ASTVผู้จัดการรายวัน - ออมสินเร่งปล่อยกู้ฟาสต์แทร็ก 8 หมื่นล้าน ภายในสิ้นปีนี้ ชูโครงการธนาคารประชาชน - สินเชื่อห้องแถว ลดขั้นตอนอนุมัติภายใน 3 วัน ตั้งเป้าปล่อยสาขาละ 6 รายต่อวัน โวหนี้เสียต่ำ
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการเร่งปล่อยสินเชื่อตามนโนบายของกระทรวงการคลังว่า ในส่วนของออมสินมีสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจำนวนนี้จะเข้าโครงการฟาสต์แทร็กทั้งหมด โดยจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้รากหญ้าประมาณ 80% หรือกว่า 6.4 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ ซึ่งจะมีทั้งโครงการธนาคารประชาชนและสินเชื่อห้องแถวรวมถึงสินเชื่อบ้านด้วย ซึ่งธนาคารมีการลดขั้นตอนการกรอกเอกสารและการพิจารณาให้เร็วขึ้นรวมทั้งผ่อนปรนหลักเกณฑ์ต่างๆเพื่อเอื้อประชาชนรายย่อยมากขึ้น เช่น โครงการธนาคารประชาชนมีการลดดอกเบี้ยเหลือ 0.50% ต่อเดือน จากเดิม 0.75% และลดจำนวนบุคคลค้ำประกันลงจาก 3 คนเหลือ 1 คน วงเงิน 5 หมื่น - 1 แสนบาท
รวมทั้งจะพิจารณาอนุมัติภายใน 3 วัน ส่วนสินเชื่อห้องแถวอาจจะใช้เวลาพิจารณานานกว่านี้เล็กน้อยอาจอยู่ที่ 7-14 วัน เพราะต้องประเมินหลักประกันด้วย โดยหากสินเชื่อเกินวงเงินหลักประกันก็จะขอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเข้ามาค้ำประกันส่วนที่เกินให้ กำหนดวงเงินให้กู้ต่อราย 5 แสนบาทส่วนอีก 20% จะปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีหรือธุรกิจบริการต่างๆ
"ที่ผ่านมามีผู้สนใจขอสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนและสินเชื่อห้องแถวจำนวนมาก เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการสร้างงานตามนโยบายของกระทรวงการคลังด้วย ทำให้สิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมามีผู้ขอกู้ธนาคารประชาชนเข้ามาถึง 2.7 หมื่นรายวงเงินรวม 1.5 พันล้านบาท รวมขณะนี้มีผู้ใช้บริการแล้ว 4 แสนราย วงเงินรวม 8 พันล้านบาท ส่วนสินเชื่อห้องแถวมีผู้ขอกู้แล้ว 3 พันรายวงเงิน 2 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆด้วย โดยเชื่อว่าในช่วง 5 เดือนที่เหลือซึ่งธนาคารต้องปล่อยสินเชื่ออีกรวม 1.1 แสนล้านบาทนั้นน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งปล่อยแต่ละสาขาปล่อยกู้โครงการธนาคารประชาชนให้ได้วันละ 6 ราย สินเชื่อห้องแถววันละ 0.6 ราย ส่วนสินเชื่อบ้านยังคงให้กู้ตามเงื่อนไขเดิมทั้งกู้ซื้อบ้านใหม่และรีไฟแนนซ์เพราะไม่อยากไปแข่งขันกับธนาคารที่ปล่อยกู้ด้านนี้อยู่แล้ว" นายเลอศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามการดำเนินงานดังกล่าวธนาคารสามารถรับความเสี่ยงได้เอง ไม่จำเป็นต้องขอแยกบัญชีออกไปพิเศษ เนื่องจากสัดส่วนหนี้เสียยังอยู่ระดับต่ำ 3.2% ขณะที่ผลกำไร 7 เดือนอยู่ที่ 8 พันล้านบาท สำหรับสภาพคล่องในการดำเนินงานนั้นไม่มีปัญหาเพราะที่ผ่านมามีเงินฝากไหลเข้ามามาก 7 เดือนเพิ่มขึ้นกว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะเดือนมิ.ย.เดือนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 2 หมื่นล้านบาท และก.ค. 1.8 หมื่นล้านบาททั้งที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะประชาชนมีความเชื่อมั่นและออมสินให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารอื่นๆประมาณ 10 สตางค์ โดยหลังจากมีการเปิดตัวระบบคอลแบงก์กิ้งใหม่ของธนาคารในเดือนต.ค.นี้ก็อาจจะมีการระดมเงินรูปแบบใหม่ผ่านสลากออมสินเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกจากให้ดอกเบี้ยแล้วยังจูงใจด้วยการแจกรถเบ็นซ์จำนวน 10 คันด้วย.
