xs
xsm
sm
md
lg

ปิดห้องคุยลงตัวโผ ตร.สมประโยชน์ทุกฝ่าย จัดฉาก “พัชรวาท” ไปใต้-“มาร์ค” ได้คะแนน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี
ASTV ผู้จัดการรายวัน - “มาร์ค” ออกลูกพลิ้วปัดไล่ “ป๊อด” ลงใต้ ลั่นรัฐบาลยึด กม.บริหารประเทศ ไม่เดินตามกองเชียร์ ย้ำชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่คลอดแน่สิงหาฯนี้ โยน ก.ตร.ตัดสินโผนายพล-โครงสร้างใหม่ ด้าน “เทพเทือก” เผยส่ง ผบ.ตร.ลงใต้ 7-8 วัน ให้ช่วยสะสางคดียิงประชาชนในมัสยิด และเตรียมการประชุมอาเซียน ปัดพัลวันไม่คิดปลด ผบ.ทบ.เพื่อสลายขั้ว โวยสื่ออย่ามั่วข่าว ด้าน “พัชรวาท” ยุติตอบโต้ รับขอลงใต้เอง คาด ก.ตร.13 ส.ค.อาจขอมติเลื่อนใช้โครงสร้างใหม่ออกไป เหตุโผรองผู้การยังไม่เสร็จ

วานนี้ (11 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ว่า ตนไม่ได้สั่งอะไร ที่ให้สัมภาษณ์ไปคือตนได้รับรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะไปปฏิบัติภารกิจที่ภาคใต้ แต่ตนไม่ได้เป็นคนสั่ง ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกันในเหตุผลบ้างหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังเลย เข้าใจว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นคนทำรายงานขึ้นมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อสังสัยว่าการปฏิบัติราชการในพื้นที่ประเทศไทย ทำไมต้องตั้งรักษาการด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า นายสุเทพจะทำรายงานมา ตนยังไม่เห็นเรื่อง แต่ฟังมาเบื้องต้นท่านบอกมาอย่างนั้น ตนก็มาเล่าให้ฟัง ซึ่งนายสุเทพจะทำรายงานมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อถามว่าหากนายสุเทพรายงานมา นายกฯจะยึดตามนั้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูเหตุผลก่อน เมื่อถามว่าจะเกิดความขัดแย้งหรือไม่ หากมีการตั้งรักษาการ ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาทยังปฏิบัติหน้าที่ในประเทศ จะเกิดการซ้ำซ้อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สอบถามนายสุเทพแล้ว ท่านบอกว่าก็ปฏิบัติกันเป็นการทั่วไป หากไปปฏิบัติภารกิจแล้วไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ เมื่อถามว่าได้มีการคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มี อวยพรวันเกิดท่านอย่างเดียว

ส่วนการที่ พล.ต.อ.พัชรวาท กลับมาก่อนกำหนดที่ได้ลาไว้ และมาปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.ซึ่งผิดคำพูดกับที่นายกฯ เคยพูดไว้ ทำให้สังคมไม่เชื่อถือคำพูดของนายกฯนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าไต้ฝุ่นจะเข้า ต้องดูเหตุผล หากเปิดเทปดู ตนบอกว่าท่านจะกลับมาช่วงวันที่ 11-12 ส.ค. เพราะเข้าใจว่างานวันเฉลิมฯ เป็นงานที่สำคัญ และท่านอยากจะมาร่วมงาน ทั้งนี้ท่านรายงานมาว่า หากเดินทางออกจากจีนช้า จะออกไม่ได้ จะติดไต้ฝุ่น ก็เลยกลับมาก่อน เท่านั้นเอง ไม่เห็นมีอะไร

ยันทุกอย่างทำตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้ใช้ระเบียบบริหารราชการแผ่นดินฉบับไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตามกฎหมาย เมื่อถามว่า ใช้ตามกฎหมายฉบับไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ใช้ทุกฉบับ รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรที่ขัดกับกฎหมาย

