นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการยืนยันข้อมูลจากทางการประเทศมาเลเซียว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าประเทศจริง โดยใช้หนังสือเดินทางของประเทศมอนเตเนโกร และพักค้างคืนที่ประเทศมาเลเซียเป็นเวลา 1 คืน ก่อนเดินทางต่อไปที่ประเทศอื่น
อย่างไรก็ตาม สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งหมายจับไปยังประเทศมาเลเซียและออสเตรเลีย เพื่อขอให้จับตัวพ.ต.ท.ทักษิณทันทีที่พบ เนื่องจาก ทั้ง 2 ประเทศมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย ส่วนสาเหตุที่ต้องส่งหมายจับไปที่ประเทศออสเตรเลียแทนที่จะเป็นประเทศฟิจินั้น เพราะไทยไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศฟิจิ จึงต้องประสานผ่านประเทศออสเตรเลียอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ หลังจากอัยการสูงสุดได้ส่งหมายจับไปแล้ว ถ้าทั้ง 2 ประเทศเจอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถจับตัวได้ทันที โดยที่กระทรวงการต่างประเทศไม่จำเป็นต้องส่ง เจ้าหน้าที่ไปประสาน เพราะมีคนประจำอยู่ในแต่ละประเทศอยู่แล้ว.
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รมว.มหาดไทยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพักที่โรงแรมแชงกรี-ลา ประเทศมาเลเซีย และเตรียมประสานในการจับกุมแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไหวตัวทันหนีไปประเทศฟิจิก่อนเจ้าหน้าที่จะไปจับกุม ว่า สิ่งที่นายถาวรพูดไม่เป็นความจริง เพราะความจริงแล้วพ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดการจะเดินทางจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปประเทศฟิจิจะต้องแวะเติมน้ำมันก่อนโดยมีตัวเลือกอยู่ 2 ทางคือ แวะเติมน้ำมันที่กรุงเทพฯ หรือ กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิน แวะที่กัวลาลัมเปอร์ 1 คืน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่ประเทศฟิจิ และไม่มีการจับกุมใดๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ผู้ใหญ่ที่มาเลเซียขำกับการให้ข่าวของนายถาวร เพราะประเทศแต่ละประเทศคงไม่มีใครส่งเจ้าหน้าที่อีกประเทศหนึ่งไปจับกุมใครในประเทศนั้นๆ ได้เนื่องจากต้องมีการออกหมายจับและประสานกับประเทศนั้นๆด้วย
นายนพดล กล่าวว่า หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณออกจากเมเลเซียไปประเทศฟิจิแล้ว มีกำหนดเดินทางไปอีก 4 ประเทศแต่ไม่ขอเปิดเผย โดยแต่ละประเทศที่พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเยือนได้นัดรับประทานอาหารกับผู้นำของแต่ละประเทศและบางประเทศเป็นถึงระดับประมุขของรัฐ ซึ่งมีนัยยะอะไรก็ลองคิดดู ทั้งนี้ทุกประเทศให้การต้อนรับดูแล เป็นอย่างดี เพราะเข้าใจสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยและคดีของพ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นคดีทางการเมือง นอกจากนี้บางประเทศได้จัดทีมรักษาความปลอดภัยของผู้นำ และรถนำขบวนให้พ.ต.ท.ทักษิณด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะมีการจับกุมที่ประเทศมาเลเซีย และจะมีการปรับแผนการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่ทราบ เหมือนกรณีที่มีรายงานข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกหมายแดง มีชื่อติดในอินเตอร์โพล แต่ถึงวันนี้ก็ไม่มีการจับกุมอะไร และไม่มีปัญหาเรื่อง ความปลอดภัยแม้ว่าที่ผ่านมานายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศจะตามล่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อว่าข่าวรวบตัวที่ประเทศมาเลเซียน่าจะเป็นการสร้างข่าว เพื่อกลบเกลื่อนความล้มเหลวของของกระทรวงต่างประเทศและรัฐบาลเอง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลไทยเตรียมที่จะประสานไปยังทางการฟิจิ ซึ่งเป็นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ ให้ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญานั้น นายนพดล กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเดินทางไปไหนก็ยังไปได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักเปิดเผย ว่า พ.ต.ท.ทักษิณว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยภายในสิ้นปี 2552 นี้ นายนพดล กล่าวว่า เท่าที่คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้คุยถึงกำหนดกลับประเทศไทยแต่ถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมาแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่ง