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการเร่งปล่อยสินเชื่อตามนโนบายของกระทรวงการคลังว่า ในส่วนของออมสินมีสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจำนวนนี้จะเข้าโครงการฟาสต์แทร็กทั้งหมด โดยจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้รากหญ้าประมาณ 80% หรือกว่า 6.4 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ ซึ่งจะมีทั้งโครงการธนาคารประชาชนและสินเชื่อห้องแถวรวมถึงสินเชื่อบ้านด้วย ซึ่งธนาคารมีการลดขั้นตอนการกรอกเอกสารและการพิจารณาให้เร็วขึ้นรวมทั้งผ่อนปรนหลักเกณฑ์ต่างๆเพื่อเอื้อประชาชนรายย่อยมากขึ้น เช่น โครงการธนาคารประชาชนมีการลดดอกเบี้ยเหลือ 0.50% ต่อเดือน จากเดิม 0.75% และลดจำนวนบุคคลค้ำประกันลงจาก 3 คนเหลือ 1 คน วงเงิน 5 หมื่น - 1 แสนบาท
รวมทั้งจะพิจารณาอนุมัติภายใน 3 วัน ส่วนสินเชื่อห้องแถวอาจจะใช้เวลาพิจารณานานกว่านี้เล็กน้อยอาจอยู่ที่ 7-14 วัน เพราะต้องประเมินหลักประกันด้วย โดยหากสินเชื่อเกินวงเงินหลักประกันก็จะขอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเข้ามาค้ำประกันส่วนที่เกินให้ กำหนดวงเงินให้กู้ต่อราย 5 แสนบาทส่วนอีก 20% จะปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีหรือธุรกิจบริการต่างๆ
"ที่ผ่านมามีผู้สนใจขอสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชนและสินเชื่อห้องแถวจำนวนมาก เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการสร้างงานตามนโยบายของกระทรวงการคลังด้วย ทำให้สิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมามีผู้ขอกู้ธนาคารประชาชนเข้ามาถึง 2.7 หมื่นรายวงเงินรวม 1.5 พันล้านบาท รวมขณะนี้มีผู้ใช้บริการแล้ว 4 แสนราย วงเงินรวม 8 พันล้านบาท ส่วนสินเชื่อห้องแถวมีผู้ขอกู้แล้ว 3 พันรายวงเงิน 2 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆด้วย โดยเชื่อว่าในช่วง 5 เดือนที่เหลือซึ่งธนาคารต้องปล่อยสินเชื่ออีกรวม 1.1 แสนล้านบาทนั้นน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งปล่อยแต่ละสาขาปล่อยกู้โครงการธนาคารประชาชนให้ได้วันละ 6 ราย สินเชื่อห้องแถววันละ 0.6 ราย ส่วนสินเชื่อบ้านยังคงให้กู้ตามเงื่อนไขเดิมทั้งกู้ซื้อบ้านใหม่และรีไฟแนนซ์เพราะไม่อยากไปแข่งขันกับธนาคารที่ปล่อยกู้ด้านนี้อยู่แล้ว" นายเลอศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามการดำเนินงานดังกล่าวธนาคารสามารถรับความเสี่ยงได้เอง ไม่จำเป็นต้องขอแยกบัญชีออกไปพิเศษ เนื่องจากสัดส่วนหนี้เสียยังอยู่ระดับต่ำ 3.2% ขณะที่ผลกำไร 7 เดือนอยู่ที่ 8 พันล้านบาท สำหรับสภาพคล่องในการดำเนินงานนั้นไม่มีปัญหาเพราะที่ผ่านมามีเงินฝากไหลเข้ามามาก 7 เดือนเพิ่มขึ้นกว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะเดือนมิ.ย.เดือนเดียวเพิ่มขึ้นถึง 2 หมื่นล้านบาท และก.ค. 1.8 หมื่นล้านบาททั้งที่ไม่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะประชาชนมีความเชื่อมั่นและออมสินให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคารอื่นๆประมาณ 10 สตางค์ โดยหลังจากมีการเปิดตัวระบบคอลแบงก์กิ้งใหม่ของธนาคารในเดือนต.ค.นี้ก็อาจจะมีการระดมเงินรูปแบบใหม่ผ่านสลากออมสินเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งนอกจากให้ดอกเบี้ยแล้วยังจูงใจด้วยการแจกรถเบ็นซ์จำนวน 10 คันด้วย.
