xs
xsm
sm
md
lg

แฉ"แม้ว"รอออกโรงปิดเกม เบรกแดงยื่นฎีกาดึงเรตติ้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “อภิสิทธิ์” สวนเบี่ยงประเด็นรัฐบาลขวางเสื้อแดงถวายฎีกาฯ เบรกนักการเมืองต้องรู้หน้าที่รู้เรื่องใดควรไม่ควร แฉแผนแย่งพื้นที่ข่าวสร้างประเด็นรายวันสุดท้าย นช.แม้วออกโรงยุติยื่นฎีกาฯ ดึงเรตติ้งชนสถาบัน ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศพร้อมใจลงชื่อค้านที่ศาลากลางจังหวัด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าววานนี้ (3 ส.ค.) ถึงการที่ กลุ่มเสื้อแดงประกาศเดินหน้ายื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และจะมีการชุมนุมใหญ่อีกครั้งว่า ได้ย้ำไปแล้วว่าถ้าไม่ผิดกฎหมาย ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่เมื่อยื่นฎีกาเข้ามาแล้วหน่วยงานต่างๆ จะมีบทบาทในการกลั่นกรองตรวจสอบ ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องชี้แจงกับประชาชน สำหรับนักการเมืองที่สนับสนุนการถวายฎีกา ก็ควรรู้ว่าอะไรควร หรือไม่ควร ซึ่งได้พยายามพูดหลายครั้ง รวมทั้งในสภาฯ ด้วยว่า ขอให้การเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นไปด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้กระทบกับสถาบันหลักของชาติและคนที่จะได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวก็ควรจะหยุด

ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ หยิบยกประเด็นนี้ไปปลุกระดมประชาชนนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในที่สุดก็ฟ้องออกมาว่าทั้งหมดเคลื่อนไหวเพื่ออะไร และที่บอกว่าให้ตัดไฟแต่ต้นลม ต้องถามว่าหมายถึงอะไร หากเป็นการไปท้าทาย หรือยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงมากกว่านี้ก็ไม่เป็นผลดีกับใคร แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องให้อยู่ในกรอบ และไม่ใช่ว่ารัฐบาลเฝ้าระวังเพียงอย่างเดียว มีหลายอย่างที่ได้ทำ คือชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การอธิบายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะต้องยอมรับว่าคนที่เข้าใจเรื่องแบบนี้มีไม่มาก

“ผมไม่คิดว่าเรื่องการถวายฎีกาจะมีอะไรมากระทบจนทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ขณะนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจแล้วว่าการยื่นที่ทำกันอยู่ ไม่ได้เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย ไม่เป็นไปตามโบราณราชประเพณี น่าจะกระทบกระเทือน ดังนั้นก็น่าจะหยุดกัน”

**มาร์คยันต้องตรวจสอบรายชื่อถวายฎีกา

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะกลายเป็นชนวนที่ทำให้เกิดความรุนแรงอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องระมัดระวังและเราต้องให้ข้อเท็จจริงไปว่า มีความพยายาม บิดเบือนว่ารัฐบาลขัดขวางเรื่องดังกล่าว ทั้งที่รัฐบาลเพียงแต่ให้ข้อเท็จจริง ดังนั้นใครที่ทำอะไรไม่ถูกต้อง จะต้องรับผิดชอบ เพราะถ้ายื่นไปจะต้องมีการตรวจสอบว่า ลายมือชื่อถูกต้องจริงหรือไม่ ผู้ที่ลงชื่อเข้าใจตามที่ยื่นหนังสือมาหรือไม่ แกนนำที่มายื่น ต้องรับผิดชอบเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสิ่งที่ทำอยู่ยังไม่เพียงพอ ต้องติดตามการเคลื่อนไหวต่อ และจะดำเนินการตามความเคลื่อนไหวที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งต้องขึ้นอยู่บนความพอดี และระมัดระวัง เพราะมีคนที่จ้องว่า ถ้าดำเนินการอะไรไม่พอดี จะหยิบมาเป็นเงื่อนไขที่จะย้อนมาเป็นปัญหา

