xs
xsm
sm
md
lg

ทหารกับฎีกาแดง

เผยแพร่:   โดย: ว.ร.ฤทธาคนี

ก็ยังคงเป็นเรื่องของฎีกาที่กลุ่มสาวกคนเสื้อแดงของทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการใช้เสียงคนกดดันระบบตุลาการในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ความพยายามโดยตรงนั้นคือการแสดงพลังเพื่อสำแดงให้สถาบันพระมหากษัตริย์ เห็นว่ามีผู้คนเลื่อมใสทักษิณมากและไม่ต้องการให้ทักษิณได้รับโทษที่เขาก่อไว้อย่างชัดเจน จนไม่สามารถที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้

ในโลกแห่งความเป็นจริง ความจงรักภักดีเกิดจากศรัทธาอันแรงกล้าที่เป็นจิตสำนึกที่ฝังอยู่ในสติปัญญาและสายเลือดของปัญญาชน และสัตบุรุษทั้งหลายที่เข้าใจแจ่มแจ้งถึงคุณประโยชน์ที่ส่วนรวมได้รับ มิใช่เฉพาะประโยชน์ที่ตัวเองได้รับอานิสงส์เท่านั้น เช่น คณาจารย์ที่จริงใจในการทุ่มเทสร้างลูกศิษย์ให้เป็นปัญญาชนคนดีของชาติ ก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ ศรัทธา และความจงรักภักดี หรือผู้นำองค์กรที่เห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นใหญ่ เสียสละแม้ชีวิตเพื่อคนหมู่มาก และมีความเด็ดขาดแต่ยุติธรรม ก็ย่อมได้รับพลังศรัทธาและความจงรักภักดีจากสังคมนั้น

ความศรัทธา จงรักภักดี และเชื่อฟังจะหมดไป เมื่อผู้ที่ควรได้รับความศรัทธานั้นเปลี่ยนแปลงจากดีเป็นเลว หรือคนที่ควรได้รับความศรัทธา จงรักภักดี และการเชื่อฟังยังคงคุณงามความดีเหมือนเดิม แต่คนที่ควรให้ความเคารพเชื่อฟัง ศรัทธา และความจงรักภักดีเปลี่ยนไป และที่เขาเปลี่ยนไปก็เพราะความโลภ โกรธ หลง ครอบงำเขาในขณะที่เขามีอำนาจสูงสุด หรือเมื่อเริ่มแรกเขาอำพรางธาตุแท้ของเขาไว้ไม่ให้ใครรู้ ครั้นเมื่อถูกจับได้ว่าเป็นคนโกหก มดเท็จ หลอกลวง ก็จะเลิกให้ความจงรักภักดี ไม่เชื่อฟัง และหวังที่ทำลายคุณงามความดีของสัตบุรุษนั้นด้วยการกล่าวโทษให้ร้ายโดยตรง หรือหากไม่กล้าก็กล่าวกระทบทางอ้อม เปรียบเทียบทางอ้อม หรือสร้างเรื่องที่คลุมเครือจนคนบางกลุ่มเชื่อและเลื่อมใสศรัทธาว่าเป็นจริง

เรื่องเหล่านี้มีบุคคลสองคนในประวัติศาสตร์แห่งความชั่วร้ายที่สร้างความฉิบหายให้กับเยอรมนีมาแล้วคือ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และดร.โจเซฟ เกมเบลส์ อดีตรัฐมนตรีโฆษณาการของรัฐบาลนาซีเยอรมนีที่สร้างฉากต่างๆ ให้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จอมเผด็จการที่เข้าสู่การเมืองด้วยการก่อกบฏ สร้างลัทธิเจ้าโลก และทารุณโหดร้ายกับทุกคนที่ขวางทางเขา

