พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี และอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า จะนัดชุมนุมใหญ่กดดันรัฐบาลในเดือนสิงหาคมนี้ และจะปิดเกมรัฐบาลภายใน 3 เดือน ว่า ถือเป็นเป้าหมายของเขา และประกาศมาตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสงสารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เช่นกัน ซึ่งปกติพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนฉลาด แต่ขณะนี้กำลังตกเป็นเครื่องมือ ถูกคนอื่นหลอกเอาเงิน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าความเป็นไปได้ต่ำมาก ที่ผ่านมาคนเหล่านั้นมีวิธีการต่างๆหลอกเอาเงินจากพ.ต.ท.ทักษิณ โดยอ้างมาใช้ในการเคลื่อนไหวชุมนุม
"ที่คนกลุ่มนี้หลอกพ.ต.ท.ทักษิณได้ผล เพราะตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เองเหมือนคนกำลังมีความทุกข์ ต้องการปลดตนเองออกจากเรื่องความผิด เขาเป็นคนฉลาด แต่ตอนนี้กำลังถูกกิเลสความทุกข์ครอบงำ ทำให้ถูกหลอกเอาเงินด้วยวิธีต่างๆ หากพิสูจน์ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้จ่ายเงินให้กับการชุมนุม ก็แสดงว่า คนเหล่านี้เขาบริสุทธิ์ใจ ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณจริง แต่หากเขาจ่ายเงินมาตลอดทุกครั้ง ก็ถือว่าเป็นคนที่น่าสงสาร ถูกหลอกเอาเงิน ทั้งที่ความเป็นไปได้ไม่มีเลย" พล.อ.สมเจตน์กล่าว
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ไม่มีส่วนสนับสนุนการยื่นถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เป็นการดำเนินการของประชาชนนั้น พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การพิจารณาขอนิรโทรกรรม ต้องดูพฤติกรรมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เขาจงรักภักดีจริงหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ และบริวารจากการชุมนุมที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เขาไม่จงรักภักดี มีพฤติกรรมที่จ้องทำร้ายสถาบันฯ มาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไม่สำนึกในความผิดที่ก่อ ดังนั้น การจะขอนิรโทษกรรม คงต้องดูที่พฤติกรรมของเขาด้วย ว่ามีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่
**ถวายฎีกาเป็นเรื่องการเมืองชัดๆ
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ชินวัตร ระบุว่ารัฐบาลไม่มีทางจับเขาได้ และอย่าเสียเวลาในการไล่ล่าตัวกลับประเทศว่า เป็นความคิดของเขา ที่ผ่านมาเขาก็พูดไปเรื่อย เรื่องนี้คงต้องติดตามดูว่าเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีความพยายามล่าชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นเรื่องทางการเมือง ตนในฐานะผู้นำเหล่าทัพ พูดไปจะไม่ดี แต่หากมองดูก็ถือว่าไม่เหมาะสม ทั้งนี้ เป็นแนวความคิด และเป็นกระบวนการที่ดำเนินการทางการเมือง ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแล ซึ่งตนคิดว่ารมว.ยุติธรรม ต้องเข้ามาดูแล และชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ใช่ปล่อยเลยไป ทั้งนี้เพราะการยื่นถวายฎีกา ต้องผ่านความเห็นชอบของรมว.ยุติธรรมตามกฎหมาย
**เยัย"แม้ว"อาจกลับมาพร้อมโซ่ตรวน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมาพักที่ประเทศมาเลเซียว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของฝ่ายข่าวรัฐบาลมาเลเซียกับฝ่ายข่าวของรัฐบาลไทย ได้ประสานงานกันก็ปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาพักที่มาเลเซียจริง โดยใช้พาสปอร์ตของประเทศมอนเตเนโกร และใช้ชื่อทักษิณ ชินวัตร และเมื่อมีการทราบข่าวเรื่องนี้ ก็ได้ประสานมายังรัฐบาลไทย แต่อยู่ในช่วงปิดราชการของประเทศไทย จึงทำให้ออกหมายจับได้ในวันที่ 7 ก.ค. แต่การยื่นหมายจับไปยังประเทศมาเลเซีย ล่าช้าไปประมาณ 24 ชั่วโมง หลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกไปแล้ว
นายเทพไท กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ปรากฏชัดว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากกหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมายอมรับแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่ยอมรับ เมื่อมีหลักฐานปรากฏชัดเจน จับได้ไล่ทัน ก็ออกมายอมรับเพียงครึ่งเดียว นั่นคือ พ.