“เทพไท” โต้ “ชายกระโปรง” กล่าวหารัฐบาลเอาเวลาไปแก้ปัญหาประเทศดีกว่าเร่งไล่ล่า “นช.แม้ว” หยันเป็นถึงอดีตผู้พิพากษาไม่เข้าใจกระบวนการยุติธรรม ระบุทำตามหน้าที่กับนักโทษหลบหนีไม่ได้ให้ความสำคัญกว่าปัญหาเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยไปตามกระบวนการ เย้ย “นช.แม้ว” โฟนอินแค่มุกเก่าเปรียบแผ่นเสียงตกร่อง
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ออกมาระบุว่ารัฐบาลไม่ควรไล่ล่าจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ควรใช้เวลาไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนดีกว่าว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตามจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาลงโทษตามที่นายสมชายเข้าใจ แต่เป็นเพียงการปฏิบัติตามหน้าที่ตามการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งมีผู้ที่ถูกศาลพิพากษาลงโทษแล้วก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามกระบวนการของกฎหมาย นายสมชายเคยเป็นอดีตปลักกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้พิพากษา อยากถามว่าไม่เข้าใจระบบหรือ กระบวนการยุติธรรมที่เมื่อมีคำพิพากษาตัดสินคดีให้ผู้ต้องหาคนใดต้องโทษตามคำพิพากษา ซึ่งในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณเอง รัฐบาลก็ไม่ได้เร่งรัดใดๆ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ เพราะเมื่อมีคำพิพากษาให้ผู้ต้องหาคนหนึ่งต้องรับโทษ แต่ผู้ต้องหากลับหลบหนีคดีกลายเป็นนักโทษหลบหนีคดีไปก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานอัยการที่จะต้องจับตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ยิ่งนักโทษคนนั้นหลบหนีโทษตามคำพิพากษาไปต่างประเทศก็ต้องมีกระบวนการที่สลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อประสานงานไปยังตำรวจสากลเพื่อติดตามตัวนักโทษที่หลบหนีคดีมาดำเนินการ ปัญหากรณีนี้จึงไม่ได้สำคัญไปกว่าความเดือดร้อนของประชาชนโดยรวมที่รัฐบาลยืนยันว่าให้ความสำคัญมากที่สุด ซึ่งทุกวันนี้รัฐบาลเองก็ทำทุกทางเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่ให้ได้เพียง แต่หวังว่าลิ่วล้อของ พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่ขัดขวางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินสายตรงมายังเวที นปช.ที่จัดขึ้นใน จ.อุดรธานี ว่าเป็นเรื่องเดิมๆ ที่เรียกร้องความสนใจเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง ที่เปิดทุกครั้งก็ซ้ำซาก พูดเดิมๆ เนื้อหาไม่เปลี่ยนแปลง มีแต่ลูกเล่นที่จะสร้างความหวังว่าตนเองเป็นผู้วิเศษที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งๆ ที่ 6 ปีที่ผ่านมาในขณะที่ครองอำนาจเป็นนายกฯ นั้นได้สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติจนต้องมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาลมากมาย ถ้าคิดจะให้ปรชาชนนำตนเองกลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ อีกครั้งก็ต้องยอมกลับมาต่อสู้คดีความในชั้นศาลให้หมดเสียก่อน
“วิกฤตเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่นี้ส่วนหนึ่งก็เป็นผลพวงมาจากการกระทำของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลนอมินีของกลุ่มตัวเองทั้งสิ้นที่ทิ้งภาระให้รับาลนี้ต้องมาแก้ไขปัญหา เพราะปัญหาที่เกิดขั้นในอดีตทั้งหมดเป็นการแก้ปัญหาแบบเก็บขยะไว้ใต้พรม เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามารื้อพรมเพื่อทำความสะอาดบ้านเมืองก็จะพบปัญหาที่ถูกซ่อนไว้ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องถนัดในการสร้างภาพที่ใช้การตลอดนำการเมือง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการชำระล้างปัญหาขยะหมักหมมที่รัฐบาลในอดีตทิ้งเป็นมรดกไว้ให้ตามแก้ ถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณเปิดโอกาสให้รัฐบาลนี้ทำงานสักระยะหนึ่ง โดยงดเว้นการโฟนอินยุยงปลุกปั่น ตัดท่อน้ำเลี้ยงหนุนลิ่วล้อของตัวเอง รัฐบาลก็จะแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจให้สำเร็จแน่นอน” นายเทพไท กล่าว