ดร.โจเซฟ เกมเบลส์ เริ่มต้นชีวิตการเมืองในปี 1933 ด้วยการประณามชาวเยอรมันที่นับถือศาสนายิว ทำลายหนังสือทั้งหมดที่ต่อต้านลัทธินาซี ปลุกระดมให้คนเยอรมันเป็นคนก้าวร้าว และคิดร้ายทำลายชนกลุ่มน้อย เช่น ชาวโปแลนด์ คนยิว และชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในเยอรมนี

บทสำคัญของสงครามจิตวิทยาที่ดร.โจเซฟ เกมเบลส์ ใช้เป็นกลไกปลุกระดมคือการสร้างคำพูดที่กินใจ เช่น “ประวัติศาสตร์ถูกสร้างจากถนน” หรือ “ถ้าปีศาจในตัวฉันหลุดออกมาแล้ว พวกแกจะไม่มีวันควบคุมมันได้อีกเลย”

บั้นปลายชีวิตของทั้งอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และดร.โจเซฟ เกมเบลส์ ก็ไม่ต่างกัน ก็คือ การฆ่าตัวตาย แต่ดร.โจเซฟ เกมเบลส์ แสดงความโหดออกมาด้วยการขอมอร์ฟีนจากนายแพทย์หน่วยเอสเอส แล้วฉีดให้ลูก 6 คน หลังจากนั้นก็หยอดไซยาไนด์ยาพิษอย่างแรงใส่ปากลูกทั้ง 6 คน แล้วเขากับภรรยาก็ฆ่าตัวตายตามด้วยการกินยาพิษเช่นกัน

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตผู้ต้องโทษหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่กล่าวร้ายเปรียบเทียบสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า ไม่ได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนขณะหาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และถูกตัดสินจำคุก 11 ปีแต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สงสารให้คำแนะนำจนนายวีระยื่นขอฎีกา และได้รับพระราชทานอภัยโทษ และการนี้เขาเป็นตัวตั้งตัวตีในการนำฎีกาไปยื่นถวายในหลวงผ่านสำนักราชเลขาธิการ ณ บริเวณประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง

และต่อมาสำนักราชเลขาธิการแถลงว่า ได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาแล้วและแถลงเพิ่มเติมว่า กรณีทั้งหลายที่เกี่ยวกับการขอพระราชทานอภัยโทษ การขอพระราชทานความเป็นธรรม และการขอพระราชทานความช่วยเหลือ สำนักราชเลขาธิการต้องส่งฎีกาไปให้รัฐบาลพิจารณาถวายความเห็นประกอบพระราชดำริต่อไป

ขณะที่กลุ่มสาวกคนเสื้อแดงของทักษิณได้ดำเนินการบรรลุตามแผนชั่วนี้แล้ว ก็กล่าวยืนยันว่าไม่ก้าวล่วงพระราชวินิจฉัย และลั่นว่าเสร็จหนึ่งภารกิจ ขอสู้ต่อระบบอำมาตยาธิปไตยขับไล่รัฐบาลต่อไป

ตรงนี้ก็น่าจะเป็นปุจฉาว่า เป็นแผนการร้ายทำสงครามจิตวิทยากดดันสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นภารกิจหนึ่งใช่ไหม เพราะบอกว่า “เสร็จหนึ่งภารกิจ” ขอสู้ต่อระบบอำมาตยาธิปไตยซึ่งพวกทักษิณใช้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษเป็นสัญลักษณ์ แต่ที่สำคัญพล.อ.เปรมเป็นบุคคลที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ว่า “เป็นพระราชอำนาจในการที่จะทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย” จึงเป็นการกระทำที่กระทบต่อพระบารมี และพระราชอำนาจหรือไม่ ประชาชนต้องไตร่ตรอง ทั้งยังบอกว่า “เสร็จหนึ่งภารกิจ” นั้นหมายความว่า “ภารกิจกดดันในหลวงเสร็จไปแล้วหนึ่งภารกิจใช่หรือไม่”

