นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวถูกปลดพ้นหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วให้นาอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มาทำหน้าที่แทนว่า ยังเป็นเพียงการคุยกัน และทีมโฆษกรัฐบาลก็คุยกันทุกเดือน ยังไม่มีอะไรตอนนี้ ช่าวที่ออกมาถือว่าแปลกดี
มีการคุยกันเป็นระยะๆ เนื่องจากเป็นตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ พอเรามีจังหวะเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ หากจะมีการปรับเปลี่ยนผมออกจากตำแหน่งโฆษกฯ ก็พร้อม อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้จะทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ และไม่รู้สึกน้อยใจ เพราะปฏิบัติหน้าที่รักษาการโฆษกมาตั้งแต่ต้น
นายปณิธาน กล่าวว่างานรองเลขาธิการนายกฯ กับปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล ไม่ได้ซ้ำซ้อนอะไรมีการแยกแยะอยู่แล้วไม่มปัญหา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ทราบว่าใครให้ข่าวเรื่องปลัดนายปณิธาน ออกจากตำแหน่งโฆษกรัฐบาล นายปณิธานให้ข่าวเองหรือไม่ แต่จริงๆ คือ ตอนที่ตนไปขอให้นายปณิธานมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล ตนขอให้ท่านช่วยในระยะหนึ่งก่อน ตอนแรกท่านก็ลังเลเพราะอยากทำหน้าที่รองเลขาธิการนายกฯอย่าวเดียว แต่ท่านก็ช่วยงานมา
ท่านช่วยผมได้มากในการอธิบาย การชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ปัญหาภาคใต้ เรื่องต่างประเทศ แต่หากมีบุคคลที่เหมาะสม และพร้อม ท่านก็ชอบใจอยู่แล้ว ท่านขอผมไว้ว่าไม่อยากเป็นนานเกินไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีครับ คือมีการพูดคุยกันอยู่ถึงบุคคลหลายๆคน แต่ว่ายังไม่ได้มาตรวจสอบชัดเจนในแง่ของความพร้อมในการทำหน้าที่
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าพอใจกับการทำหน้าที่ของนายปณิธาน แต่ถ้ามีคน ที่พร้อมมาทำท่านก็อยากปล่อยตรงนี้อยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่า ทำไมไม่มองบุคคลอื่น เช่นนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มองหลายคนครับ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในมุมมองของนายกรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาลคนใหม่ต้องเป็น อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องทำหน้าที่ในการชี้ให้ข้อเท็จจริงอย่างตรงไป ตรงมา มีเหตุมีผล เมื่อถามว่า ประเด็นทางการเมืองต้องชี้แจงตอบโต้ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใจตนจริงๆ แล้วไม่ค่อยอยากให้ตอบโต้การเมือง เพราะมีโฆษกพรรค มีนักการเมืองต่างๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นโฆษกรัฐบาลก็อยากให้ชี้แจงแต่งานรัฐบาลเป็นหลัก ส่วนการโต้ตอบในทางการเมืองนั้นไม่ขาดคนพูดหรอก
ส่วนโฆษกรัฐบาลคนใหม่ต้องเป็นโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายอภสิทธิ์ กล่าวว่า แล้ว นายปณิธานเป็นสมาชิกพรรคหรือเปล่า ไปสมัครซะ แต่โดยหลักตนดูเอง และก็จะเป็นคนคัดเลือก ไม่ได้ดูว่าจะเป็นโควต้าของใคร ส่วนจะได้โฆษกรัฐบาลคนเร็วหรือช้าก็จนกว่าจะหาคนใหม่ได้ ไม่ได้ขีดเส้นตายไว้ แต่ก็ดูอยู่ตลอดและปรึกษาอยู่เรื่อย เพราะเกรงใจท่าน เมื่อถามว่า แสดงว่ารอการตอบรับจากคนที่ทาบทามก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรรี กล่าวว่า ใช่ครับ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตำแหน่งโฆษกรัฐบาล มีความสำคัญ และพยายามหาคนมาเป็นโฆษกรัฐบาลตั้งแต่แรกตั้งรัฐบาล แต่ไม่ได้คนที่เหมาะสม นายอภิสิทธิ์ จึงให้นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ รับหน้าที่เป็นโฆษกรัฐบาลไปด้วย ทำให้นายปณิธานต้องรับภาระ และต้องให้นายปณิธานทำต่อไปจนกว่าจะหาคนได้ และตนก็ไม่เคยได้ยินว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจนายปณิธาน อย่างไรก็ตามถ้านายอภิรักษ์ ยอมมาเป็นโฆษกรัฐบาลตามที่เป็นข่าวก็ดี เพราะถนัดในงานประชาสัมพันธ์ และคุ้นหน้าคุ้นตากับคนทั้งประเทศอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกัน เป็นเพียงการหารือระหว่างนายกฯ กับนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลชาธิการนายกฯ ส่วนจะต้องได้รับความเห็นชอบจากนาย ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่นั้นคงต้องสอบถามกับ นายกฯ และนายนิพนธ์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ ส่วนที่มีช่าวจะให้นายอภิรักษ์ มาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลนั้น ได้คุยกับนายอภิรักษ์แล้ว ยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่อง และไม่รู้มีข่าวมาจากไหน