ส่วนกรณีที่กระทรวงมหาดไทยตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาถอนรายชื่อถวายฎีกานั้นนายก รัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ทราบรายละเอียด เป็นเรื่องที่ทางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดไปดำเนินการ แต่ตนคิดว่าควรจะทำในเรื่องตรวจสอบจะดีกว่า นอกจากจะมีประชาชนที่ทราบข้อเท็จจริงแล้วไม่ประสงค์จะให้ชื่อของตัวเองอยู่ ในรายชื่อการถวายฎีกา ก็มาแจ้งความจำนงได้ สิ่งสำคัญต่อไปคือการตรวจสอบมากกว่า เพราะตนเชื่อว่า คนจำนวนมากอาจไม่ทราบด้วยซ้ำว่าไปลงชื่อด้วยเรื่องอะไร และขณะนี้ยังไม่ทราบว่า มีตัวเลขคนลงชื่อเท่าไหร่ และที่บอกว่ามี 4-5 ล้าน รายชื่อก็ไม่รู้ว่านับจากอะไร รวมทั้งยังไม่ทราบว่าจะยื่นเมื่อใด และกว่าที่เรื่องมาถึงรัฐบาล ต้องผ่านสำนักราชเลขาธิการสำนักพระราชวังก่อน

**มท.1ไม่สน พ.ท.จะยื่นถอดถอนพ้นเก้าอี้

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่าไม่ห่วงที่พรรคเพื่อไทยจะทำเรื่องยื่นถอดถอนตนที่สั่งหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทยตั้งโต๊ะให้ประชาชนถอนชื่อจากการถวายฎีกาฯ แต่เห็นมายื่นแล้วและเผาหุ่นของตนด้วย ซึ่งก็ไม่ไดักังวล เพราะเป็นนโยบายของตนที่สั่งให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดตั้งโต๊ะให้บริการประชาชน ส่วนประชาชนจะถอนรายชื่อมากน้อยเพียงใดต้องไปถามกระทรวงมหาดไทย ตนไม่มีหน้าที่ปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ตรวจสอบกฎหมายหรือไม่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า เป็นการให้บริการประชาชนเพราะกระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการกดดันประชาชนเพราะทุกคนมีเอกสิทธิ์ของตัวเอง และตอนนี้ก็มีรายงานมาเรื่อยๆ และต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเป็นเดือนและประชาชนจะรับความเห็นเรื่องนี้จากไประชาชนไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้เมื่อเวลา 09.00 น. มีประชาชนสวมเสื้อดำประมาณ 100 คน ได้มาชุมนุมที่หน้ากระทรวงมหาดไทย ปราศรัยโจมตีนายชวรัตน์ และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ที่คัดค้านการถวายฎีกาฯดังกล่าว ของกลุ่มคนเสื้อแดง และสั่งตั้งโต๊ะบริการประชาชนที่ต้องการถอนชื่อในฎีกา และมีการเผาหุ่น นายชวรัตน์ จากนั้นกลุ่มดังกล่าวได้เดินทางไปหน้าทำเนียบรัฐบาล กล่าวโจมตีรัฐบาลโดยอ้างว่าขัดขวางการถวายฎีกา และกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

**ภท.ยันมท.ตั้งโต๊ะเพราะ ปชช.ถูกล่อลวง

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทย จะฟ้องกระทรวงมหาดไทย และพรรคภูมิใจไทย ที่ตั้งโต๊ะค้านการถวายฎีกาฯ ว่า การดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ในทาง ตรงข้ามเป็นการช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากที่ได้ลงชื่อเพราะถูกล่อลวง ไม่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และล่อลวงในลักษณะไม่ชอบด้วยกฎหมายในการขอทูลเกลาฯ ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงหาช่องทางช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชน และยืนยันว่า การดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย

การดำเนินการของคนเสื้อแดง ประชาชนจำนวนมากลงชื่อไปโดยไม่รู้ และกลุ่มคนเสื้อแดงจะนำรายชื่อผสมผสานจากกลุ่มที่เต็มใจลงชื่อ และกลุ่มที่ถูกล่อลวงไปขึ้นกราบถวายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถือว่าเรื่องเหล่านี้ เป็นความบังควรหรือไม่