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายถาวร เสนเนียม รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าพักที่โรงแรมแชงกรี-ลา ประเทศมาเลเซีย และเตรียมประสานในการจับกุมแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไหวตัวทันหนีไปประเทศฟิจิก่อนเจ้าหน้าที่จะไปจับกุม ว่า ไม่น่าจะเป็นความจริง ขอยืนยันว่าตนได้พูดคุยกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและในช่วงเวลานั้นได้อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในประเทศหนึ่ง แต่ไม่ใช่ประเทศมาเลเซียอย่างแน่นอน และ ส.ส.คนดังกล่าว ไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ ทั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะเพื่อน ส.ส.คนนี้เท่านั้น ยังมีเพื่อน ส.ส.อีกหลายคนยืนยันตรงกันว่า ไม่ใช่อย่างที่นายถาวร ให้ข่าว
นายประชา กล่าวว่า อยากเรียกร้องนายถาวรว่า หากมีหลักฐานที่ชัดเจนให้นำ ออกมาชี้แจง ไม่ใช่ออกมาปล่อยข่าวโดยไม่รับผิดชอบ และเชื่อว่าการปล่อยข่าวครั้งนี้ รัฐบาลเพียงต้องการเบี่ยงเบนประเด็นข่าวปัญหาขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล และการแก้ไขปัญหาที่ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งรัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน
ผมว่านายถาวรเข้าใจผิด ไปเห็นคนหน้าเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แสดงใน สภาโจ๊กแล้วออกมาโวยวายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่มาเลเซีย น่าจะตรวจสอบให้ดีก่อน แล้วค่อยออกมาพูด และเห็นว่า ควรยุติการไล่ล่าไล่จับอดีตนายกรัฐมนตรีได้แล้ว เพราะถ้าจับกุมตัวมาได้จริง เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น เมื่อถึงเวลา หนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางเข้ามาในประเทศเองและจะให้เป็นไปตามระบบ
ด้านนายต่วนอับดุลเล๊าะ ดาโอ๊ะมารียอ ส.ว.ยะลา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาประเทศมาเลเซีย อาจโยงถึงความเกี่ยวข้อง ถึงความไม่สงบของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนไม่ทราบเรื่อง เท่าที่รู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เชื่อมั่นว่าเขาจะทำเช่นนี้ได้ แต่ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความปั่นป่วนใน 3 งหวัดชายแดนใต้จริง ตนไม่เห็นด้วย และเชื่อว่า ชาวไทยมุสลิมก็ไม่เห็นด้วย คิดว่ารัฐบาลมาเลเซียจะต้องดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว
ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามามาเล เพื่อหวังทำให้ 3 จังหวัดปั่นป่วน คิดว่า ชาวไทยมุสลิมคงไม่สบายใจ และการกระทำที่ไร้มนุษธรรม เพราะชาวมุสลิม วิงวอนให้เหตุการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้สงบตลอดเวลา นายต่วนอับดุลเล๊าะ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำนักงานอัยการสูงสุดได้ส่งหมายจับไปยังประเทศมาเลเซียและออสเตรเลีย เพื่อขอให้จับตัวพ.ต.ท.ทักษิณทันทีที่พบ เนื่องจาก ทั้ง 2 ประเทศมีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย ส่วนสาเหตุที่ต้องส่งหมายจับไปที่ประเทศออสเตรเลียแทนที่จะเป็นประเทศฟิจินั้น เพราะไทยไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศฟิจิ จึงต้องประสานผ่านประเทศออสเตรเลียอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ หลังจากอัยการสูงสุดได้ส่งหมายจับไปแล้ว ถ้าทั้ง 2 ประเทศเจอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถจับตัวได้ทันที โดยที่กระทรวงการต่างประเทศไม่จำเป็นต้องส่ง เจ้าหน้าที่ไปประสาน เพราะมีคนประจำอยู่ในแต่ละประเทศอยู่แล้ว.
