นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า รัฐบาลไม่ควรไล่ล่าจับตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ควรใช้เวลาไปแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนดีกว่าว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตามจับตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาลงโทษตามที่นายสมชายเข้าใจ แต่เป็นเพียงการปฏิบัติตามหน้าที่ ตามการบังคับใช้กฏหมาย เมื่อมีผู้ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษแล้วก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามกระบวนการของกฏหมาย นายสมชาย เคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้พิพากษา น่าจะรู้ดีว่าเมื่อมีคำพิพากษาตัดสินคดีให้ผู้ต้องหาคนใดต้องรับโทษตามคำพิพากษา แต่ผู้ต้องหากลับหลบหนีคดี กลายเป็นนักโทษหลบหนี้คดีไป ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการ ที่จะต้องจับตัวมาดำเนินการตามกฏหมาย ยิ่งนักโทษคนนั้นหลบหนีโทษตามคำพิพากษาไปต่างประเทศ ก็ต้องมีขบวนการที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อประสานงานไปยังตำรวจสากล เพื่อติดตามตัวนักโทษที่หลบหนี้คดีมาดำเนินการ ปัญหากรณีนี้จึงไม่ได้สำคัญไปกว่าความเดือดร้อนของประชาชนโดยรวม ที่รัฐบาลยืนยันว่าให้ความสำคัญมากที่สุด ซี่งทุกวันนี้รัฐบาลก็ทำทุกทาง เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชนส่วนใหญ๋ให้ได้ เพียงแต่หวังว่า ลิ่วล้อของ พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่ขัดขวางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวที นปช. ที่จัดขึ้นใน จ.อุดรธานี ว่า เป็นเรื่องเดิมๆ ที่พยายามเรียกร้องความสนใจ ซ้ำซาก เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง พูดเดิมๆเนื้อหาไม่เปลี่ยนแปลง เปรียบตัวเองเป็นผู้วิเศษที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งๆที่ 6 ปีที่ผ่านมาในขณะที่ครองอำนาจเป็นนายกฯนั้น ได้สร้างความเสียหายกับประเทศชาติจนต้องมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลมากมาย ถ้าคิดจะให้ประชาชนนำกลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีกครั้ง ก็ต้องยอมกลับมาต่อสู้คดีความในชั้นศาลให้หมดเสียก่อน ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่นี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นผลพวงมาจากการกระทำของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น ที่ทิ้งภาระให้รัฐบาลนี้ต้องมาก้ไข เพราะปัญหาที่เกิดขั้นในอดีตทั้งหมด เป็นการแก้ปัญหาแบบเก็บขยะไว้ใต้พรม เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามารื้อพรมเพื่อทำความสะอาดบ้านเมือง ก็จะพบปัญหาที่ถูกซ่อนไว้ทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการชำระล้าง ถ้าหากพ.ต.ท.ทักษิณเปิดโอกาสให้รัฐบาลนี้ทำงานสักระยะหนึ่ง โดยงดเว้นการโฟนอิน ยุยงปลุกปั่น ตัดท่อน้ำเลี้ยงหนุนลิ่วล้อของตัวเอง รัฐบาลก็จะแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจให้สำเร็จแน่นอน
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวที นปช. ที่จัดขึ้นใน จ.อุดรธานี ว่า เป็นเรื่องเดิมๆ ที่พยายามเรียกร้องความสนใจ ซ้ำซาก เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง พูดเดิมๆเนื้อหาไม่เปลี่ยนแปลง เปรียบตัวเองเป็นผู้วิเศษที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งๆที่ 6 ปีที่ผ่านมาในขณะที่ครองอำนาจเป็นนายกฯนั้น ได้สร้างความเสียหายกับประเทศชาติจนต้องมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลมากมาย ถ้าคิดจะให้ประชาชนนำกลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีกครั้ง ก็ต้องยอมกลับมาต่อสู้คดีความในชั้นศาลให้หมดเสียก่อน ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่นี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นผลพวงมาจากการกระทำของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น ที่ทิ้งภาระให้รัฐบาลนี้ต้องมาก้ไข เพราะปัญหาที่เกิดขั้นในอดีตทั้งหมด เป็นการแก้ปัญหาแบบเก็บขยะไว้ใต้พรม เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามารื้อพรมเพื่อทำความสะอาดบ้านเมือง ก็จะพบปัญหาที่ถูกซ่อนไว้ทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการชำระล้าง ถ้าหากพ.ต.ท.ทักษิณเปิดโอกาสให้รัฐบาลนี้ทำงานสักระยะหนึ่ง โดยงดเว้นการโฟนอิน ยุยงปลุกปั่น ตัดท่อน้ำเลี้ยงหนุนลิ่วล้อของตัวเอง รัฐบาลก็จะแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจให้สำเร็จแน่นอน
