“เทพไท” ปัดปูดข่าว “แม้ว” โผล่มาเลย์ ไม่ใช่หวังกลบข่าว “กษิต” ตามที่ “นพเหล่” กล่าวหา จับพิรุณข้ออ้างแวะเติมน้ำมันฟังไม่ขึ้น เชื่อข้อมูลเป็นเรื่องจริง เผย “ทักษิณ” ขอพบนายกฯ มาเลย์ แต่ถูกปฏิเสธ พร้อมโชว์โปสเตอร์ “แม้ว” พร้อมข้อความบอกจะกลับบ้านเร็วๆ นี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายเทพไท เสนพงศ์
วันนี้ (8 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพักที่ประเทศมาเลเซีย ว่ากรณีนี้เป็นเรื่องของฝ่ายข่าวรัฐบาลมาเลเซียกับฝ่ายข่าวของรัฐบาลไทยได้ประสานงานกัน แต่จะเห็นได้ว่าเบื้องต้นมีการออกมาปฏิเสธจากลิ่วล้อของพ.ต.ท.ทักษิณ หาว่าเป็นเรื่องกุข่าว ทั้งนี้พรรคได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้ปรากฏชัดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ มาพักที่มาเลเซียจริง โดยใช้พาสปอร์ตของประเทศมอนเตรเนโกร และใช้ชื่อทักษิณ ชินวัตร และเมื่อมีการทราบข่าวเรื่องนี้ก็ได้ประสานมายังรัฐบาลไทย แต่อยู่ในช่วงปิดราชการของประเทศไทย จึงทำให้ออกหมายจับได้ในวันที่ 7 ก.ค. แต่การยื่นหมายจับไปยังประเทศมาเลเซียล่าช้าไปประมาณ 24 ชั่วโมง หลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกไปแล้ว
นายเทพไท กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ปรากฏชัดว่านายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากกหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมายอมรับแล้ว แต่เมื่อก่อนก็ไม่ยอมรับ เมื่อมีหลักฐานปรากฏชัดเจนจับได้ไล่ทันก็ออกมายอมรับเพียงครึ่งเดียว นั่นคือพ.ต.ท.ทักษิณ มากัวลาลัมเปอร์จริง แต่ปลายทางต้องการไปประเทศฟิจิ หากตนจะดูแผนที่การเดินทางไปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ไป ฟิจิ ถ้าหากจะบอกแวะเติมน้ำมัน ถ้าดูความพร้อมก็ต้องเป็นที่สิงคโปร์หรือ จากาตาร์แต่ พ.ต.ท.ทัษิณ เลือกที่จะใช้สนามบิน กัวลาลัมเปอร์ซึ่งเป็นสนามบินที่เล็กในภูมิภาคนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีความกล้าหาญจริงก็ควรแวะมาเติมที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้คนไทยได้บริการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของท่าน ทำให้มีข้อสงสัยว่าทำไมการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณต้องใช้เวลายาวนานถึง1คืนเต็มๆ ทำให้เจ้าของต้องพักค้างแรมที่โรงแรมแชงการีล่า ในเวลากลางคืน หรือหวังใช้ข้ออ้างเติมการน้ำมันเป็นเหตุผลบังหน้า แต่ที่จริงแล้วมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง
“ดังนั้นจากคำพูดของนายนพดล ถ้าดูตามเส้นทางการบินแล้ว ถ้าไม่ใช่คำพูดของคนที่สายตาไม่ปกติ หรือตาไม่สามัคคีแล้ว ก็อาจจะมองได้ว่าควรจะเดินเส้นทางนี้ เว้นคนสายตาที่ไม่สามัคคีกันจึงจะเลือกใช้สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งผมแปลกใจว่าก่อนหน้านี้ ที่พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศไหนผู้นำประเทศนั้นก็จะต้อนรับอย่างสมเกียรติ แต่ทำไมวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปพักที่กัวลาลัมเปอร์ จึงขอพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่เขาไม่ยินยอมให้พบเนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายศาลและหากแวะเติมน้ำมัน ทำไมต้องมีการพักค้างคืนด้วย”นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า การที่ระบุว่า รัฐบาลพยายามสร้างข่าวเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะกลบเกลื่อนความผิดพลาดในการบริหารกระทรวงการต่างประเทศนั้น ขอชี้แจงว่าไม่มีความจำเป็นเนื่องจากการทำงานของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศของไทยขณะนี้หากเทียบกับการทำงานของนายนพกล ที่ผ่านมาคิดว่าผลงานของนายกษิตดีกว่าหลายเท่า สิ่งที่นายนพดลสร้างวีระกรรมไว้ขณะที่ดำรงตำแหน่งด้วยการเซ็นต์สัญญากับยูเนสโกและกัมพูชาในเรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ต้องตามแก้ไขอยู่นั้นมีจำนวนมาก วันนี้นายยพดลยังไม่สำนึกในการกระทำความผิดพลาดในวันที่ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ยังออกมาเคลื่อนไหวบิดเบือนข้อเท็จจริงใส่ร้ายรัฐบาล โดยอ้างนายใหญ่ของตัวเองเป็นตัวเปิดประเด็น