ต.ท.ทักษิณ มากัวลาลัมเปอร์จริง แต่ปลายทางต้องการไปประเทศฟิจิ หากตนจะดูแผนที่การเดินทางไปของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ไป ฟิจิ ถ้าหากจะบอกแวะเติมน้ำมัน ถ้าดูความพร้อมก็ต้องเป็นที่สิงคโปร์ หรือจากาตาร์ แต่พ.ต.ท.ทัษิณ เลือกที่จะใช้สนามบิน กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นสนามบินที่เล็กในภูมิภาคนี้ หากพ.ต.ท.ทักษิณ มีความกล้าหาญจริง ก็ควรแวะมาเติมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้คนไทยได้บริการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของท่าน ทำให้มีข้อสงสัยว่า ทำไมการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้เวลายาวนานถึง 1 คืนเต็มๆ ทำให้เจ้าของต้องพักค้างแรมที่โรงแรมแชงการีล่า ในเวลากลางคืน หรือหวังใช้ข้ออ้างเติมการน้ำมัน เป็นเหตุผลบังหน้า แต่ที่จริงแล้วมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง
"ดังนั้นจากคำพูดของ นายนพดล ถ้าดูตามเส้นทางการบินแล้ว ถ้าไม่ใช่คำพูดของคนที่สายตาไม่ปกติ หรือตาไม่สามัคคีแล้ว ก็อาจจะมองได้ว่า ควรจะเดินเส้นทางนี้ เว้นคนสายตาที่ไม่สามัคคีกัน จึงจะเลือกใช้สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งผมแปลกใจว่า ก่อนหน้านี้ ที่พูดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศไหน ผู้นำประเทศนั้นก็จะต้อนรับอย่างสมเกียรติ แต่ทำไมวันที่พ.ต.ท.ทักษิณไปพักที่กัวลาลัมเปอร์ แล้วขอพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่เขาไม่ยินยอมให้พบ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายศาล และหากแวะเติมน้ำมัน ทำไมต้องมีการพักค้างคืนด้วย" นายเทพไทกล่าว
"ผมฉุกคิดขึ้นมาว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมาที่มาเลเซีย ทำให้คิดได้ถึงแผนตากสิน 2 โดยใช้ประเทศเพื่อนบ้านกดดัน รวมทั้งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย ยกเว้นอย่างเดียวคือ ในวันที่ 26 ก.ค.ในการจัด ทักษิณาธิบดี ไม่มีในแผนนี้"
นายเทพไท กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาอาศัยบริเวณรอบประเทศไทย เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ต้องบังคับใช้กฎหมาย หากมาโชว์หน้าโชว์ตาแล้วไม่มีมาตรการ เหมือนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะทำได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยืนยันว่าเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย จนลืมปัญหาอื่นๆ
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงได้นำเอาโปสเตอร์ติดไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ที่บริเวณลาดพร้าวโชคชัย 4 ไปจนถึงบริเวณบางกะปิ ซึ่งมีข้อความว่า “ทักษิณจะกลับมา พบกับท่านเร็วๆนี้ ” แต่ล่าสุดนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อเดง ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่กลุ่มของตนเองทำ ไม่รู้ใครอาจจะไม่หวังดี ซึ่งตนก็แปลกใจว่า ใครจะรักและเทิดทูน พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงขนาดลงทุนทำโปสเตอร์ไปติดอย่างนั้น
ทั้งนี้ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมา แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหนหรือสถานะใด ก็อีกเรื่องหนึ่งแต่หวังว่าคงไม่เห็นภาพที่สวมชุดสูท แล้วเดินลงกราบแผ่นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิอีก เพราะภาพนั้นอาจจะเห็นได้ยาก ตนคิดว่าอาจจะเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ใส่ชุดสีน้ำตาล กางเกงขาก๊วย อาจจะมีเครื่องพันธนาการ หรือโซ่ตรวน ที่ข้อเท้า และมีรถวีไอพี ที่มีการรักษาความปลอดภัย กรงขังแน่นหนา เพราะฉะนั้นตนคิดว่า เรื่องนี้คนที่ทำต้องรับผิดชอบ และคนกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับผิดชอบ วันนี้ กลุ่มนปช. มีการบอกว่ารวมกลุ่มคน 40 กลุ่ม แต่เวลาแต่ละกลุ่มทำอะไรลงไป ก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบหรือเกี่ยวกัน แต่เวลาได้ความดีความชอบ ได้เงินมา กลับแย่งกัน เพราะฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องตรงนี้