นายปณิธานเป็นคนตั้งใจทำงาน และทำงานดีมาตลอด แต่อาจถูกวิจารณ์บ้าง เป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ใช่นกการเมือง เมื่อไม่มาเจอสถานการณ์แบบนี้ก็เหนื่อยหน่อย บางคนอยากให้ชี้แจงทันทั แต่นายปณิธานอยากชี้แจงบนพื้นฐานที่อิงกับข้อมูลที่ค่อนข้างเป็นนักวิชาการ ทำให้บางคนมองว่าไม่ทัน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องโฆษกรัฐบาลคนใหม่ที่นายกรัฐมนตรีกำลังหาอยู่ให้ไปถาามนายศิริโชค โสภร ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์สำหรับตนอยู่ในตำแหน่งนี้ก็พอใจแล้ว เพราะสามารถ ทำงานให้กับนายกฯ ได้ และหากจะไปเป็นโฆษกรัฐบาลก็ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. ไม่เช่นนั้นจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 265-266 ดังนั้น จึงควรหาคนที่ไม่มีผลกระทบ หรือคนที่เป็นส.ส. ซึ่งนายกฯ ก็ยอมรับว่าได้มองบุคลากรในพรรคไว้หลายคน หากเป็น ส.ส.ก็น่าจะเป็นส.ส.สัดส่วน เพราะไม่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม สามารถเลื่อนลำดับต่อไปขึ้นมาได้เลย นอกจากนี้ ยังคัดจากบุคคลที่เป็นนักการเมืองในพรรค ที่ไม่ได่เป็นส.ส.ได้เช่นกัน
ส่วนที่มีข่าวว่าอาจจะเป็นนายอภิรักษ์นั้น นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า เหมาะสม เพราะนายอภิรักษ์เข้าใจสื่อ มีความรู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด เคยผ่าน ตำแหน่งผู้บริหารมาแล้ว คุณวุฒิ วัยวุฒิก็เหมาะสม และตำแหน่งนี้โดยข้อเท็จจริง นายกฯ จะเป็นผู้เลือกเข้ามาทำหน้าที่นี้เอง
ส่วนที่นายอภิรักษ์ ยังติดคดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.นั้น นายเทไท กล่าวว่า คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้นายอภิรักษ์มีตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษานายกฯ หากมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลก็ถือว่าไม่แตกต่างกัน เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองเหมือนกัน
มีการคุยกันเป็นระยะๆ เนื่องจากเป็นตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ พอเรามีจังหวะเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ หากจะมีการปรับเปลี่ยนผมออกจากตำแหน่งโฆษกฯ ก็พร้อม อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้จะทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ และไม่รู้สึกน้อยใจ เพราะปฏิบัติหน้าที่รักษาการโฆษกมาตั้งแต่ต้น
นายปณิธาน กล่าวว่างานรองเลขาธิการนายกฯ กับปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล ไม่ได้ซ้ำซ้อนอะไรมีการแยกแยะอยู่แล้วไม่มปัญหา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ทราบว่าใครให้ข่าวเรื่องปลัดนายปณิธาน ออกจากตำแหน่งโฆษกรัฐบาล นายปณิธานให้ข่าวเองหรือไม่ แต่จริงๆ คือ ตอนที่ตนไปขอให้นายปณิธานมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล ตนขอให้ท่านช่วยในระยะหนึ่งก่อน ตอนแรกท่านก็ลังเลเพราะอยากทำหน้าที่รองเลขาธิการนายกฯอย่าวเดียว แต่ท่านก็ช่วยงานมา
ท่านช่วยผมได้มากในการอธิบาย การชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง ปัญหาภาคใต้ เรื่องต่างประเทศ แต่หากมีบุคคลที่เหมาะสม และพร้อม ท่านก็ชอบใจอยู่แล้ว ท่านขอผมไว้ว่าไม่อยากเป็นนานเกินไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีครับ คือมีการพูดคุยกันอยู่ถึงบุคคลหลายๆคน แต่ว่ายังไม่ได้มาตรวจสอบชัดเจนในแง่ของความพร้อมในการทำหน้าที่
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าพอใจกับการทำหน้าที่ของนายปณิธาน แต่ถ้ามีคน ที่พร้อมมาทำท่านก็อยากปล่อยตรงนี้อยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่า ทำไมไม่มองบุคคลอื่น เช่นนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มองหลายคนครับ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในมุมมองของนายกรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาลคนใหม่ต้องเป็น อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องทำหน้าที่ในการชี้ให้ข้อเท็จจริงอย่างตรงไป ตรงมา มีเหตุมีผล เมื่อถามว่า ประเด็นทางการเมืองต้องชี้แจงตอบโต้ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใจตนจริงๆ แล้วไม่ค่อยอยากให้ตอบโต้การเมือง เพราะมีโฆษกพรรค มีนักการเมืองต่างๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นโฆษกรัฐบาลก็อยากให้ชี้แจงแต่งานรัฐบาลเป็นหลัก ส่วนการโต้ตอบในทางการเมืองนั้นไม่ขาดคนพูดหรอก
