“เทพไท” ยัน “นช.แม้ว” โผล่มาเลย์จริง เผยประสานงานช้าเลยอดรวบตัว จับพิรุธ “นพเหล่” แก้ตัวแทนนายใหญ่ อ้างแค่แวะเติมน้ำมันก่อนไปฟิจิ เย้ย “นช.แม้ว” ไม่เจียมกะลาหัว ดอดขอพบนายกฯ มาเลย์ แต่แห้ว ไม่มีใครอยากเสวนานักโทษหนีคุก ตอกกลับ “นพเหล่” เซ็นยกพระวิหารยังไม่สำนึก ยกตัวเองเทียบ “กษิต” ชี้ฝืมือยังห่างกันหลายขุม
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาพักที่ประเทศมาเลเซียว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของฝ่ายข่าวรัฐบาลมาเลเซียกับฝ่ายข่าวของรัฐบาลไทยได้ประสานงานกัน แต่จะเห็นได้ว่าเบื้องต้นมีการลิ่วล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาปฏิเสธหาว่าเป็นเรื่องกุข่าว ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้ปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาพักที่มาเลเซียจริง โดยใช้พาสปอร์ตของประเทศมอนเตเนโกร และใช้ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร โดยเรื่องดังกล่าวได้มีการประสานมายังรัฐบาลไทย แต่อยู่ในช่วงปิดราชการจึงทำให้สามารถออกหมายจับได้ในวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่กว่าจะยื่นหมายจับไปยังประเทศมาเลเซียก็ต้องใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
นายเทพไทกล่าวว่า เรื่องนี้ได้ปรากฏชัดว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากกหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมายอมรับเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะมีหลักฐานปรากฏชัดเจนยากที่จะปฏิเสธได้ แต่ก็แค่ออกมายอมรับเพียงแค่ครึ่งเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ มากัวลาลัมเปอร์จริง แต่เป็นเพียงแค่มาพักชั่วคราวเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศฟิจิ ซึ่งจากการที่ตนได้ดูแผนที่การเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปประเทศฟิจิ ถ้าหากจะบอกแวะเติมน้ำมัน ถ้าดูจากความพร้อมก็ต้องไปแวะที่สิงคโปร์ หรือจาการ์ตา แต่ พ.ต.ท.ทัษิณ เลือกที่จะใช้สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็กในภูมิภาคนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีความกล้าจริงก็ควรแวะมาเติมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้คนไทยได้บริการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของท่าน ดังนั้น ตนจึงเกิดความสงสัยว่าทำไมการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้เวลายาวนานถึง 1 คืนเต็ม ทำให้เจ้าของต้องพักค้างแรมที่โรงแรมแชงกรี-ลา หรือเป็นเพราะต้องการเอาเรื่องเติมน้ำมันมาอ้างบังหน้า ทั้งๆ ที่จริงแล้วมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง
“จากคำพูดของนายนพดล ถ้าดูตามเส้นทางการบินแล้ว ถ้าไม่ใช่คำพูดของคนที่สายตาไม่ปกติ หรือตาไม่สามัคคีแล้วก็อาจจะมองได้ว่าควรจะเดินเส้นทางนี้ เว้นแต่คนสายตาที่ไม่สามัคคีกันจึงจะเลือกใช้สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งผมแปลกใจว่าก่อนหน้านี้ที่พูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศไหน ผู้นำประเทศนั้นก็จะต้อนรับอย่างสมเกียรติ แต่ทำไมวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปพักที่กัวลาลัมเปอร์ และขอพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่เขาไม่ยินยอมให้พบ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายศาลและหากแวะเติมน้ำมัน ทำไมต้องมีการพักค้างคืนด้วย” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่ระบุว่ารัฐบาลพยายามสร้างข่าวเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะกลบเกลื่อนความผิดพลาดในการบริหารกระทรวงการต่างประเทศนั้น ขอชี้แจงว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับสมัยนายนพดลจะเห็นได้ว่า ผลงานของนายกษิตดีกว่าหลายเท่า แต่สิ่งที่นายนพดลสร้างวีรกรรมไว้ขณะที่ดำรงตำแหน่ง คือ เซ็นสัญญากับยูเนสโกและกัมพูชาในเรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ต้องตามแก้ปัญหาอยู่ในขณะนี้ แต่วันนี้นายนพดลยังไม่สำนึกในการกระทำความผิดเมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ มิหนำซ้ำยังออกมาเคลื่อนไหวบิดเบือนข้อเท็จจริงใส่ร้ายรัฐบาล โดยอ้างนายใหญ่ของตัวเองเป็นตัวเปิดประเด็น