เมื่อถามว่า หากต่อไปนายกฯ ไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างจังหวัด จะต้องตั้งรักษาการหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าตนปฏิบัติหน้าที่ได้หรือเปล่า เมื่อถามว่า ปกติข้าราชการหากอยู่ในประเทศไม่เห็นต้องมีการตั้งรักษาการ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะรอรายงานจากนายสุเทพ ถึงความจำเป็น เมื่อถามว่า นายสุเทพ บอกให้ถามนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพ ต้องบอกอย่างนั้น เพราะต้องมาขออนุมัติจากตน โดยที่นายสุเทพ เป็นคนตั้งเรื่องขึ้นมา ซึ่งเป็นไปตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายกฯ อุ้ม พล.ต.อ.พัชรวาท เพราะหากจะย้ายมาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ แล้วตั้งรักษาการ ก็คงไม่มีใครว่า แต่นี่โยนกันไปมา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มีใครโยนอะไร ขณะนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดี และช่วงนี้จะเห็นว่าคดีมีความคืบหน้า มีการออกหมายจับเพิ่ม ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

เมื่อถามว่า เมื่อไรจะอธิบายให้สังคมที่สงสัยเลิกถามเรื่องนี้เสียที นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่า สังคมจะฟังเหตุผลและไปตั้งข้อสังเกตุกันเองหรือเปล่า ตนก็บอกตรงไปตรงมาว่า เราทำอะไรและมีคำอธิบาย และงานก็เดินในสิ่งที่เราต้องการที่จะให้เกิดขึ้น

เมื่อถามว่าที่ผ่านมา พล.ต.อ.พัชรวาท ก็เคยลงไปปฏิบัติภารกิจภาคใต้ ไม่เห็นต้องตั้งรักษาการ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เข้าใจว่าไม่เคยไปในลักษณะที่นายสุเทพ รายงานมา คือไปต่อเนื่องยาวหลายวัน ตอนนี้กำลังรอรายงานจากนายสุเทพอยู่ วานนี้ฟังแค่รายงานเบื้องต้นเท่านั้น

เมื่อถามว่า ท่าทีของ พล.อ.ประวิตร เป็นอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่มี นั่งคุยกันตามปกติ เมื่อถามว่านายกฯคิดว่าพิลึกกึกกือหรือไม่ กับการที่ ผบ.ตร.อยู่ในประเทศ แต่ต้องตั้งรักษาการมาปฏิบัติหน้าที่แทน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะดูเหตุผลว่าปฏิบัติราชการไม่ได้ อะไรอย่างไร ตนก็เล่าให้ฟัง นายสุเทพ และเลขาธิการนายกฯ บอกว่า ผบ.ตร. จะไปราชการภาคใต้นานต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นต้องตั้งผู้รักษาราชการแทน ตนก็บอกพวกเราอย่างนี้ตรงไปตรงมา แต่รายละเอียดตนคงต้องดูอีกที ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย

แต่งตั้งโยกย้ายขึ้นอยู่กับมติ ก.ตร.

ส่วนแต่งตั้งโยกย้าย ควรเป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่นั้น คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะเป็นผู้วินิจฉัย โดยขั้นตอนจะต้องประกาศโครงสร้างใหม่ ในราชกิจจานุเบกษาก่อน จากนั้นจึงนำระดับนายพลขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อมีการโปรดเกล้าฯแล้ว จึงจะสามารถออกคำสั่งในระดับที่รองลงมาได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจาฯ เพราะทางตำรวจไม่ต้องการให้เกิดสูญญากาศ จึงต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบในการโยกย้ายระดับรองลงมา ในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่แล้วพบว่ามีจำนวนมากที่คุณสมบัติยังไม่ตรงตามกฎหมาย จะต้องขอยกเว้นจาก ก.ตร. และเป็นการขอยกเว้นเฉพาะรายด้วย ดังนั้น ไม่สมารถที่จะดำเนินการได้โดยไม่ผ่านมติของ ก.ตร. และไม่สามารถที่จะให้ ก.ตร.มีมติแบบคลุมๆ ว่า ให้ยกเว้นคุณสมบัติสำหรับครั้งนี้ ทำไม่ได้ตามกฎหมาย ดังนั้นจะมีการประชุมก.ตร.อีก 1 ครั้ง เพื่อที่จะมีบัญชีของคนที่จะมาขอยกเว้นคุณสมบัติ กรอบเวลานี้จะเกี่ยวพันกัน โดยตนได้ให้ ก.ตร.บริหารจัดการ ว่าอยากทำอย่างไร