"ที่คนกลุ่มนี้หลอกพ.ต.ท.ทักษิณได้ผล เพราะตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เองเหมือนคนกำลังมีความทุกข์ ต้องการปลดตนเองออกจากเรื่องความผิด เขาเป็นคนฉลาด แต่ตอนนี้กำลังถูกกิเลสความทุกข์ครอบงำ ทำให้ถูกหลอกเอาเงินด้วยวิธีต่างๆ หากพิสูจน์ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้จ่ายเงินให้กับการชุมนุม ก็แสดงว่า คนเหล่านี้เขาบริสุทธิ์ใจ ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณจริง แต่หากเขาจ่ายเงินมาตลอดทุกครั้ง ก็ถือว่าเป็นคนที่น่าสงสาร ถูกหลอกเอาเงิน ทั้งที่ความเป็นไปได้ไม่มีเลย" พล.อ.สมเจตน์กล่าว
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ไม่มีส่วนสนับสนุนการยื่นถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เป็นการดำเนินการของประชาชนนั้น พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การพิจารณาขอนิรโทรกรรม ต้องดูพฤติกรรมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เขาจงรักภักดีจริงหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ และบริวารจากการชุมนุมที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เขาไม่จงรักภักดี มีพฤติกรรมที่จ้องทำร้ายสถาบันฯ มาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไม่สำนึกในความผิดที่ก่อ ดังนั้น การจะขอนิรโทษกรรม คงต้องดูที่พฤติกรรมของเขาด้วย ว่ามีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่
**ถวายฎีกาเป็นเรื่องการเมืองชัดๆ
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ชินวัตร ระบุว่ารัฐบาลไม่มีทางจับเขาได้ และอย่าเสียเวลาในการไล่ล่าตัวกลับประเทศว่า เป็นความคิดของเขา ที่ผ่านมาเขาก็พูดไปเรื่อย เรื่องนี้คงต้องติดตามดูว่าเป็นอย่างไร
ส่วนกรณีที่มีความพยายามล่าชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นเรื่องทางการเมือง ตนในฐานะผู้นำเหล่าทัพ พูดไปจะไม่ดี แต่หากมองดูก็ถือว่าไม่เหมาะสม ทั้งนี้ เป็นแนวความคิด และเป็นกระบวนการที่ดำเนินการทางการเมือง ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแล ซึ่งตนคิดว่ารมว.ยุติธรรม ต้องเข้ามาดูแล และชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ไม่ใช่ปล่อยเลยไป ทั้งนี้เพราะการยื่นถวายฎีกา ต้องผ่านความเห็นชอบของรมว.ยุติธรรมตามกฎหมาย
**เยัย"แม้ว"อาจกลับมาพร้อมโซ่ตรวน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมาพักที่ประเทศมาเลเซียว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของฝ่ายข่าวรัฐบาลมาเลเซียกับฝ่ายข่าวของรัฐบาลไทย ได้ประสานงานกันก็ปรากฏชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาพักที่มาเลเซียจริง โดยใช้พาสปอร์ตของประเทศมอนเตเนโกร และใช้ชื่อทักษิณ ชินวัตร และเมื่อมีการทราบข่าวเรื่องนี้ ก็ได้ประสานมายังรัฐบาลไทย แต่อยู่ในช่วงปิดราชการของประเทศไทย จึงทำให้ออกหมายจับได้ในวันที่ 7 ก.ค. แต่การยื่นหมายจับไปยังประเทศมาเลเซีย ล่าช้าไปประมาณ 24 ชั่วโมง หลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางออกไปแล้ว
นายเทพไท กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ปรากฏชัดว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากกหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกมายอมรับแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่ยอมรับ เมื่อมีหลักฐานปรากฏชัดเจน จับได้ไล่ทัน ก็ออกมายอมรับเพียงครึ่งเดียว นั่นคือ พ.ต.ท.ทักษิณ มากัวลาลัมเปอร์จริง แต่ปลายทางต้องการไปประเทศฟิจิ หากตนจะดูแผนที่การเดินทางไปของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ไป ฟิจิ ถ้าหากจะบอกแวะเติมน้ำมัน ถ้าดูความพร้อมก็ต้องเป็นที่สิงคโปร์ หรือจากาตาร์ แต่พ.