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศและอดีตที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รมว.มหาดไทยระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพักที่โรงแรมแชงกรี-ลา ประเทศมาเลเซีย และเตรียมประสานในการจับกุมแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไหวตัวทันหนีไปประเทศฟิจิก่อนเจ้าหน้าที่จะไปจับกุม ว่า สิ่งที่นายถาวรพูดไม่เป็นความจริง เพราะความจริงแล้วพ.ต.ท.ทักษิณมีกำหนดการจะเดินทางจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปประเทศฟิจิจะต้องแวะเติมน้ำมันก่อนโดยมีตัวเลือกอยู่ 2 ทางคือ แวะเติมน้ำมันที่กรุงเทพฯ หรือ กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิน แวะที่กัวลาลัมเปอร์ 1 คืน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่ประเทศฟิจิ และไม่มีการจับกุมใดๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ผู้ใหญ่ที่มาเลเซียขำกับการให้ข่าวของนายถาวร เพราะประเทศแต่ละประเทศคงไม่มีใครส่งเจ้าหน้าที่อีกประเทศหนึ่งไปจับกุมใครในประเทศนั้นๆ ได้เนื่องจากต้องมีการออกหมายจับและประสานกับประเทศนั้นๆด้วย
นายนพดล กล่าวว่า หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณออกจากเมเลเซียไปประเทศฟิจิแล้ว มีกำหนดเดินทางไปอีก 4 ประเทศแต่ไม่ขอเปิดเผย โดยแต่ละประเทศที่พ.ต.ท.ทักษิณ ไปเยือนได้นัดรับประทานอาหารกับผู้นำของแต่ละประเทศและบางประเทศเป็นถึงระดับประมุขของรัฐ ซึ่งมีนัยยะอะไรก็ลองคิดดู ทั้งนี้ทุกประเทศให้การต้อนรับดูแล เป็นอย่างดี เพราะเข้าใจสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยและคดีของพ.ต.ท.ทักษิณว่าเป็นคดีทางการเมือง นอกจากนี้บางประเทศได้จัดทีมรักษาความปลอดภัยของผู้นำ และรถนำขบวนให้พ.ต.ท.ทักษิณด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะมีการจับกุมที่ประเทศมาเลเซีย และจะมีการปรับแผนการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่ทราบ เหมือนกรณีที่มีรายงานข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ถูกหมายแดง มีชื่อติดในอินเตอร์โพล แต่ถึงวันนี้ก็ไม่มีการจับกุมอะไร และไม่มีปัญหาเรื่อง ความปลอดภัยแม้ว่าที่ผ่านมานายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศจะตามล่าพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อว่าข่าวรวบตัวที่ประเทศมาเลเซียน่าจะเป็นการสร้างข่าว เพื่อกลบเกลื่อนความล้มเหลวของของกระทรวงต่างประเทศและรัฐบาลเอง
ส่วนกรณีที่รัฐบาลไทยเตรียมที่จะประสานไปยังทางการฟิจิ ซึ่งเป็นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ ให้ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญานั้น นายนพดล กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเดินทางไปไหนก็ยังไปได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักเปิดเผย ว่า พ.ต.ท.ทักษิณว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยภายในสิ้นปี 2552 นี้ นายนพดล กล่าวว่า เท่าที่คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ได้คุยถึงกำหนดกลับประเทศไทยแต่ถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมาแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่ง
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายถาวร เสนเนียม รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าพักที่โรงแรมแชงกรี-ลา ประเทศมาเลเซีย และเตรียมประสานในการจับกุมแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไหวตัวทันหนีไปประเทศฟิจิก่อนเจ้าหน้าที่จะไปจับกุม ว่า ไม่น่าจะเป็นความจริง ขอยืนยันว่าตนได้พูดคุยกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและในช่วงเวลานั้นได้อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในประเทศหนึ่ง แต่ไม่ใช่ประเทศมาเลเซียอย่างแน่นอน และ ส.ส.คนดังกล่าว ไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ ทั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะเพื่อน ส.ส.คนนี้เท่านั้น ยังมีเพื่อน ส.ส.อีกหลายคนยืนยันตรงกันว่า ไม่ใช่อย่างที่นายถาวร ให้ข่าว
นายประชา กล่าวว่า อยากเรียกร้องนายถาวรว่า หากมีหลักฐานที่ชัดเจนให้นำ ออกมาชี้แจง ไม่ใช่ออกมาปล่อยข่าวโดยไม่รับผิดชอบ และเชื่อว่าการปล่อยข่าวครั้งนี้ รัฐบาลเพียงต้องการเบี่ยงเบนประเด็นข่าวปัญหาขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล และการแก้ไขปัญหาที่ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งรัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน
ผมว่านายถาวรเข้าใจผิด ไปเห็นคนหน้าเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่แสดงใน สภาโจ๊กแล้วออกมาโวยวายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่มาเลเซีย น่าจะตรวจสอบให้ดีก่อน แล้วค่อยออกมาพูด และเห็นว่า ควรยุติการไล่ล่าไล่จับอดีตนายกรัฐมนตรีได้แล้ว เพราะถ้าจับกุมตัวมาได้จริง เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น เมื่อถึงเวลา หนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางเข้ามาในประเทศเองและจะให้เป็นไปตามระบบ
ด้านนายต่วนอับดุลเล๊าะ ดาโอ๊ะมารียอ ส.ว.ยะลา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว ว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาประเทศมาเลเซีย อาจโยงถึงความเกี่ยวข้อง ถึงความไม่สงบของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนไม่ทราบเรื่อง เท่าที่รู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เชื่อมั่นว่าเขาจะทำเช่นนี้ได้ แต่ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างความปั่นป่วนใน 3 งหวัดชายแดนใต้จริง ตนไม่เห็นด้วย และเชื่อว่า ชาวไทยมุสลิมก็ไม่เห็นด้วย คิดว่ารัฐบาลมาเลเซียจะต้องดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว
ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามามาเล เพื่อหวังทำให้ 3 จังหวัดปั่นป่วน คิดว่า ชาวไทยมุสลิมคงไม่สบายใจ และการกระทำที่ไร้มนุษธรรม เพราะชาวมุสลิม วิงวอนให้เหตุการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้สงบตลอดเวลา นายต่วนอับดุลเล๊าะ กล่าว
