถวายฎีกาไม่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายก็ได้ เพราะเป็นเพียงแค่ความเห็น ทั้งนี้ หากรัฐบาลแสดงออกให้เห็นถึงความพยายามที่จะดึงเรื่องไว้ โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการทำความเห็นประกอบ หรือพยายามล้มฎีกาก็จะเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มคนเสิ้อแดงต้องออกมาชุมนุมใหญ่เร็วขึ้น ส่วนกรณีที่จำนวนรายชื่อประชาชนยื่นถวายฎีกาเหลือเพียง 3,532,906 รายชื่อ จากเดิมที่มีถึง 5 ล้านกว่ารายชื่อนั้น เพราะเราตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อพบว่ารายชื่อใดที่มีข้อสงสัยก็จะดึงออกทันที
นายจตุพร กล่าวว่า สำหรับการถวายความเห็นประกอบนั้น ขอท้าให้รัฐบาลนำรายชื่อประชาชนที่คัดค้านการถวายฎีกาที่อ้างว่ามีถึง 10 ล้านคน ประกอบไปด้วย เพราะตนขอกล่าวหาไว้เลยว่าเป็นของปลอมกว่าครึ่ง โดยไปนำมาจากหน่วยเลือกตั้ง หรือสำมะโนประชากร และทราบว่ากระทรวงมหาดไทยใช้งบไปกับเรื่องนี้ถึง 200 ล้านบาท ตนพูดไปอย่างนี้ก็ขอท้าให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ฟ้องจะได้ไปพิสูจน์ความจริงในศาล
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาล ระบุว่า การถวายฎีกาครั้งนี้ไม่มีญาติพี่น้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมลงชื่อด้วย อาจจะทำให้ผิดขั้นตอนจนการถวายฎีกาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่สำนึกผิดนั้น ในอดีตที่ผ่านมานั้นก็ไม่ใช่ มีกรณีตัวอย่างเช่น ล่าสุด นักโทษชาวออสเตรเลียก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยกระทรวงยุติธรรมเป็นฝ่ายชงเรื่องถวายฎีกา อีกทั้งกรณีของ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่ม นปช.ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น นายวีระ ก็ไม่ได้ระบุว่า ตัวเองทำผิดและก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ได้ทำผิด แต่กระบวนการยุติธรรมและการใช้ คตส.เป็นศาลเตี้ยมากลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น น่าอับอายมาก
นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงหลังจากนี้ จะดูท่าทีของรัฐบาลต่อกรณีการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อนที่จะกำหนดวันชุมนุมใหญ่ โดยการชุมนุมหลังจากนี้จะยกระดับจากการเรียกร้องให้มีการยุบสภา เป็นการขับไล่รัฐบาล ส่วนเรื่องโค่นล้มอำมาตย์ และกำจัด 2 มาตรฐาน ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ระบุว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะชุมนุมในวันที่ 26 ส.ค.นั้น อยากถามว่ารู้ได้อย่างไร คนเสื้อแดงยังไม่มีใครบอกเลย ไม่รู้ว่าเป็นการชี้ช่องให้ไปบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี หรือไม่ เป็นการหวังดีประสงค์ร้ายหรือเปล่า แต่ยอมรับว่า ข้อเสนอของนายสาทิตย์ น่าสนใจ เพราะวันที่ 26 ส.ค.เป็นวันเกิดของ พล.อ.เปรม ทุกคนจำได้ดีเพราะเป็นวันที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำม็อบบุกยึดทำเนียบรัฐบาล
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังร่างคำฟ้อง เนื่องจากกรณีที่ปลัดกระทรวง 29 คนออกแถลงการณ์คัดค้านการทูลเกล้าฯถวายฎีกานั้น ในเนื้อหาของแถลงการณ์เป็นการก้าวล่วงพระบรมราชวินิจฉัย
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจถอนประกันแกนนำคนเสื้อแดงที่ติดคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากไปเคลื่อนไหวยุยงปลุกปั่นทางการเมืองนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีเหตุผล เพราะคนเสื้อแดงแค่ถวายฎีกาจะมาถอนประกันได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำเรื่องนี้ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงวิ่งเต้น โยกย้าย จึงพูดเพื่อขอยศ ถ้าแน่จริงก็ให้ดำเนินการถอนประกัน เพราะไม่ได้ติดคุกมานาน ช่วงนี้รู้สึกคิดถึง อีกทั้งคดีของแกนนำคนเสื้อแดงอย่างนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระ มุสิกพงศ์ และ นพ.เหวง โตจิราการ นั้น ศาลได้ถอนประกันไปแล้วเรื่องจึงอยู่ที่อัยการ ดังนั้น เรื่องนี้จึงเลยขั้นตอนของการถอนประกันไปแล้ว
