xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” วอนหางแดงเลิกถวายฎีกาเพื่อแม้ว ชี้การเมืองล้วนๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
“โฆษกมาร์ค” ย้ำการลงพื้นที่อีสานของนายกฯ เพื่อใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ เย้ยทัวร์นกขมิ้นใช้งบกลางไปหาเสียงและเลือกปฏิบัติเฉพาะจังหวัดที่เป็นฐานเสียง วอนเลิกแนวคิดถวายฎีกาเพื่อแม้ว ชี้ดึงสถาบันการเมืองมาข้องเกี่ยวการเมือง

วันนี้ (2 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการของนายกฯว่า เป็นแผนงานที่วางไว้ตั้งแต่ช่วงแรกที่รับตำแหน่งแล้ว ว่าจะต้องลงไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนด้วยตนเองพร้อมๆกับรัฐมนตนรีทุกคน ซึ่งได้ปฏิบัติไปบ้างแล้วในบางพื้นที่หลังจากที่รับตำแหน่งใหม่ๆ หลังจากนั้นก็มีภารกิจที่จะต้องไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน และเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจรวมถึงการต้องตามแก้ไขปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองตลอดเวลา ขณะนี้เมื่อมีโอกาสก็ได้สานต่อแผนงานเดิมโดยมีเป้าหมายในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือเป็นหลัก โดยใช้รูปแบบเรียบง่ายเพื่อตรวจสอบโครงการตามแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจและจะต้องใช้งบประมาณ จาก พ.ร.ก.เงินกู้เพื่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการรวมทั้งรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อที่จะนำมาแก้ไขต่อไป โดยยืนยันว่าจะไม่ใช้รูปแบบการตรวจราชการของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้การทัวร์นกขมิ้น โดยนำงบประมาณที่เป็นงบกลางไปใช้หาเสียงแอบแฝงในลักษณะตีเมืองขึ้นทางการเมือง แต่จะยึดหลักในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาอย่างเท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของคนเสื้อสีอะไรก็ตาม เพราะล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยด้วยกันและรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่ขจัดปัดเป่าความทุกข์ร้อนของคนทั้งประเทศโดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มการเมืองใด เหมือนกับแนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณที่เคยระบุว่า จ.ใดเลือกพรรคไทยรักไทยก็จะพัฒนาจ.นั้นก่อน ดังนั้นการลงพื้นที่ครั้งนี้นายกฯจะเลือกจังหวัดที่มีความพร้อม มีโครงการและปัญหา โดยมีเป้าหมายในภาคอีสาน เหนือ กลางและใต้สลับกันไป แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีฐานเสียงในภาคใต้ก็ตาม แต่นายกฯให้ความเสมอภาคกับคนทุกภาค ตามที่เคยประกาศในสุนทรพจน์ขณะที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นคนส่วนน้อย ยุติการขัดขวางการทำหน้าที่ของนายกฯ เพราะจะเป็นการทำให้คนส่วนใหญ่ในพื้นที่เสียโอกาสที่จะรับประโยชน์ในการเข้ามารับฟังและแก้ปัญหาของรัฐบาล ถ้าหากมีความคิดทางการเมืองที่ต่างกัน ก็เป็นสิทธิที่แสดงออกได้ตามกฏหมาย แต่ต้องไม่เป็นการขัดขวางหรือริดรอนสิทธิของผู้อื่น อยากให้เกิดความเห็นที่แตกต่างและความไม่พอใจไว้แสดงออกในการตัดสินใจในการเลือกตั้งส.ส.ทั่วไปในครั้งหน้า

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่แกนนำ นปช. ประกาศล่ารายชื่อประชาชน 1 ล้านชื่อภายในเวลา 1 เดือนเพื่อถวาย ขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อสร้างกระแสยอมรับความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีการปลุกเร้าให้คนเสื้อแดงให้ลงชื่อให้ครบในเวลาที่กำหนดเพื่อเป็นการแสดงพลัง จึงขอเรียกร้องไปยังแกนนำ นปช.ว่าก่อนที่จะล่ารายชื่อชาวบ้านควรจะไปให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน รวมถึงแกนนำ นปช.ให้ลงชื่อให้ครบหมดทุกคนก่อน ที่จะมาเอารายชื่อจากประชาชนทั่วไป ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รายชื่อคนจำนวนมากถึง 1 ล้านคน เพราะคนในตระกูลชินวัตร อย่างนายพายัพ ชินวัตร ที่ระบุว่า คนในครอบครัวชินวัตร มีความคิดที่จะถวายฏีกาของอภัยโทษแก่ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว เหตุใดจึงไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนในครอบครัว ที่มีผลกระทบโดยตรง แต่กลับมาสร้างเงื่อนไขให้กลายเป็นประเด็นการเมือง ซึ่งทั้งสามประเด็นจะนำขึ้นทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษล้วนแล้วเป็นประเด็นทางการเมืองทั้งสิ้น เมื่อรัฐธรรมนูญกำหนดว่า เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ และทำไมกลุ่มคนเหล่านี้ กลับนำเรื่องการเมืองขึ้นทูลเกล้าฯให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องยุคลบาท

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนการกล่าวหาบุคคลที่ออกมาขัดขวางการล่ารายชื่อ โดยกล่าวหาว่า ใครปิดกั้นการถวายฏีกา เป็นการขัดขวางการจงรักภักดีนั้น ไม่เป็นความจริงเพราะ คนไทยทั้งประเทศที่มีความภักดี ไม่อยากที่จะเห็นขบวนการของคนเสื้อแดงก้าวล่วงพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 191 จึงอยากเรียกร้องพฤติกรรมของแกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ต้องหาที่ก่อจราจลเมื่อ 13 ม.ย.ที่ผ่านมา ที่ได้ประกันตัวมาอย่างมีเงื่อนไขว่า ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณะยุยงปลุกปั่นและรุกเร้าให้เกิดความแตกแยกในสังคม จึงอยากถามว่ากระบวนการล่ารายชื่อนี้เป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะที่เข้าข่ายเงื่อนไขในการขอประกันตัวของศาลหรือไม่ ถ้าขัดเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอถอนการประกันตัวผู้ต้องหาเหล่านี้ต่อไปทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น