เมื่อถามว่า ความพร้อมการจัดทำบัญชีรายชื่อรองรับโครงสร้างใหม่ อาจไม่ได้ประกาศทันวันที่ 16 ส.ค.นี้แล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายสุเทพกำลังจะสรุปอีกครั้งว่าตกลงจะทำเสร็จทันในวันที่ 15-16 ส.ค.นี้หรือไม่ เพราะมีประเด็นเรื่องคุณสมบัติซึ่งต้องหารือ กับ ก.ตร.อีกครั้ง

ยันได้ชื่อ ผบ.ตร.ใหม่เดือนนี้

ส่วนการประชุม กตร.จะเป็นต้องมี ผบ.ตร. เข้าประชุมด้วยทุกครั้งหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ ต้องมีผู้รักษาราชการแทน เมื่อถามว่าหากมีการโยกย้ายภายในเดือนสิงหาคมนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ขึ้นมาจากภาคใต้เพื่อร่วมประชุมได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการบริหารของ สตช. ซึ่งตนได้มอบให้นายสุเทพ ดูแล

เมื่อถามว่าหากกระบวนการทอดยาวไปถึงจุดที่ ผบ.ตร.ต้องเกษียณ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่ยาวถึงขนาดนั้น อีกตั้งเดือนกว่า เมื่อถามว่าการประชุม ก.ต.ช.จะได้ตัว ผบ.ตร. คนใหม่เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องประชุมก่อนสิ้นเดือน และได้ตัว ผบ.ตร. เพราะตามกฎหมาย ระดับรองจะต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม ตามกฎของ ก.ตร. แต่เรื่องรอง ยังทำไม่ได้ หากระดับ ผบ.ยังไม่จบ ดังนั้น ผบ. ต้องจบก่อน

“ผมเท้าความเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะมีการพูดถึงปัญหาอุปสรรคเรื่องของคดี และผมก็หารือกับท่าน ซึ่งท่านก็เป็นคนเสนอทางออกเอง ตอนหลังที่มาวิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่อวแต่งตั้ง ไม่ได้เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันมาก่อนเลย พูดเรื่องที่จะให้คดีเดินหน้าโดย ผบ.ตร. เสนอทางออกมาเอง” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เผยที่วุ่นอยู่ทุกวันนี้เพราะคดี

เมื่อถามว่า ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคเรื่องคดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอเรียนว่าตอนที่คุยกันได้บอกปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความวิตกกังวลของคนที่ทำงาน ซึ่งอาจไม่ใช่ตัว ผบ.ตร. อาจจะเป็นคนแวดล้อมก็ได้ที่เป็นปัญหา ตนบอกว่าเป้าหมายของตนและ ผบ.ตร. ตรงกัน คือต้องการให้ตำรวจแสดงออกว่า เวลาเกิดคดีสำคัญที่อยู่ในความสนใจ คนไปตั้งข้อสังเกตุห่วงใยไม่สามารถทำคดีได้ เพราะติดตรงนั้นตรงนี้ เรามาแสดงให้เห็นดีกว่าว่า ไม่มีปัญหา เท่านั้นเอง

เมื่อถามว่าหากนายกฯ ทำแบบนั้น ท่านก็ไม่ใช่ผู้นำที่จะบริหารประเทศหากจะบริหารตามกองเชียร์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่ได้บริหารตามกองเชียร์ และตนได้ใช้วิธีการในการพูดคุยกับ ผบ.ตร.เพราะท่านเป็นผู้เสนอทางออกให้ และตนเห็นว่าทางออกที่เสนอมา เป็นทางออกที่เหมาะสม เราก็เดินตามนั้น

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ต้องลาพักร้อนถึงเกษียณเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่หรอก พูดกันชัดเจน การจะลาถึงเกษียณ ไม่มีหรอก เมื่อถามว่าแค่โยกย้าย จบใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการโยกย้ายเลย เมื่อถามว่า แล้วเกี่ยวกับอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกี่ยวกับคดี

นัดประชุม ก.ตร.พฤหัสฯ นี้

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปีว่า ตนได้นัดประชุม ก.ตร. บ่ายวันที่ 13 ส.ค.นี้ ซึ่งทาง สตช.จะเป็นผู้พิจารณา

ส่วนเรื่องมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า มีคำสั่งให้ ผบ.ตร.ลงไปปฏิบัติหน้าที่ภาคใต้ เพราะมีคดีสำคัญๆ หลายคดี ที่ต้องการให้สะสาง รวมถึงให้ไปดูการเตรียมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จะถึงนี้ด้วย

