xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯร้องทุกข์ฎีกาแดง มท.1เผยมีคนต้าน4.8ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "ชวรัตน์" รายงานครม. มีประชาชนลงชื่อค้าน"ฎีกาแดง" ทะลุ 4.8 ล้าน ด้านพันธมิตรฯจันทบุรี -ขอนแก่น ประเดิมรวมตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดีแก๊งเสื้อแดงกับพวกแล้ว ส่วนพันธมิตรฯสงขลา เตรียมแจ้งความก่อน 15 ส.ค.นี้ ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว.จับผิดแก๊งฎีกาแดงมั่ว 5 ล้านชื่อ

นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (11ส.ค.)ว่า ระหว่างการประชุม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ได้รายงานตัวเลขประชาชนที่ลงชื่อคัดค้านการล่ารายชื่อลงนามถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่วันที่ 3-10 ส.ค.ว่ามีประมาณ 4.8 ล้านคน แบ่งเป็นภาคเหนือ 4 แสนคน ภาคอีสาน 2.6 ล้านคน ภาคกลาง 1.1 ล้านคน และภาคใต้ 5 แสนคน
ส่วนประชาชนที่มาแจ้งขอถอนชื่อถวายฎีกา มีทั้งสิ้น 7,925 คน พร้อมกันนี้นายชวรัตน์ ยังขอให้กระทรวงต่างๆ ช่วยกันรณรงค์บอกกับประชาชนทั่วประเทศถึงขั้นตอน และหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องในการยื่นถวายฎีกา อย่าปล่อยให้ประชาชนที่ไม่เข้าใจถูกปลุกปั่นให้หลงผิด

** ยันมท.ทำเพื่อพิทักษ์สถาบันฯ
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการตั้งโต๊ะลงชื่อเพื่อค้านการถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่พรรคเพื่อไทยอ้างว่า การกระทำของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นการกระทำผิดกฎหมายนั้น ตนยืนยันว่าสิ่งที่ได้ทำไป เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นหน้าที่อันพึงต้องกระทำของกระทรวงมหาดไทย เพื่อปกป้องสถาบัน และหลายฝ่ายได้พูดชัดเจนว่า การล่าชื่อของกลุ่มเสื้อแดง ทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่บังควร มีผลกระทบต่อสถาบันเบื้องสูง จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ที่จะต้องคัดค้าน ถ้าไม่ทำอาจจะถูกตำหนิว่า ปล่อยปะละเลยให้มีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขยายไปทั่วประเทศ
"วันนี้สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำปฎิเสธไม่ได้ว่า เป็นการร่วมกันของพรรคเพื่อไทย และกลุ่มเสื้อแดง ในการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกระทบต่อสถาบันเบื้องสูง พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมือง ต้องแถลงจุดยืนมาให้ชัด พรรคการเมืองกำลังร่วมกับประชาชน ในการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกระทบต่อเบื้องสูง เป็นเรื่องสำควรหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องพรรคเพื่อไทย และอยากให้แจ้งต่อไปยังอดีตนายกฯ ซึ่งอยู่ที่ไหนในโลกนี้ให้ยุติเรื่อง เพื่อบรรยากาศบ้านเมืองจะได้คลี่คลายลง"นายศุภชัยกล่าว
นายศูภชัย ยังชี้แจงด้วยว่า เหตุที่มีผู้ลงรายชื่อคัดค้านจำนวนมากทั้งที่ใช้เวลาเพียงแค่ 7 วัน เนื่องจากประชาชนได้รู้ความจริงแล้วว่า สิ่งที่กลุ่มเสื้อแดงทำ เป็นเรื่องที่ไม่บังควร และไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงเกิดกระแสคนที่ไม่ชอบเสื้อแดงขึ้น เป็นกระแสตีกลับที่กลุ่มเสื้อแดงต้องทบทวน และตนคาดว่า กว่าจะถึงวันที่ 16 ส.ค. คงมีมากกว่านี้
"สิ่งที่มหาดไทยได้ดำเนินการ เป็นการชี้แจงให้ประชาชนได้รู้ถึงการดำเนินการของกลุ่มเสื้อแดงว่า มีผลไม่ใช่เฉพาะสถาบันฯ แต่มีแม้กระทั่งสถาบันศาล เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ดำเนินการเรื่องเหล่านี้สถาบันศาลจะขาดการยอมรับ และเป็นความจำเป็นที่ต้องอธิบาย" นายศุภชัยกล่าว