ต.ท.ทัษิณ เลือกที่จะใช้สนามบิน กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นสนามบินที่เล็กในภูมิภาคนี้ หากพ.ต.ท.ทักษิณ มีความกล้าหาญจริง ก็ควรแวะมาเติมที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้คนไทยได้บริการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของท่าน ทำให้มีข้อสงสัยว่า ทำไมการเติมน้ำมันเครื่องบินส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้เวลายาวนานถึง 1 คืนเต็มๆ ทำให้เจ้าของต้องพักค้างแรมที่โรงแรมแชงการีล่า ในเวลากลางคืน หรือหวังใช้ข้ออ้างเติมการน้ำมัน เป็นเหตุผลบังหน้า แต่ที่จริงแล้วมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง
"ดังนั้นจากคำพูดของ นายนพดล ถ้าดูตามเส้นทางการบินแล้ว ถ้าไม่ใช่คำพูดของคนที่สายตาไม่ปกติ หรือตาไม่สามัคคีแล้ว ก็อาจจะมองได้ว่า ควรจะเดินเส้นทางนี้ เว้นคนสายตาที่ไม่สามัคคีกัน จึงจะเลือกใช้สนามบินกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งผมแปลกใจว่า ก่อนหน้านี้ ที่พูดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศไหน ผู้นำประเทศนั้นก็จะต้อนรับอย่างสมเกียรติ แต่ทำไมวันที่พ.ต.ท.ทักษิณไปพักที่กัวลาลัมเปอร์ แล้วขอพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่เขาไม่ยินยอมให้พบ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาตามหมายศาล และหากแวะเติมน้ำมัน ทำไมต้องมีการพักค้างคืนด้วย" นายเทพไทกล่าว
"ผมฉุกคิดขึ้นมาว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมาที่มาเลเซีย ทำให้คิดได้ถึงแผนตากสิน 2 โดยใช้ประเทศเพื่อนบ้านกดดัน รวมทั้งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย ยกเว้นอย่างเดียวคือ ในวันที่ 26 ก.ค.ในการจัด ทักษิณาธิบดี ไม่มีในแผนนี้"
นายเทพไท กล่าวว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาอาศัยบริเวณรอบประเทศไทย เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ต้องบังคับใช้กฎหมาย หากมาโชว์หน้าโชว์ตาแล้วไม่มีมาตรการ เหมือนการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะทำได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยืนยันว่าเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย จนลืมปัญหาอื่นๆ
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคนเสื้อแดงได้นำเอาโปสเตอร์ติดไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ที่บริเวณลาดพร้าวโชคชัย 4 ไปจนถึงบริเวณบางกะปิ ซึ่งมีข้อความว่า “ทักษิณจะกลับมา พบกับท่านเร็วๆนี้ ” แต่ล่าสุดนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อเดง ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ใช่กลุ่มของตนเองทำ ไม่รู้ใครอาจจะไม่หวังดี ซึ่งตนก็แปลกใจว่า ใครจะรักและเทิดทูน พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงขนาดลงทุนทำโปสเตอร์ไปติดอย่างนั้น
ทั้งนี้ตนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมา แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหนหรือสถานะใด ก็อีกเรื่องหนึ่งแต่หวังว่าคงไม่เห็นภาพที่สวมชุดสูท แล้วเดินลงกราบแผ่นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิอีก เพราะภาพนั้นอาจจะเห็นได้ยาก ตนคิดว่าอาจจะเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ใส่ชุดสีน้ำตาล กางเกงขาก๊วย อาจจะมีเครื่องพันธนาการ หรือโซ่ตรวน ที่ข้อเท้า และมีรถวีไอพี ที่มีการรักษาความปลอดภัย กรงขังแน่นหนา เพราะฉะนั้นตนคิดว่า เรื่องนี้คนที่ทำต้องรับผิดชอบ และคนกล้าทำ ก็ต้องกล้ารับผิดชอบ วันนี้ กลุ่มนปช. มีการบอกว่ารวมกลุ่มคน 40 กลุ่ม แต่เวลาแต่ละกลุ่มทำอะไรลงไป ก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบหรือเกี่ยวกัน แต่เวลาได้ความดีความชอบ ได้เงินมา กลับแย่งกัน เพราะฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องตรงนี้