นอกจากหลักการกระทำมิบังควรแล้วและอยากจะถามนาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงว่า วันนี้ที่ได้ตัวเลข 3 ล้าน 6 ล้าน กล้ารับประกัน หรือกล้าสาบานได้หรือไม่ว่ารายชื่อทั้งหมดนี้เป็นรายชื่อของบุคคลที่มีความเต็มใจ ไม่มีการถูกล่อลวง หรือไม่มีการปลอมกัน รายชื่อที่มีการอ้างกันมานั้นทำกันเองทั้งนั้นไม่มีการทำต่อหน้านายจตุพร ฉะนั้นนาย จตุพร จึงไม่ควรออกมาพูด และการที่กระทรวงมหาดไทยทำเช่นนี้เพื่อเป็นการเดินหน้าดำเนินการแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

**ซัดทักษิณคนเดียวทำแตกแยก

นายศุภชัย กล่าวว่า การดำเนินการล่อชื่อถวายฎีกาฯ ถือว่าเป็นการสร้างความแตกแยกเพราะไม่ใช่เรื่องความทุกข์ร้อนของประชาชนแล้วทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาฯ แต่ประเด็นนี้กำลังจะบอกว่า การตัดสินตามคำพิพากษาของศาลโดยพระปรมารภิไธย ของพระมหากษัตริย์ ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนกลุ่มนี้ นี่คือการทำลายกระบวนการประชาธิปไตยและอำนาจอธิปไตยของประชาชน

“ผมยังยืนยันว่า มีประชากร 65 ล้านคน ลงชื่อไปแค่ 5 ล้านคน แต่ประชาชน 60 ล้านคนยังไม่เห็นด้วยไม่งั้นก็ลงกัน 65 ล้านคนแล้ว คนที่เคยเลือกตั้งพรรคไทยรักไทยตั้ง 16 ล้านคน วันนี้ลงชื่อเพียง 5 ล้าน แปลว่าอีก 11 ล้านเขาคงไม่เอากับคุณแล้วควรจะทบทวนตัวเองและยุติการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะในที่สุดแล้วเป็นการเอาประชาชนสร้างความกดดันพระเจ้าอยู่หัวซึ่งเป็นการไม่บังควร ง่ายที่สุดคือคนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร บอกให้หยุดเสียทุกอย่างก็จบ การสร้างความวุ่นวาย สร้างความแตกแยกมาจากคนชื่อ ทักษิณ คนเดียว รัฐบาลมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนโดยการหาช่องทางแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่ถูกล่อลวงเท่านั้น

**เชื่อไม่ได้มีเป้าหมายแท้จริงถวายฎีกา

นายศุภชัย กล่าวว่า ในเอกสารที่มีโลโก้ด้านล่าง Truth Today และมีรูป 3 เกลออยู่ ดูแล้วเป็นเอกสารที่ไม่มีความเหมาะสมเลย เป็นเรื่องที่น่าตำหนิอย่างมาก ตนได้ลงพื้นที่จ.ขอนแก่นเมื่อเสาร์ - อาทิตย์ ที่ผ่านมา พบปะชาวบ้านทราบว่า ไม่รู้ว่ามีเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แปลว่าทางกลุ่มเสื้อแดงไม่ได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เพียงแต่บอกในบรรทัดสุดท้ายว่า ได้พิจารณาแล้วและได้ลงชื่อด้วยความเต็มใจ

“มันไม่พอ เพราะไม่ใช่เรื่องสัญญาที่มีการลงรายมือชื่อแล้วมีพยาน 2 คน เป็นอันชอบด้วยกฎหมาย มันไม่ใช่ จริงๆ แล้ว ทักษิณคนเดียวลงชื่อก็พอไม่จำเป็นต้องเอา 6 ล้านคนหรอก ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการชี้แจงประชาชน”

ส่วนที่คนในครอบครัวชินวัตร ไม่ร่วมลงชื่อในฎีกาด้วยนั้น นายศุภชัย กล่าวว่า เหตุผลคือเป็นเรื่องไม่ได้มีเป้าหมายอย่างแท้จริงในการขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะอย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีอีกหลายคดีกว่าจะจบมีอีกประมาณ 10 คดี ฉะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวเจตนารู้ดีว่าไม่ได้ต้องการขอพระราชทานอภัยโทษ แต่กำลังจะใช้ประชาชนจำนวนมากในการกดดันก่อให้เกิดความวุ่นวาย

**กองทัพเพิ่งตื่นสั่งกำลังพลแจงฎีกา

พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม สั่งให้เหล่าทัพเร่งทำความเข้าใจกับกำลังพลและประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงล่ารายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ และความสามัคคีของคนในชาติ

พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ในการประชุมหน่วยขึ้นตรง กองทัพบก(นขต.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.แสดงความเป็นห่วง การล่ารายชื่อถวายฎีกาโดยสั่งให้ผู้บังคับหน่วยทุกระดับชั้นไปชี้แจงให้ความรู้กับกำลังพลและครอบครัว เพื่อให้เข้าใจถึงขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายในการยื่นถวายฎีกา และความเหมาะสมในการดำเนินการ

ทั้งนี้ กองทัพบกเข้าใจดีว่าประชาชนมีความคิดเห็นแตกต่างบนพื้นฐาน ความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งกองทัพบกห่วงว่าเรื่องนี้อาจทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในสังคม จึงพยายามสร้างความเข้าใจขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยคำนึงความรู้สึกของประชาชนทุกฝ่าย และเมื่อเข้าใจประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสังคมส่วนรวม โดยก่อนการประชุมกรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้เชิญนักกฎหมายและเชี่ยวชาญมาชี้แจงในที่ประชุมถึงขั้นตอนการถวายฎีกา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบ.ทบ.ไม่ได้ห้ามกำลังพลไปร่วมลงชื้อถวายฎีกาใช่หรือไม่ พ.อ.(หญิง) ศิริจันทร์ กล่าวว่า ไม่มีคำว่า ห้ามออกจากปาก ผบ.ทบ. แต่ขอให้ไปทำความเข้าใจในเรื่องตัวบทกฎหมายและข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งการตัดสินใจจะเป็นอย่างไรเป็นสิทธิ์ที่ประชาชนและกำลังพล สามารถดำเนินการได้ แต่ขอให้คำนึงถึงความแตกต่าง ความไม่สงบจะเกิดขึ้นหรือไม่ หากเกิดขึ้นแล้วคนที่ตัดสินใจไปจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ หรือเห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมือง

ส่วนผบ.ทบ.ห่วงหรือไม่เพราะเรื่องนี้อาจกระทบต่อสถาบันในอนาคต รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ผบ.ทบ.มีความเป็นห่วงเพราะอะไรก็ตามที่จะทำให้เกิดความสับสนในสังคมแต่ต้องตระหนักด้วยว่าบางเรื่องเป็นเรื่องของการตัดสินใจด้วยความรู้สึกนึกคิด เป็นสิทธิ์สามารถทำได้ เพราะไม่มีอะไรที่บ่งชี้ว่า ควรจะต้องทำตามในเรื่องที่ผบ.ทบ.สั่งการ

**ปูดแค่เกมให้ นช.แม้วเป็นฮีโร่

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ทราบจากหน่วยข่าวกรองยืนยันว่าตัวเลขรายชื่อถวายฎีกาฯ มีไม่ถึงล้านชื่อ แสดงว่าประชาชนทราบแล้วว่ากลุ่มคนเสื้อแดงก่อสถานการณ์ปั่นป่วนจึงไม่ร่วมลงชื่อ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่ามีชื่อแล้ว 5 ล้านชื่อ เป็นเพียงการประชาสัมพันธ์เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง จะเห็นได้จากการเลื่อนวันที่จะถวายฎีกา ที่เดิมบอกจะเป็นวันที่ 31 ก.ค. ก็เลื่อนไปเป็นวันที่ 7 ส.ค. ล่าสุดก็เลื่อนไปเป็นวันที่ 17 ส.ค. เป็นแค่กลยุทธ์เพื่อช่วงชิงพื้นที่ข่าว และทำให้การเมืองไม่นิ่ง ให้รัฐบาลปกครองประเทศไม่ได้

“แผนสุดท้ายของคนกลุ่มนี้คือ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นฮีโร่ ออกมาพูดให้ตัวเองเป็นคนดีและขอร้องไม่ให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อแล้วเก็บ 5 ล้านรายชื่อไว้กับตัวเอง โดยจะขอเป็นผู้เสียสละเนื่องจากเห็นแก่ในหลวง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ เป็นการยิงนกตัวเดียวได้หลายนัดคือ 1.สถาบันพระมหากษัตริย์สั่นคลอน 2.สร้างกระแสในพรรคการเมืองของตัวเองที่เป็นเจ้าของให้ประชาชนนิยมมากขึ้น”