**พธม.จันทบุรีแจ้งจับ3เกลอหัวขวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่าง แบบฟอร์มเพื่อใช้เป็นใบแจ้งความ ให้ประชาชนดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ผู้จัดการ (สำหรับหนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับวันนี้ แบบฟอร์มใบแจ้งความอยู่ที่หน้า 11 ) เพื่อใช้แจ้งความดำเนินคดีต่อ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ในฐานะผู้ริเริ่ม และชักชวนให้ประชาชนลงชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) นายสุวิชาณ สุวรรณาคะ ประธานกลุ่มการเมืองภาคประชาชนจังหวัดจันทบุรี แกนนำพันธมิตรฯ จันทบุรี และนายไพโรจน์ ลิมป์ธนวงศ์ แกนนำผู้ประสานงานพันธมิตรฯจันทบุรี พร้อมด้วยสมาชิกพันธมิตรฯจันทบุรี กว่า 50 คน ได้นำคำร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่ออาญาแผ่นดิน และรายละเอียดของฎีกา เข้าพบพ.ต.ท.สยาม จิตเพียร เจ้าพนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.เมืองจันทบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และพวก ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198
นายสุวิชาณ กล่าวถึงรายละเอียดข้อกล่าวหาว่า จากกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งนำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ กับพวก ดำเนินการรวบรวมรายชื่อประชาชนที่นิยมชมชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ร่วมกันลงชื่อในฎีกา ที่พวกกลุ่มเสื้อแดงจัดทำขึ้น เพื่อทูลเกล้าถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีการโฆษณาป่าวประกาศว่า จะสามารถนำรายชื่อประชาชนจำนวนหลายล้านคน มาร่วมลงชื่อ เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
การกระทำดังกล่าว เป็นการพยายามช่วยเหลือนักโทษที่หนีอาญาแผ่นดินให้พ้นโทษไม่ต้องรับผิด เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ซึ่งบัญญัติว่า "ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

**พธม.ขอนแก่นแจ้งจับเสื้อแดงยื่นฎีกา
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น พี่น้องพันธมิตรฯขอนแก่น ได้นัดกันเดินทางเข้าแจ้งความโดยนำคำร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่ออาญาแผ่นดิน และรายละเอียดของฎีกา เข้าพบเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และพวกในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 เช่นกัน
น.ส.ณภัทร นิธินันทพร แนวร่วมพันธมิตรฯขอนแก่น ที่มาร่วมแจ้งความครั้งนี้ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าประชาชนทั่วไปไม่เข้าใจข้อเท็จจริง เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ใช้สื่อสารมวลชนที่มีอยู่ชี้แจงความจริงถึงการกระทำของคนเสื้อแดงว่าไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะ ไม่ควรอย่างไร แต่ตนและเพื่อนพันธมิตรฯได้รู้ความจริงจาก เอเอสทีวี จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะไม่สามารถที่จะพึ่งหรือมีความหวังใดๆจากรัฐบาลได้อีก
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น แสดงท่าทีคล้ายไม่ต้องการรับแจ้งความ พร้อมสอบถามผู้มาแจ้งความว่า "เหตุเกิดที่ไหน มาแจ้งความกันทำไม และขอให้ทุกคนเขียนชื่อบิดา มารดา หลังสำเนาบัตรประชาชนทุกคนด้วย เพื่อจะเรียกสอบปากคำผู้มาแจ้งความเป็นรายบุคคลทุกคน พร้อมเสนอให้กลุ่มพันธมิตรฯ ส่งตัวแทนมาแจ้งความ แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ยืนยันจะแจ้งความเป็นรายบุคคล ในที่สุด