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทมยและแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ประกาศว่าจะขับไล่รัฐบาลให้สำเร็จภายใน 4 เดือน ซึ่งตรงกันข้ามกับเจ้านายของตัวเองที่บอกว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่เกิน 3 เดือน ตนคิดว่าอาจจะเป็นการต่ออายุคำทำนายให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ทีละเดือนเกือบครบวาระอีก 2 ปีกว่า ซึ่งประเด็นที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่นายจตุพรพูดก็คือว่า มีการเปลี่ยนแปลงประเด็นการเรียกร้อง โดยบอกว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะขับไล่รัฐบาล โดยใช้ประเด็นของนายกษิตเป็นประเด็นเคลื่อนไหว ในการสร้างความชอบธรรมที่จะชุมนุมอีกต่อไป
นายเทพไท กล่าวว่า ข้อที่น่าสักเกตุก็คือว่า การเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้น ไม่มีการโค่นล้มกลุ่มอำมาตย์ซึ่งตนคิดว่าอาจจะไปสรุปบทเรียนแล้วไปคิดว่า ประชาชนรับไม่ได้เลยใช้ประเด็นนี้ขึ้นมาเคลื่อนไหวโดยแก้เกี้ยวไปบอกว่า ที่ยกเลิกเรื่องนี้ก้เพราะได้เรียกร้องให้องคมนตรีได้แสดงความรับผิดชอบไปแล้ว แต่ว่าทำไมยังมีประเด็นเรื่องการล้มล้างรัฐบาลซึ่งตนก็ไม่เข้าใจ ตนคิดว่าการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงวันนี้ก็คงจะไม่มีความชอบธรรมที่จะเปิดประเด็นเพื่อขับไล่รัฐบาล และสิ่งที่พยายามใส่ร้ายว่ารัฐบาลประสบความล้มเหลวในเรื่องของการแก้ไขปัญหาชาติ และปัญหาเศรษฐกิจ ตนก็ตั้งปัญหาว่าเพราะคนกลุ่มนี้เป็นอุปสรรคและเป็นคนกวนน้ำให้ขุ่น ขัดขวางการที่รัฐบาลจะเอาประเทศออกจากวิกฤติ
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงได้นำเอาโปสเตอร์ติดไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ที่บริเวณลาดพร้าวโชคชัย 4 ไปจนถึงบริเวณบางกะปิ ซึ่งมีข้อความว่า “ทักษิณจะกลับมา พบกับท่านเร็วๆนี้ ” แต่ล่าสุดนายณัฐวุฒิ ไสเกื้อ แกนนำคนเสื้อเดงออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่กลุ่มของตนเองทำ ไม่รู้ใครอาจจะไม่หวังดี ซึ่งตนก็แปลกใจว่าใครจะรักและเทิดทูล พ.ต.ท.ซทักษิณ ถึงขนาดลงทุนทำแผ่นโปสเตอร์ไปติด ซึ่งผลที่ได้ให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ตนเชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาแต่ไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหนหรือสถานะใด ก็อีกเรื่องหนึ่งแต่หวังว่าคงไม่เห็นภาพที่สวมชุดสูทแล้วเดินลงกราบแผ่นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะภาพนั้นอาจจะเห็นได้ยาก ตนคิดว่าอาจจะเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ใส่ชุดสีน้ำตาล กางเกงขาก๊วย อาจจะมีเครื่องพันธนาการ หรือโซ่ตรวนที่ข้อเท้า และมีรถวีไอพีที่มีการรักษาความปลอดภัยกรงขังแน่นหนา เพราะฉะนั้นตนคิดว่าเรื่องนี้คนที่ทำต้องรับผิดชอบ และคนกล้าทำก็ต้องกล้ารับผิดชอบ วันนี้ กลุ่ม นปช.มีการบอกว่ารวมกลุ่มคน 40 กลุ่ม แต่เวลาแต่ละกลุ่มทำอะไรลงไปก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบหรือเกี่ยวกัน แต่เวลาได้ความดีความชอบ ได้เงินมากลับแย่งกัน เพราะฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องตรงนี้
ส่วนกรณีที่ นายชินวัตร หาบุญพาด ประธานวิทยุชุมชนคนแท๊กซี่ยืนยันจะใช้อารยะขัดขืนจัดงานแซยิดครบรอบ60ปีให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่สนามหลวงแม้กทม.จะไม่อนุญาติก็ตามนั้น นายเทพไท กล่าวว่า หากจะใช้วิธีชุมนุมโดยใช้อารยะขัดขืน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหลุดพ้นจากการทำผิดกฎหมาย แม้จะชุมนุมโดยสงบแต่ก็ถือว่าผิดเพราะเจ้าของสถานที่ไม่อนุญาตให้ใช้ ถ้ากทม.แจ้งความก็สามารถดำเนินคดีได้เลย ขณะเดียวกัน กทม.และเทศกิจต้องป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายด้วย อย่างไรก็ตามหากมีการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเทศกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องจับตัวหัวโจกมาควบคุมตัว เพราะกฎหมายต้องเป็นกฎหมายแม้จะใช้การอารยะขัดขืนก็ตาม
"ผมฉุกคิดขึ้นมาว่าทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมาที่มาเลเซีย ทำให้คิดได้ถึงแผนตากสิน 2 โดยใช้ประเทศเพื่อนบ้านกดดัน รวมทั้งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย ยกเว้นอย่างเดียวคือในวันที่ 26ก.ค.ในการจัด ทักษิณาธิปดี ไม่มีในแผนนี้"
นายเทพไทกล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาอาศัยบริเวณรอบประเทศไทย เป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องบังคับใช้กฎหมาย หากมาโชว์หน้าโชว์ตาแล้วไม่มีมาตรการ เหมือนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะทำได้หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยืนยันว่าเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย โดยลืมปัญหาอื่นๆ