**เสื้อแดงเลื่อนอีกถวายฎีกา 17 ส.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้แต่งชุดดำ โดยระบุว่าเพื่อไว้อาลัยแก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเนื่องในวันเกิดครบรอบ 44 ปี เพื่อแถลงถึงการทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบซึ่งมีประชาชน 5 ล้านร่วมลงชื่อในฎีกา คาดจะเสร็จในวันที่ 15 หรือ 16 ส.ค. จากนั้นจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 17 ส.ค. โดยมีการจัดเป็นขบวน มีพานรองรับฎีกาขนาดใหญ่ ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น สามารถรองรับได้เป็นแสนรายชื่อ ส่วนที่เหลือ จะใช้คนลำเลียง ไม่น้อยกว่า 1 พันคน ในวันถวายฎีกา จะไม่มีการชุมนุมใหญ่ ผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรม ก็เป็นเรื่องต่างจิตต่างใจ

ส่วนกรณีที่รัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย โต้แย้งการถวายฎีกา พวกเราก็พร้อมที่จะ แถลงให้ฟังในทุกประเด็น และจะไม่ยอมให้คนพวกนี้ใช้อำนาจรัฐ กีดกันในการถวายฎีกาต่อพระประมุข ยืนยันในสิทธิการถวายฎีกาว่า สามารถทำได้ รวมทั้ง ยอดคนที่เข้าชื่อ เป็นไปตามจำนวนดังกล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์จะตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่ลงชื่อถวายฎีกานั้นเหมือนเป็นการข่มขู่ประชาชน นายอภิสิทธิ์ควรทำหน้าที่นายกฯ ไปตรวจสอบคนใกล้ชิดตัวเองที่ไปแทรกแซง ใช้นามบัตร โยกย้าย โผข้าราชการตำรวจ อย่างนี้ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญชัดเจน และเร็วๆ นี้ จะมีคนไปตรวจสอบ โดยจะยื่นไปที่ ป.ป.ช. และ กกต. รวมทั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีนาย ชวรัตน์ ชาญวีระกุล ถือหุ้น สัมปทานของรัฐ และกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีระกูล ถือหุ้น บ.ชิโนทัยแล้ว ได้สัมปทาน รถไฟฟ้า สายสีม่วง อย่างนี่ผิดกฎหมายมาตรา 267 ตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่

**ศรีสะเกษนับพันลงชื่อค้านถวายฎีกา

วันเดียวกันที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ที่ว่าการ อ.เมืองศรีสะเกษ มีบรรดาข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพ่อค้า ประชาชนจากทุกชุมชนหมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กว่า 1,000 คน มีนายสมาน หนองม่วง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เมืองศรีสะเกษ เป็นแกนนำ พากันมาลงชื่อคัดค้าน การล่ารายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณโดยมีนายวิศว ศะศิสมิตร รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ มาพบปะทักทายและอำนวยความสะดวกให้

นายสมาน กล่าวว่า พวกเราเห็นว่าขณะนี้ประเทศชาติได้รับความบอบช้ำมามาก แล้วจนเกิดความแตกแยกในแผ่นดิน และไม่อยากนำเอาปัญหาการเมืองไปถวายฎีกา ซึ่งจะทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ที่สำคัญทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ของบ้านเมืองที่คนทำผิดต้องได้รับโทษ โดยไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นเศรษฐี หรือคนยากจน กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำผิดตามกฎหมายศาลได้พิพากษาแล้ว ต้องมารับโทษกรรมตามกฎหมาย ไม่ใช่การใช้พลังมวลชนมาเป็นเครื่องมือกดดันในลักษณะของการให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย

ด้านนายวิศว กล่าวว่าการล่าชื่อเพื่อถวายฎีกา เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทุกภาคส่วนแม้แต่องคมนตรีก็ยังออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะมีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายดังกล่าว เพราะการขอพระราชทานอภัยโทษนั้นผู้ขอพระราชทานอภัยโทษต้องได้รับโทษแล้วจึงจะมีการเสนอขอพระราชทานอภัยโทษ