**พธม.ใต้แจ้งความก่อน15 ส.ค.นี้
นายสุมิตร นวลมณี ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ 6 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เผยถึงกระแสต่อต้านการล่ารายชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ น.ช.ทักษิณ ว่า ในส่วนของประชาชนทั่วไปนั้น ภาครัฐได้เปิดให้มีการลงชื่อคัดค้านการกระทำดังกล่าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในภาคใต้เป็นอย่างมาก ด้วยเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีลักษณะเป็นการดำเนินการทางการเมือง เพื่อกดดันต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นเรื่องที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ เว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ยังได้เปิดให้ดาวน์โหลดใบแจ้งความ หรือเดินทางมารับได้ที่ศูนย์ประสานงานพันธมิตรฯ จ.สงขลา ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่สามารถร่วมกันหยุดยั้งการกระทำอันมิบังควรดังกล่าวได้ ซึ่งการกระทำของผู้นำกลุ่มคนเสื้อแดงดังกล่าว นอกจากจะเป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่งแล้ว ยังเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ด้วย นายสุมิตร กล่าวว่า หากประชาชนมองเห็นว่า การกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการแจ้งความในท้องที่นั้นๆ โดยทันที อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ จ.สงขลา นั้น จะมีการนัดรวมตัวประชาชน เพื่อแจ้งความร่วมกันก่อนวันที่ 15 ส.ค.นี้ โดยรายละเอียด จะประชุมอีกครั้ง
นางวชิรา เครือเนียม เจ้าของร้านโบ๊ตเบอร์เกอรี่ และศูนย์ประสานงานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่าทางร้านจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่กระจายใบแจ้งความ พร้อมทั้งเดินทางแจกจ่ายให้กับสมาชิกพันธมิตรฯ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เช่น ย่านตลาดกิมหยง เพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งนี้เพื่อร่วมกันคัดค้านการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง และแจ้งความเอาผิดแก่ 3 แกนนำคนเสื้อแดงกับพวก
" ตอนนี้ประชาชนให้ความสนใจโทรมาสอบถามเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากได้มีการกรอกเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็จะรอรวมตัวกับพันธมิตรฯ จ.สงขลา เพื่อเดินทางไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจพร้อมกันอย่างแน่นอน" นางวชิรากล่าว

**แฉเสื้อแดงเคาะประตูซื้อชื่อถวายฎีกา
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.สงขลานั้น มีกระแสข่าววงในว่า นอกจากจะมีการเปิดเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงที่โรงแรมลีการ์เด้นท์แล้ว ยังใช้โอกาสดังกล่าวระดมคนเพื่อลงชื่ออีกด้วย และยังส่งคนลงพื้นที่เคาะประตูตามหมู่บ้าน เพื่อขอให้ลงชื่อโดยแลกกับค่าตอบแทน 1,000-1,500 บาท แต่จะได้ในกลุ่มคนที่ไม่สนใจเรื่องการเมือง และไม่ทราบว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อสังคมไทยอย่างไร จึงยอมขายสิทธิ
40 ส.ว. เย้ย "เสื้อแดง" 5 ล้านรายชื่อถวายฎีกาเป็นของปลอม หนุน ปชช.ทั่วประเทศ แจ้งความกลับสามเกลอหัวขวด

