“ปลัดกลาโหม” อัดหางแดงถวายฎีกา อุ้ม “นช.แม้ว” ไม่เหมาะสม แนะ รมต.ยุติธรรม แจงคนไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ขณะที่ “พล.อ.สมเจตน์” เชื่อ “ทักษิณ” จ้องทำลายสถาบัน เย้ยเป็นคนน่าสงสาร ถูกลูกกระจ๊อกหลอกเอาเงินมาเคลื่อนไหว ชี้ โทษ “กษิต” ต้องดูเจตนา หากไม่มุ่งทำร้ายชาติ ไม่เข้าข่ายก่อการร้าย ผิดกับอีกฝ่ายที่ดีแต่มุ่งทำลายบ้านเมือง
วันนี้ (8 ก.ค.) พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลไม่มีทางจับเขาได้ และอย่าเสียเวลาในการไล่ล่าตัวกลับประเทศไทย ว่า เป็นความคิดของเขา ที่ผ่านมา เขาก็พูดไปเรื่อย เรื่องนี้คงต้องติดตามดูว่าเป็นอย่างไร ส่วนกรณีที่มีความพยายามยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เป็นเรื่องทางการเมือง ตนในฐานะผู้นำเหล่าทัพ พูดอะไรไปจะไม่ดี แต่หากมองก็ถือว่าไม่น่าจะเหมาะสม ทั้งนี้ เป็นแนวความคิดและเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินการทางการเมือง ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแล ซึ่งตนคิดว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้ พร้อมทั้งควรชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่ปล่อยเลยไป โดยทางกระทรวงยุติธรรมต้องเข้ามาดูแล เพราะการยื่นถวายฎีกาต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตามกฎหมาย
เมื่อถามกรณีการตั้งข้อกล่าวหากับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เข้าข่ายเป็นผู้ก่อการร้ายจากการยึดสนามบินสุวรรณภูมิหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่ตำรวจได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนจะเป็นการเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น เชื่อว่าตำรวจคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และดูตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เชื่อว่า คงไม่กระทบการทำงานของรัฐบาล
ด้าน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี และอดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า จะนัดชุมนุมใหญ่กดดันรัฐบาลในเดือนสิงหาคมนี้ และจะปิดเกมรัฐบาลภายใน 3 เดือน ว่า ถือเป็นเป้าหมายของเขา และประกาศออกมาตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสงสาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะปกติ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนฉลาด แต่ขณะนี้เขากำลังตกเป็นเครื่องมือถูกคนอื่นหลอกเอาเงิน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าความเป็นไปได้ต่ำมาก เนื่องจากที่ผ่านมาคนเหล่านั้นมีวิธีการหลอกเอาเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ สารพัด โดยอ้างว่าเอาเงินไปใช้เคลื่อนไหวจัดการชุมนุม
“ที่คนกลุ่มนี้หลอก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ผล เพราะตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็เหมือนคนกำลังมีความทุกข์ ต้องการปลดตนเองออกจากเรื่องความผิด เขาเป็นคนฉลาด แต่ตอนนี้กำลังถูกกิเลสและความทุกข์ครอบงำ ทำให้ถูกหลอกเอาเงินด้วยวิธีต่างๆ หากพิสูจน์ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้จ่ายเงินให้กับการชุมนุมก็แสดงว่าคนเหล่านี้เขาบริสุทธิ์ใจ และทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จริง แต่หากเขาจ่ายเงินทุกครั้งมาตลอด ก็ถือว่าเป็นคนที่น่าสงสารถูกหลอกเอาเงินทั้งที่ความเป็นไปได้ไม่มี” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ไม่มีส่วนสนับสนุนการยื่นถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษ โดยเป็นการดำเนินการของประชาชน พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า การพิจารณาขอนิรโทษกรรมต้องดูพฤติกรรมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เขาจงรักภักดีจริงหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวารจากการชุมนุมที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเขาไม่จงรักภักดี รวมทั้งมีพฤติกรรมจ้องทำร้ายสถาบันมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังไม่สำนึกในความผิดที่ก่อไว้ ดังนั้น การจะขอนิรโทษกรรมคงต้องดูพฤติกรรมของเขาว่ามีวัตถุประสงค์อะไร
เมื่อถามถึงกรณีที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า เข้าข่ายเป็นผู้ก่อการร้ายจากการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ตามหลักกระบวนการของกฎหมายต้องดูพฤติกรรม จุดมุ่งหมาย และวัตถุประสงค์ว่าเป็นขบวนการก่อการร้ายหรือไม่ ซึ่งผู้ก่อการร้ายต้องเป็นการกระทำที่มุ่งทำร้ายชาติทำลายประเทศอย่างยิ่งใหญ่ แต่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ผ่านมา อาจมีเลยเถิดไปบ้าง แต่ต้องดูด้วยว่าเขามีวัตถุประสงค์ มีพฤติกรรมจ้องทำร้ายชาติบ้านเมืองหรือไม่ ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายประเทศชาติ และแตกต่างจากการชุมนุมของอีกฝ่ายที่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายบ้านเมืองอย่างเห็นได้ชัด