ส่วนกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นพี่ชาย พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่พอใจที่จะมีการส่งน้องชายลงไปในภาคใต้ ขณะที่มีปัญหาการเมืองเช่นนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า คิดไปเอง อย่าคิดอะไรให้มากเกินเหตุ อย่าตั้งข้อสงสัยอะไรที่ทำให้เกิดปัญหา มีงานอะไรที่ต้องไปทำ ก็ต้องทำ

เมื่อถามว่า การที่ ผบ.ตร.ยังทำงานในประเทศ ทำไมต้องตั้งรักษาการด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า เขาไม่อยู่ ก็ต้องมีรักษาการตามปกติ เวลาเขาไปต่างจังหวัด ก็มีคนรักษาการอยู่ทุกครั้ง เป็นปกติ

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองบีบให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ลงพื้นที่ภาคใต้ นายสุเทพ กล่าวว่าจะมาว่าตนบีบเขาไม่ได้ เพราะตนเป็นคนสั่ง ถ้าเป็นอย่างนี้ถือว่าเป็นการมากล่าวหากัน เมื่อถามว่าคดีต่างๆในภาคใต้ ต้องใช้เวลานานในการดำเนินการติดตาม แต่ พล.ต.อ. พัชรวาท เหลือเวลาไม่นาน 50 วัน จะลงไปทำเรื่องนี้จะทันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทันหรือไม่ทัน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนต้องการเร่งรัดคดีในหลายคดีที่มีปัญหา และตนต้องการเร่งรัด

ส่วนที่ว่าคำสังให้ พล.ต.อ.พัชรวาทลงใต้ สร้างความไม่พอใจให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมนั้น เป็นแค่ข่าวลือ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ไม่มีอะไรบานปลาย

“ผมได้ขอให้ ผบ.ตร.ลงไปประสานงานในพื้นที่ภาคใต้ให้ผม ประมาณ 7-8 วัน อย่างนี้ก็ต้องมีคนปฏิบัติราชการแทนที่กรุงเทพฯ ไม่มีอะไรที่พิเศษมากกว่านั้น” นายสุเทพกล่าว

ปลด ผบ.ทบ.แค่ข่าวลือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกฯ อยากจะสลายขั้วอำนาจ จนถึงขั้นอาจจะปลด ผบ.ทบ.ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสุเทพ กระซิบเบาๆ แล้วกล่าวว่า

“ไอ้ที่ถามอย่างนี้ ถ้าผมหนุ่มๆ จะตอบแรงนะ แต่นี่แก่แล้ว ก็อยากจะบอกว่า มันลือกันมากเกินไปแล้ว ลือจนเกินจริง มันไม่มีอะไรที่ต้องทำกับ ผบ.ทบ.ขนาดนั้น ข่าวลือเนี่ยะเวลาสงสัยต้องดูพื้นฐาน สมมุติฐานของโรคบ้าง”

เมื่อถามว่าเกรงว่า พล.อ.ประวิตร จะไขก๊อกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ใครจะไขก๊อก ไม่มี ทุกคนอยู่ทำงานช่วยชาติบ้านเมือง

“พัชรวาท” อ้างขอลงใต้เอง

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่าง 13-18 ส.ค. ว่า เป็นความสมัครใจของตนที่จะไปเอง ซึ่งตั้งใจไว้อยู่แล้ว โดยจะไปประเมินผล และติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดชายแดนใต้ ส่วนการแต่งตั้งนายพล 152 ตำแหน่ง และการแต่งตั้ง ปรับเปลี่ยนโยกย้ายนายตำรวจ กว่า 1 แสนตำแหน่ง เพื่อรองรับโครงสร้างใหม่ของ ตร. นั้น ถือว่าเป็นไปตามกฎหมาย

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า ยังไม่เห็นหนังสือการแต่งตั้งรักษาราชการแทน ในช่วงที่ตนเดินทางไปภาคใต้ ต่อข้อถามที่ว่า เมื่อกลับมาจากภาคใต้ นายกรัฐมนตรี จะใช้ให้ไปไหนต่อหรือไม่นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท นิ่งเงียบไม่ตอบคำถามสื่อ

“วิเชียร” รักษาการ มอบดูแลม็อบเสื้อแดง

จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) เข้าพบที่ห้องทำงานชั้น 7 อาคาร 1 โดยใช้เวลา 30 นาที ภายหลังเข้าพบ พล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยว่า ผบ.ตร.ได้พูดคุยกับตนว่ามีความเป็นห่วงด้านการเมือง โดยได้กำชับให้ตนดูแลความสงบเรียบร้อยของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีการชุมนุมกันในวันที่ 17 ส.ค.นี้ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

