ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เรียกประชุมชุดสืบสวนคดีเสื้อแดงเชียงใหม่ปิดล้อมโรงพักทำร้าย จนท.-ทำลายทรัพย์สินราชการ และปิดถนนขับไล่ รมว.คลัง เผยเตรียมออกหมายจับแกนนำ 5 ราย ภายใน 1-2 วันนี้ ขณะเดียวกันยืนยันพร้อมอารักขานายกรัฐมนตรีเต็มที่หากลงพื้นที่
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจธูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ พลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีเสื้อแดงเชียงใหม่ปิล้อมดสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2552 และคดีปิดถนนหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขับไล่รัฐมสตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2552 ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บรวม 18 นาย
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยหลังการประชุม ว่า ขณะนี้ได้เตรียมสรุปสำนวนสอบสวนทั้งหมดแล้วเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดซึ่งเบื้องต้นเป็นแกนนำประมาณ 5 คนฐานความผิดในการมั่วสุมเกิน 10 คน ยุยงปลุกปั่น ปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ภายใน 1-2 วันนี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ฐานความผิดเป็นไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้แจ้งข้อหาเกินความจริง และไม่หนักใจหากมีการแจ้งความแล้วจะมีแรงกดดันจากกลุ่มเสื้อแดง เพราะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งเรื่องการบุกรุกสถานีตำรวจทำลายทรัพย์สินราชการ ขว้างปา หรือใช้ระเบิดปิงปอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว
สำหรับผู้ที่มาเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวด้วยนั้น พลตำรวจโท สมคิด กล่าวว่า จะต้องพิจารณาว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนหรือผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ โดยจะต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน ภาพถ่ายหรืออื่นๆ ที่ประกอบกัน ซึ่งหากเป็นการมาชุมนุมตามแนวทางที่เป็นไปตามกรอบกฎหมายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ ได้รายงานความคืบหน้าคดีให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว และยังได้รับนโยบายรวมทั้งข้อห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมมีการมอบเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแก่เจ้าหน้าที่ด้วย
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันด้วยว่า หากนายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้วที่จะต้องอารักขานายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการทิ้งภาระกิจด้านอื่นๆ ทั้งหมด เพื่อมาทำหน้าที่นี้แต่เพียงอย่างเดียวแน่นอน
วันนี้ (30 ก.ค.) ที่สถานีตำรวจธูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์ พลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีเสื้อแดงเชียงใหม่ปิล้อมดสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ราชนิเวศน์เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2552 และคดีปิดถนนหน้าหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขับไล่รัฐมสตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2552 ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บรวม 18 นาย
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยหลังการประชุม ว่า ขณะนี้ได้เตรียมสรุปสำนวนสอบสวนทั้งหมดแล้วเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดซึ่งเบื้องต้นเป็นแกนนำประมาณ 5 คนฐานความผิดในการมั่วสุมเกิน 10 คน ยุยงปลุกปั่น ปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ภายใน 1-2 วันนี้
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ฐานความผิดเป็นไปตามพยานหลักฐาน ไม่ได้แจ้งข้อหาเกินความจริง และไม่หนักใจหากมีการแจ้งความแล้วจะมีแรงกดดันจากกลุ่มเสื้อแดง เพราะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งเรื่องการบุกรุกสถานีตำรวจทำลายทรัพย์สินราชการ ขว้างปา หรือใช้ระเบิดปิงปอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้ทั้งหมดแล้ว
สำหรับผู้ที่มาเข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวด้วยนั้น พลตำรวจโท สมคิด กล่าวว่า จะต้องพิจารณาว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อนหรือผิดกฎหมายด้วยหรือไม่ โดยจะต้องพิจารณาตามพยานหลักฐาน ภาพถ่ายหรืออื่นๆ ที่ประกอบกัน ซึ่งหากเป็นการมาชุมนุมตามแนวทางที่เป็นไปตามกรอบกฎหมายก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ ได้รายงานความคืบหน้าคดีให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว และยังได้รับนโยบายรวมทั้งข้อห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมมีการมอบเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลแก่เจ้าหน้าที่ด้วย
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยืนยันด้วยว่า หากนายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่แล้วที่จะต้องอารักขานายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการทิ้งภาระกิจด้านอื่นๆ ทั้งหมด เพื่อมาทำหน้าที่นี้แต่เพียงอย่างเดียวแน่นอน