**ผู้ว่าฯ อุดรนำทีมร่วมลงชื่อคัดค้าน

ส่วนที่ลานหน้าศาลากลางจ.อุดรธานี ได้มีการตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาตั้งแต่เวลา 09.00 น.ซึ่งวันแรกของการเปิดลงรายชื่อคัดค้าน นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าฯ อุดรธานี ได้นำข้าราชการและประชาชนมาร่วมลงชื่อจำนวนมาก จากนั้นได้มีประชาชนที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินมาลงชื่อ คัดค้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านแล้วกว่า 1,000 คน ในจำนวนนี้ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภาราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้เดินทางมาลงนามด้วย

ขณะที่สถานีวิทยุชุมชน 97.50 ซึ่งเป็นสถานีวิทยุของคนเสื้อแดง ผู้ดำเนินรายการได้ประกาศผ่านทางสถานีว่า อย่าได้หลงเชื่อไปเข้าชื่อคัดค้านถวายฎีกา พร้อมเปิดสายให้คนเสื้อแดงได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงนามคัดค้านถวายฎีกาครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง

**อัดรัฐบาล-มท.ทำงานช้าเกินไป

นายธนะโผน ยศพล กำนันตำบลลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า จ.มหาสารคาม ยังไม่มีหน่วยงานใดลงพื้นที่ให้ความรู้เรื่องการถอนชื่อถวายฎีกา แก่ประชาชน ซึ่งตนมองกระทรวงมหาดไทยหรือรัฐบาลยังทำงานกันช้าเกินไป อีกฝ่ายเขาเดินหน้าไปถึงเส้นชัยแล้ว มหาดไทยเองเพิ่งจะสตาร์ทเริ่มต้น ตนในฐานะที่ผมเป็นแขนขาของรัฐบาล เห็นว่ารัฐไม่น่าจะเดินตามคนอื่นเขา น่าจะเดินก่อนเขา

“การทำงานของรัฐบาลค่อนข้างเฉื่อยและเชื่องช้าในการจัดการปัญหามาก มัวแต่เดินตามเขาอยู่ โดยเฉพาะการถอนฏีกานั้นยังไม่มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับใดออกมาให้ความรู้กับชาวบ้าน มีแต่เรื่องที่ให้แกนนำแต่ละหมู่บ้านละ 20 คน มาฟัง มาอบรมเรื่องปกป้องป้องสถาบันในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบเท่านั้น"

**บางละมุง-พัทลุงเคลื่อนไหวค้าน

ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี ประชาชนในเขตพื้นที่อ.บางละมุง ได้รวมตัวกันโดยใช้ชื่อว่า กลุ่มพสกนิกรอำเภอบางละมุง เพื่อแสดงจุดยืนการคัดค้านการถวายฎีกา โดยได้มีการตั้งโต๊ะลงรายชื่อที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอบางละมุง

ส่วนที่บริเวณหน้าศาลกลาง จ.พัทลุง นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าฯพัทลุง นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียนนักศึกษากว่า 500 คนร่วมลงนามรายชื่อคัดค้านการถวายฎีกาขออภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ของกลุ่มเสื้อแดงเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากประชาชนในจังหวัดดังกล่าวข้างต้นจะออกมาเคลื่อนไหวลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาแล้วประชาชนในอีกหลายจังหวัดก็ได้มีการออกมาร่วมลงชื่อคัดค้านเช่นเดียวกัน เช่นที่ จ.กาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นำข้าราชการและประชาชนราว 500 คนร่วมลงชื่อค้าน ที่ จ.บุรีรัมย์ นายมงคล สุระสัจจะ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กรสตรี และประชาชน ในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์ กว่า 2,000 คนมาร่วมลงชื่อคัดค้าน เป็นต้น

**ศาลอนุมัติหมายจับ 5 แดงเชียงใหม่

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติออกหมายจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ที่ก่อเหตุชุมนุมปิดล้อม สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ค.และชุมนุมปิดถนนบริเวณใกล้หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขับไล่ รมว.คลัง เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอในข้อหามั่วสุมเกินกว่า 10 คนปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย

โดยในกรณีปิดล้อมสถานีตำรวจนั้นมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 4 คนได้แก่นายอภิชาติ อินสอน, นายสมชาย คุณาจรัสกุล, นายศรายุทธ สุยะสัก และนายแจ็ค พัทยา (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ขณะที่กรณีชุมนุมปิดถนนขับไล่รัฐมนตรีนั้นมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 2 คนได้แก่นายอภิชาติ อินสอน และชายไม่ทราบชื่ออีก 1 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น