xs
xsm
sm
md
lg

“ปณิธาน” แจงขั้นตอนฎีกา ส่ง “ยธ.” ตรวจก่อน ชงขอความเห็น รบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายปณิธาน วัฒนายากร
“ปณิธาน” แจงขั้นตอนฎีกา ส่ง “ยธ.” ตรวจก่อน ชงขอความเห็น รบ. แนะ “นช.แม้ว” วางตัวให้เหมาะสม อย่ามัวแต่คิดแผนป่วนประเทศ จนกระทบภาพลักษณ์และการลงทุน หลังต่างชาติกังวลสถานการณ์การเมืองไทย หวั่นเหตุรุนแรงจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เชื่อสถานการณ์จนถึงสิ้นปี ไม่มีเหตุรุนแรง ปัดข่าวปฏิวัติเงียบ ย้ำสัมพันธ์กองทัพ-รัฐบาล ราบรื่น

วันนี้ (17 ส.ค.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีขั้นตอนต่อไป หลังจากที่สำนักราชเลขาธิการส่งคำขอถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาขอความคิดเห็นจากทางรัฐบาล ว่า ถ้าเป็นกรณีถวายฎีกาทั่วไปตามโบราณราชประเพณี ขั้นตอนต่อจากนี้ คือ สำนักราชเลขาฯ จะส่งเรื่องมาที่รัฐบาล โดยผ่านทางกระทรวงยุติธรรม ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลก็รอให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอน และเมื่อกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งนั่นหมายถึง การตรวจสอบรายชื่อต่างๆ ด้วย จากนั้นก็จะส่งกลับมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี รัฐบาลก็จะทำความเห็นประกอบไปที่สำนักราชเลขาฯ ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการ ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการตรวจสอบที่ขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรม และเมื่อกลับมาที่สำนักนายกฯ ก็จะมีการทำความเห็นประกอบส่งกลับไปเท่านั้น

“รัฐบาลต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่วันนี้ร่วมมือกันดูแลเหตุการณ์ให้ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างไร แต่ทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือน ทุกคนทำงานเต็มที่ เพื่อให้การถวายฎีการาบรื่น ไม่มีความรุนแรงอย่างที่หลายคนกังวล ส่วนอีกประเด็นที่อยากจะกล่าว คือ การถวายฎีกาครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์เข้ามา ตนคิดว่านั่นอาจจะทำให้เกิดความรู้สึก จริงๆ แล้วการถวายฎีกาตามขั้นตอนปกติแล้วนั้นก็มีอยู่ แต่การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์เข้ามา ทำให้มีคนอีกกลุ่มเกิดการต่อต้าน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เรากังวล แต่ยังไงก็ต้องให้ความร่วมมืออดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าต่อไป” นายปณิธาน กล่าว

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า ตนอยากขอความร่วมมือ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ว่าจะได้รับความร่วมมือหรือไม่ อยากให้ต่อไปไม่ว่าจะคิดทำอะไร ก็ขอให้คำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเมือง ในเมื่อกระบวนการเหล่านี้เดินหน้าไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่รู้สึกมีความรุนแรงต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น อยากให้อดีตนายกรัฐมนตรี มองแนวทางเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากประชาชนอยากเห็นความร่วมมือของทั้ง 2 ฝ่ายเกิดขึ้น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองแม้ว่าจะยังมีอยู่ แต่ก็ยังทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยไม่ขัดแย้งจนถึงขั้นรุนแรงและแตกหัก

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต่างประเทศมีการพูดจากันมากในที่ประชุมสภาความมั่นคงฯ เพราะนักลงทุนเกรงว่าปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะมีผลต่อการลงทุนในประเทศไทย ดังนั้น จึงไม่อยากให้เกิดการขัดแย้งหรือการเผชิญหน้าใดๆ ซึ่งทุกครั้งที่ต่างประเทศเจอสถานการณ์แบบนี้ จะรู้สึกไม่พอใจ และทราบมาว่า บางประเทศมีสัญญาณบางอย่างมาถึวไทยว่าไม่ต้องการเห็นสถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ โดยถ้าถามว่า ต่างประเทศส่งสัญญาณมาไม่ดีอย่างไร ต้องขอตอบว่า บางประเทศไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมือง จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละประเทศนั้นๆ ว่าจะยอมให้มีการปลุกระดม หรือเร้าความรู้สึกผู้คนหรือไม่

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาจุดยืนของรัฐบาลแสดงออกว่า การขอพระราชทานอภัยโทษของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำไม่ได้ เพราะไม่ได้กลับมารับโทษตามกฎหมายใช่หรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า มันต้องเป็นไปตามกฎหมาย และรัฐบาลต้องทำตามกฎหมายเช่นกัน ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินหน้าขอพระราชทานอภัยโทษก็ต้องมีการขออภัยโทษผ่านกรมราชทัณฑ์ ถ้าเป็นการขอถวายฎีกาความเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องถวายฎีกาทั่วไปตามประเพณี ซึ่งทางกระทรวงยุติธรรมจะเป็นฝ่ายมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องเรื่องรายชื่อต่างๆ และจากนั้นจะส่งมาขอความเห็น แล้วส่งต่อไปยังสำนักราชเลขาฯ โดยเรื่องนี้ ต้องมีการพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือและชี้แจ้งให้ทราบถึงกรณีดังกล่าว

เมื่อถามว่า การตรวจสอบรายชื่อจะมีการสุ่มตรวจชื่อประชาชนหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบของกระทรวงยุติธรรม โดยต้องชี้แจงให้ชัดเจน โปร่งใส และไม่เคลือบแคลงใจ ส่วนสถานการณ์การเมืองต่อไป ยังคงต้องประคับประคองไปเรื่อยๆ ซึ่งหลังจากการยื่นถวายฎีกาแล้ว จะเกิดความคาดหวังจากฝ่ายที่ยื่นถวายฎีกา โดยอาจเป็นผลทำให้สถานการณ์เปราะบางเป็นบางช่วง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการต่างๆ เป็นปัจจัย อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเดือนสิงหาคมนี้ ไปจนถึงสิ้นปี คงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่คาดว่าจะไม่เกิดเหตุความวุ่นวายใดๆ เพราะรัฐบาลมีหลักปฏิบัติที่ชัดเจน เหมือนช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตัว นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำเรื่องสิทธิการชุมนุมเมื่อครั้งที่กลุ่มคนเสื้อแดงจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ ขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ห้าม ถ้าหากเป็นการชุมนุมตามสิทธิ ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง แต่ถ้าหากมีการใช้กำลังความรุนแรง ทางรัฐบาลก็จะใช้มาตรฐานเดิม คือ การออกกฎหมายพิเศษ

เมื่อถามว่า มีการหารือกันเรื่องข่าวการปฏิวัติเงียบหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ.ทรงกิตติ จักรบาตร์ ผบ.สส.ได้พูดถึงเรื่องนี้เป็นพิเศษ ในเรื่องสถานการณ์ความกังวลต่อการเมือง ว่า ขณะนี้สถานการณ์บางช่วงอาจค่อนข้างเปราะบาง ส่วนทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้มีการจัดระบบด้านความมั่นคงดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะการให้การสนับสนุนการทำงานของทหารเรือ สำหรับความสัมพันธ์ของกองทัพทางอื่นๆ ทางรัฐบาลทำงานร่วมกันได้ทุกฝ่าย มีการพูดคุยกันด้วยบรรยากาศค่อนข้างดี ด้านกรณีการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง คงต้องให้กระทรวงยุติธรรมทำความเห็นอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น