ส่วนโฆษกรัฐบาลคนใหม่ต้องเป็นโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายอภสิทธิ์ กล่าวว่า แล้ว นายปณิธานเป็นสมาชิกพรรคหรือเปล่า ไปสมัครซะ แต่โดยหลักตนดูเอง และก็จะเป็นคนคัดเลือก ไม่ได้ดูว่าจะเป็นโควต้าของใคร ส่วนจะได้โฆษกรัฐบาลคนเร็วหรือช้าก็จนกว่าจะหาคนใหม่ได้ ไม่ได้ขีดเส้นตายไว้ แต่ก็ดูอยู่ตลอดและปรึกษาอยู่เรื่อย เพราะเกรงใจท่าน เมื่อถามว่า แสดงว่ารอการตอบรับจากคนที่ทาบทามก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรรี กล่าวว่า ใช่ครับ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตำแหน่งโฆษกรัฐบาล มีความสำคัญ และพยายามหาคนมาเป็นโฆษกรัฐบาลตั้งแต่แรกตั้งรัฐบาล แต่ไม่ได้คนที่เหมาะสม นายอภิสิทธิ์ จึงให้นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ รับหน้าที่เป็นโฆษกรัฐบาลไปด้วย ทำให้นายปณิธานต้องรับภาระ และต้องให้นายปณิธานทำต่อไปจนกว่าจะหาคนได้ และตนก็ไม่เคยได้ยินว่า ในพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจนายปณิธาน อย่างไรก็ตามถ้านายอภิรักษ์ ยอมมาเป็นโฆษกรัฐบาลตามที่เป็นข่าวก็ดี เพราะถนัดในงานประชาสัมพันธ์ และคุ้นหน้าคุ้นตากับคนทั้งประเทศอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกัน เป็นเพียงการหารือระหว่างนายกฯ กับนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ เลชาธิการนายกฯ ส่วนจะต้องได้รับความเห็นชอบจากนาย ชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่นั้นคงต้องสอบถามกับ นายกฯ และนายนิพนธ์
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ ส่วนที่มีช่าวจะให้นายอภิรักษ์ มาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลนั้น ได้คุยกับนายอภิรักษ์แล้ว ยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่อง และไม่รู้มีข่าวมาจากไหน
นายปณิธานเป็นคนตั้งใจทำงาน และทำงานดีมาตลอด แต่อาจถูกวิจารณ์บ้าง เป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ใช่นกการเมือง เมื่อไม่มาเจอสถานการณ์แบบนี้ก็เหนื่อยหน่อย บางคนอยากให้ชี้แจงทันทั แต่นายปณิธานอยากชี้แจงบนพื้นฐานที่อิงกับข้อมูลที่ค่อนข้างเป็นนักวิชาการ ทำให้บางคนมองว่าไม่ทัน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องโฆษกรัฐบาลคนใหม่ที่นายกรัฐมนตรีกำลังหาอยู่ให้ไปถาามนายศิริโชค โสภร ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์สำหรับตนอยู่ในตำแหน่งนี้ก็พอใจแล้ว เพราะสามารถ ทำงานให้กับนายกฯ ได้ และหากจะไปเป็นโฆษกรัฐบาลก็ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. ไม่เช่นนั้นจะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 265-266 ดังนั้น จึงควรหาคนที่ไม่มีผลกระทบ หรือคนที่เป็นส.ส. ซึ่งนายกฯ ก็ยอมรับว่าได้มองบุคลากรในพรรคไว้หลายคน หากเป็น ส.ส.ก็น่าจะเป็นส.ส.สัดส่วน เพราะไม่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม สามารถเลื่อนลำดับต่อไปขึ้นมาได้เลย นอกจากนี้ ยังคัดจากบุคคลที่เป็นนักการเมืองในพรรค ที่ไม่ได่เป็นส.ส.ได้เช่นกัน
ส่วนที่มีข่าวว่าอาจจะเป็นนายอภิรักษ์นั้น นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า เหมาะสม เพราะนายอภิรักษ์เข้าใจสื่อ มีความรู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด เคยผ่าน ตำแหน่งผู้บริหารมาแล้ว คุณวุฒิ วัยวุฒิก็เหมาะสม และตำแหน่งนี้โดยข้อเท็จจริง นายกฯ จะเป็นผู้เลือกเข้ามาทำหน้าที่นี้เอง
ส่วนที่นายอภิรักษ์ ยังติดคดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.นั้น นายเทไท กล่าวว่า คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งขณะนี้นายอภิรักษ์มีตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษานายกฯ หากมาทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลก็ถือว่าไม่แตกต่างกัน เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งทางการเมืองเหมือนกัน