ส่วนโผการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงมา เพื่อปรับเปลี่ยนรองรับโครงสร้างใหม่ ตร.นั้น พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ตนไม่ได้ดูแลในเรื่องนี้ แต่หากตนได้รับมอบหมายก็จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย นอกจากนี้ ผบ.ตร.ได้ฝากให้ตำรวจทำหน้าที่ตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การเป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ช่วงไปภาคใต้จะมีอำนาจแต่งตั้งโผได้หรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ทำได้ถ้าตนได้รับมอบหมาย เพราะการรักษาราชการแทน มีอำนาจหน้าที่ เท่า ผบ.ตร. แต่ในช่วงเช้าได้พบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ไปเป็นประธานพิธีมหาชาตาบารมีสิทธิ์ ที่ท้องสนามหลวงยังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ และยังไม่มีคำสั่งใดๆ

ส่วนข้อถามที่ว่า การได้รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ถึง 2 ครั้ง มีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ไม่มีอะไร ตนทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา

ต่อข้อถามที่ว่าจะมีโอกาสก้าวขึ้น ผบ.ตร.หรือไม่นั้น พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า แล้วแต่ผู้บังคับบัญชา ตนก็ตั้งใจทำงานไปตามปกติ ซึ่งให้ดูการทำงานของตนต่อไปแล้วกัน

“เพรียวพันธ์” ไม่ขอพูดซ้ำ

อย่างไรก็ตาม จังหวะที่ผู้สื่อข่าวนั่งรอทำข่าว พล.ต.อ.วิเชียร ที่เข้าพบ พล.ต.อ.พัชรวาท อยู่นั้น ในห้องฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นห้องทำงานของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 ได้เดินออกจากห้องทำงานพอดี โดยปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่ตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทน ผบ.ตร.อีกครั้ง ซึ่งให้เหตุผลว่าได้พูดไปหมดแล้ว ไม่ขอพูดอีก เพราะพูดอะไรไม่ได้ พูดไปไม่เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว ควรคิดกันเองว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะ

ส่วนเรื่องการร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมในเรื่องความอาวุโสตาม พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 106 นั้น ตนได้ยื่นให้ ก.ตร.ไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ส.ค.แล้ว ส่วนจะยื่นให้ศาลปกครองเมื่อใดนั้นคงต้องพิจารณากันต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เล่นการเมือง และที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปแล้ว ก็เห็นแล้วว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนช่วยตัวเองได้

คาดเลื่อนใช้โครงสร้างใหม่ตำรวจ

มีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ได้มีรายงานถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร. ว่าจะมีการประชุม ก.ตร.ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ เวลา 13.00 น. โดยยังไม่แจ้งวาระการประชุมล่วงหน้า แต่จะส่งหนังสือให้ภายหลัง

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการนำบัญชีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ รอง ผบก.ลงไป จนถึง ชั้นประทวน ร่วมประชุมพิจารณาร่วมกับ รองผบ.ตร.ก่อน จึงคาดการณ์ว่าการประชุม ก.ตร.ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ เป็นการหารือเพื่อขอมติเรื่องการเลื่อนการประกาศพระราชกฤษฎีกาโครงสร้างตำรวจใหม่ จากวันที่ 15 ส.ค.ไปก่อนว่าจะผิดกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากหากประกาศพระราชกฤษฎีกาโครงสร้างตำรวจใหม่ไปแล้วจะมีผลบังคับใช้ทันที บัญชีแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับนายพล 152 ตำแหน่ง ที่ผ่าน ก.ตร. แล้วพร้อมทำงานได้ ขณะที่ บัญชีแต่งตั้งระดับ รองผบก.ลงไป ยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน หากตำรวจรายใดปฎิบัติหน้าที่ลงไปจะไม่มีกฎหมายรองรับ

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ภาคใต้ วันที่ 13 ส.ค. เวลา 09.40 น. ด้วยเครื่องบิน TG 233 จากสนามบินสุวรรณภูมิ ลงที่สนามบิน อ.หาดใหญ่ เพื่อเดินทางไปศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.)
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
กำลังโหลดความคิดเห็น