ประเด็นเหล่านี้เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนต้องพิจารณา เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังคงสับสนในความละเอียดอ่อนของกฎหมายว่าด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมีลักษณะความเป็นมาต่างกัน และวิธีการต่างกัน เช่น การขอพระราชทานอภัยโทษชั้นดีของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมนั้นเกิดขึ้นได้เพราะพฤติกรรมของนักโทษเองที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษตามวาระมงคลต่างๆ

เจ้าหน้าที่รัฐที่สำคัญหมู่หนึ่งคือ ทหารซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำรงรักษาราชบัลลังก์ และดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์ อีกทั้งกองทัพเป็นสถาบันหลักที่สำคัญยิ่งของชาติ ความสามารถของกองทัพกระทำได้ทั้งทางนิติกรรมและพฤติกรรม ทางนิติกรรมถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ทางพฤติกรรมนั้นก็คือการทำรัฐประหารตามหลักรัฐศาสตร์ ด้วยหากอำนาจรัฐขณะนั้นเป็นพิษ หรือบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะอนาธิปไตยร้ายแรง ซึ่งประชาชนคาดหวังว่า กองทัพจะเป็นที่พึ่งสุดท้าย ทหารก็ต้องกอบกู้สถานการณ์ร้ายให้กลายเป็นดีโดยเร็ว

กองทัพมีระบบการศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่สุดระบบหนึ่ง โดยเฉพาะระบบการศึกษาต่อเนื่อง (Re-education) ของกองทัพที่มีมาช้านานแล้วก่อนองค์กรทางพลเรือน เช่น โรงเรียนระดับผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพัน โรงเรียนเสนาธิการเหล่าทัพ วิทยาลัยการทัพ และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รวมทั้งยังมีสถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์หรือการสงคราม ซึ่งวิทยากรรับเชิญนั้นถือว่าสุดยอดในแต่ละสาขาวิชาว่าด้วยพลังแห่งชาติ ตามหลัก 5 ประการของ เอ็ดเวิร์ด มีด เอิร์ล (Edward Mead Earl) คือ พลังทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และการทหาร เช่น ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ยอดอาจารย์รัฐศาสตร์การทหารที่รับเชิญไปสอนนายทหารหลายสถาบันและหลายรุ่น โดยเฉพาะในระดับโรงเรียนเสนาธิการเหล่าทัพ และวิทยาลัยเหล่าทัพ

วิธีการเรียนการสอนที่ประยุกต์ใช้ในสถาบันการศึกษาชั้นสูงเหล่านี้ ได้แก่การสัมมนา การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การเศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา เทคโนโลยี และการทหาร วิพากษ์เหตุการณ์ วิเคราะห์ผลกระทบหรือหาหนทางแก้ไข

ไม่ทราบว่ามีสถาบันการศึกษาชั้นสูงของเหล่าทัพได้ศึกษาวิจัย และหาข้อยุติเรื่องการถวายฎีกาของกลุ่มคนที่ไม่ใช่ญาติทักษิณเป็นการล้วงพระราชอำนาจหรือไม่ หากมีก็ควรนำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบบ้าง เพราะประชาชนอยากเห็นกลุ่มคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะในการรักษาดำรงไว้ซึ่งราชบัลลังก์ และพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์แสดงความคิดเห็นเชิงวิชาการ

เชื่อว่า เครือข่ายสถาบันการศึกษา เครือข่ายผู้ทรงคุณวุฒิ เครือข่ายคณาจารย์ และความสามารถของนายทหารสถานศึกษาที่มีศักยภาพ คงจะหาคำตอบให้ประชาชนได้รับรู้ว่า ทหารระดับมันสมองกองทัพคิดอย่างไร เพราะการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการเพื่อความมั่นคงและเป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญแล้ว กลุ่มปัญญาชนทหารสามารถกระทำได้อยู่แล้ว คนไทยรอฟัง
กำลังโหลดความคิดเห็น