**40 ส.ว.เย้ย"ฎีกาแดง"มั่ว 5 ล้านชื่อ
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีคนเสื้อแดง เตรียมยื่นถวายฎีกาต่อสำนักราชเลขาธิการในวันที่ 17 ส.ค.นี้ว่า นับจากวันที่ 31 ก.ค. ซึ่งล่วงเลยมา 11 วันแล้วได้มีกลุ่มคนแอบอ้างการถวายฏีกาว่ามีกว่า 5 ล้านรายชื่อแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่า ภายหลังการรวบรวมรายชื่อในวันที่ 31 ก.ค. ทราบว่ามีเอกสารเพียงไม่กี่แสนฉบับเกี่ยวกับรายชื่อถวายฎีกา โดยมีการนำรถตู้ขนส่งไปยังตึกอิมพีเรียล ลาดพร้าว แล้วโยกไปที่ตึกย่านวิภาวดี รวมทั้งมีการคัดลอกรายชื่อเพื่อหวังผลทางการเมืองให้กับพรรคบางพรรคที่นั่น และการอ้างว่ามีรายชื่อที่ถวายฎีกา กว่า 5 ล้านรายชื่อนั้น ตนเห็นว่าคนหนึ่งคนที่จะถวายฎีกา ต้องมีเอกสารหลายฉบับ อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รวมทั้งถ้ามีจำนวนคน 5 ล้านรายชื่อ จะต้องมีเอกสารประกอบดังกล่าวอีก 1-2 ล้านแผ่น และจะรวมกันอยู่ที่ประมาณ 6-7 ล้านแผ่น เพราะกรณีนี้ตนเคยมีประสบการณ์ที่เห็นมาจากกรณีที่ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ที่เคยมายื่นลงชื่อประชาชนคัดค้านเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจำนวน 5 หมื่นรายชื่อ ก็มีการใช้ลัง และมีเอกสารจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นไปตามที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่ามี 5 ล้านรายชื่อจริง ก็ควรที่จะมีลังใส่ประมาณ 3,241 ใบ และต้องใช้รถคอนเทนเนอร์ขนที่ต้องเต็มตู้คอนเทนเนอร์ 1 คัน และรถกระบะอีก 2 คัน ถึงจะขนได้หมด
ดังนั้น จึงเป็นคำถามว่า เอกสารที่กลุ่มคนดังกล่าวอ้างนั้นมีจริงอยู่หรือไม่ เพราะตนทราบจากหน่วยข่าวกรองทางทหารว่า มีอยู่เพียง 1.4 ล้านรายชื่อเท่านั้น แม้จะผ่านการกวดขันไปยัง ส.ส.บางพรรคว่าหากใครทำได้ 1 แสนรายชื่อ ก็จะมีรางวัล แต่ก็ไม่มีใครทำได้
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า อยากให้สื่อ และประชาชนได้ติดตามว่ากลุ่มคนที่อ้างว่ามีถึง 5 ล้านรายชื่อ ที่เตรียมถวายฎีกาว่ามีอยู่จริงหรือไม่ เพราะคนเหล่านี้ใจจริงแล้วไม่ได้หวังถวายฎีกาเพื่อขออภัยโทษ แต่หวังต้องการตีกินทางการเมือง และที่สำคัญ ต้องการใช้สื่อทั้งในและต่างประเทศเผยแพร่ไปทั่วโลก เพื่อเป็นการประณามประเทศไทย รวมทั้งทำให้คนทั่วโลกไม่เข้าใจสถาบันฯ
นายสมชาย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่ขณะนี้มีการดาวน์โหลดแบบฟอร์ม เพื่อต่อต้านการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งตนอยากให้มีการแจ้งความทั่วประเทศ แก่ผู้ก่อการด้วย รวมทั้งอยากให้เปรียบเทียบไปรษณียบัตร ของหลินปิงแพนด้าน้อย ที่มีจำนวนกว่า 27 ล้านรายชื่อ กับรายชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดง มาเปรียบเทียบกันว่ามีความแตกต่างกันเพียงใด
ขณะที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่า การรวบรวมรายชื่อถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ที่ใช้เวลาเพียง 1 เดือน ทำไม่ได้อย่างแน่นอน คงเป็นเพียงราคาคุย เป็นแค่เกมหาเรื่อง เพื่อยึดพื้นที่สื่อ และอดสงสัยไม่ได้ว่ามีการลอกรายชื่อแทนกันหรือไม่ ซึ่งทั้งสื่อ ประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องควรจะไปสอบถามที่กรมทะเบียนราษฎร์ มีบุคคลที่ร่วมลงรายชื่อ มีอยู่จริงหรือไม่

**"ชายกระโปรง"หยัน4 ล้านชื่อต้าน
ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของพ.ต.ท.ทักษิณว่า มีความเป็นอยู่สบายดี แต่ยังทุกข์ทางใจ คิดถึงบ้าน อยากกลับบ้าน ส่วนจะได้เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อไรนั้น ตนก็ยังไม่รู้
สำหรับกรณีที่มีประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง มีจำนวนถึง 4 ล้านรายชื่อ และอาจจะเพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านรายชื่อนั้น นายสมชาย กล่าวว่า ตัวเลขจะจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเรื่องการถวายฎีกานั้นไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งทำ แต่เป็นการกระทำของคนทั้งประเทศ ซึ่งหากจะคัดค้านก็สามารถทำได้ แต่น่าจะเป็นเพียงแค่ความเห็นที่แตกต่างกันเท่านั้น ไม่ใช่การแตกแยก

**ปัด17 ส.ค.ไม่ใช่ชนวนปฏิวัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าในวันที่ 17 ส.ค.ที่จะมีการถวายฎีกานั้น อาจจะเป็นชนวนเหตุให้เกิดการปฏิวัติได้หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยความเห็นขัดแย้งได้ แต่ไม่มีเหตุอะไรที่ทหารจะเข้ามาทำการปฏิวัติ รัฐประการ ไม่จำเป็นต้องมี เพราะหากเกิดขึ้นแล้วสุดท้ายก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งอยู่ดี ระบอบประชาธิปไตยจะเดินหน้าไปได้ ไม่ใช่ว่าต้องแก้ไขโดยการทำการปฏิวัติ เชื่อว่าวันที่ 17 ส.ค. คงจะไม่มีเหตุรุนแรงอะไร คนที่เดือดร้อนอยากจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มาได้ คนที่คัดค้านและไม่เห็นด้วย อยากจะมาก็มาได้ ตามระบอบประชาธิปไตยนั้น มีทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับคนอื่น ก็สามารถบอกกับเขาได้ แต่ไม่ควรสร้างประเด็น จนนำไปสู่การสร้างความแตกแยก

**พงศ์เทพ"ชี้ค้านถวายฎีกาผิดปกติ
ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การยื่นถวายฎีกา เป็นเรื่องของพสกนิกรที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย แต่การคัดค้านการยื่นถวายฎีกานั้น เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก การคัดค้านที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องผิดปกติ ทำให้เกิดความวุ่นวาย ยุ่งยาก
นอกจากนี้ คนที่คัดค้านนั้นจะเห็นได้ว่า มีกลุ่มบุคคลช่วยทำให้เกิดกระแส และมีความพยายามที่จะสร้างประเด็นขึ้นมา ทั้งๆที่ใครใคร่ถวายฎีกานั้น ถือเป็นเรื่องปกติ การพยายามสร้างประเด็นขึ้นมาจะยิ่งทำให้เกิดความไม่ปรองดอง เช่น ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เคยมีการยื่นถวายฎีกาหลายครั้ง จากคนหลายกลุ่ม แต่ก็ไม่เคยมีการคัดค้านเลย

**ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่พระบรมราชวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำนวนผู้คัดค้านการยื่นถวายฎีกา 4 ล้านรายชื่อ และสามารถเพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านรายชื่อนั้น สามารถนำมาคานกันได้หรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า คนคัดค้านมีจำนวนเท่าไรนั้นไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นคือ คนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะยื่นถวายฎีกาได้ ส่วนตัวเลขจะสูงหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยว เป็นคนละเรื่องกัน
สำหรับในฐานะ อดีต รมว.ยุติธรรม มองว่าเมื่อมีการยื่นถวายฎีกาไปแล้ว สามารถนำกลับมาทบทวนใหม่อีกครั้งได้หรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เมื่อมีการยื่นถวายฎีกาไปแล้ว หากสำนักราชเลขาธิการติดใจ หรือสงสัย ข้องใจ ก็จะส่งเรื่องมาที่กระทรวงยุติธรรม ซึ่งรมว.ยุติธรรม มีหน้าที่ให้ความเห็นตามที่มีการซักถามมา แต่นั่นไม่ใช่ที่สุด เพราะทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย

**"แม้ว"หงุดหงิดที่ถูกบิดเบือน
ส่วนหากกลุ่มคนเสื้อน้ำเงิน ออกมาขัดขวางการยื่นถวายฎีกาในวันที่ 17 ส.ค. สามารถทำได้หรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า คนเสื้อน้ำเงินต้องเข้าใจคนที่ยื่นถวายฎีกาด้วยว่า ทุกคนจงรักภักดี และต้องการที่จะพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ดังนั้นใครที่ขัดขวางก็เท่ากับว่า ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งหากคนกลุ่มนี้มีความจงรักภักดีจริง ก็คงจะไม่ทำเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณในเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจไม่สบายใจที่กำลังถูกบิดเบือนข้อเท็จจริง

**อ้างพระราชกฤษฎีกาฯร.6 ยกเลิกแล้ว
ด้านนายพิชิต ชื่นบาน อดีตทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีที่ดินรัชดา ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เพื่อตอบโต้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัญฑิต และเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า โดยมีเนื้อหาเน้นถึงประเด็นปัญหาพระราชกฤษฎีกาวางระเบียบทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ซึ่งตราขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2457 ซึ่งนายบวรศักดิ์ ระบุว่ายังมีผลบังคับอยู่ในปัจจุบัน โดยนายพิชิตได้ยกวิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิตของ น.ส.เพ็ญจันทร์ โชติบาล เรื่องพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษของพระมหากษัตริย์ไทย ภาควิชานิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พ.ศ. 2533 มายืนยันว่า พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปแล้ว หลังประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 3 และบัญญัติถึงหลักเกณฑ์และวิธีการขอพระราชทานอภัยโทษเสียใหม่ ในภาค 7 ว่าด้วยการอภัยโทษ เปลี่ยนโทษหนักเป็นเบาและลดโทษ ตั้งแต่มาตรา 259 -267

*******ส่วนนี้ตัดทิ้งได้
**"แม้ว"ชวนคนไทยถวายพระพร
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้เซ็นสัญญาร่วมทำเหมืองทอง และเหมืองเพชร กับประเทศแถบแอฟริกาไปแล้ว ล่าสุดยังได้ร่วมกับรัฐบาลประเทศยูกันดา จัดทำหวยล็อตโต เพื่อนำรายได้มาสนับสนุนการศึกษาให้กับเด็กไทย โดยจะมีการส่งนักเรียนจากยูกันดา มาศึกษาในประเทศไทย และจะนำรายได้บางส่วนไปส่งเสริมกีฬาฟุตบอลในประเทศยูกันดาด้วย
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังได้น้อมนำพระราชดำริ เกษตรทฤษฎีใหม่ไปเผยแพร่ในประเทศยูกันดาด้วย ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ จะยังเดินหน้าลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติต่อไป เนื่องจากประเทศแถบแอฟริกามีอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคมนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะแสดงออกถึงความจงรักภักดี เทิดทูนสมเด็จพระนางเจ้าฯ ผ่านทางเว็บไซต์ และทางสถานีโทรทัศน์ พีเพิลแชนแนลด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.ในเว็บไซต์ twitter.com พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เขียนข้อความเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันถวายพระพร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีใจความว่า "ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคมนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมกันถวายพระพรชัยมงคล แด่พระองค์ท่านครับ"
กำลังโหลดความคิดเห็น