xs
xsm
sm
md
lg

เมืองพ่อขุนฯชงตั้งกรรมการร่วม “สิบสองปันนา-เชียงราย”ดันรูตทัวร์น้ำโขง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมเกียรติ ชื่นธีระวงษ์
เชียงราย – จังหวัดฯเตรียมเสนอตั้งกรรมการร่วม “เชียงราย-สิบสองปันนา” นำร่องผลักดันแผนพัฒนาท่องเที่ยวร่วม – ทำรูตทัวร์ขายฝรั่ง ก่อนขยายความร่วมมือไปยังพม่า-สปป.ลาว และกลุ่ม GMS ต่อในอนาคต หวังใช้เป็นองค์กรเจ้าภาพผลักดันเส้นทางทัวร์ลุ่มน้ำโขงให้แจ้งเกิดให้ได้

นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย และนายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย เปิดเผย “ASTVผู้จัดการ" ว่า ในการเดินทางมาเยือนของคณะนางเตา หลินอิน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน ผ่านถนน R3a ใน สปป.ลาว มาถึง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อโรดโชว์โครงการลงทุนต่าง ๆ ในสิบสองปันนา ระหว่างวันที่ 23-30 สิงหาคม 2552 ที่เชียงราย เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และภูเก็ต จากประเทศจีนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่จีนตอนใต้ เพื่อส่งเสริมให้มีการเข้าไปลงทุนหรือท่องเที่ยวที่สิบสองปันนา และมาดูเส้นทางท่องเที่ยวสายจีนตอนใต้-เชียงราย-ภูเก็ต หรือแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย

ตามกำหนดในวันที่ 24 สิงหาคม คณะของนางเตา หลินอิน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาจะประชุมหารือกับผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ณ โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท เพื่อสานต่อการประชุมในครั้งก่อนที่ประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรื้อฟื้นการจัดงานวัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มแม่น้ำโขง 4 ชาติ ไทย จีน สปป.ลาว และพม่า การจัดเส้นทางท่องเที่ยว(รูตทัวร์)ระหว่างเชียงราย-สิบสองปันนา การเชิญชวนให้ภาคเอกชนแต่ละฝ่ายไปลงทุน การใช้เอกสารเข้าออกระหว่างเชียงราย-สิบสองปันนา ฯลฯ

ในส่วนของการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงราย ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษเพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมระหว่างไทย-จีน และเชียงราย-สิบสองปันนา เพราะต่างมีนักท่องเที่ยวที่จะไปเยือนซึ่งกันและกัน รวมทั้งยังร่วมกับกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงหรือ GMS ในการรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ดังนั้น จังหวัด จึงตั้งคณะกรรมการทำงานเพื่อขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวร่วมกับสิบสองปันนาเอาไว้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีผู้เกี่ยวข้องคือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จ.เชียงราย ศูนย์การท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัด และภาคเอกชนคือสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.เชียงราย - สมาคมท่องเที่ยวเชียงราย เป็นกรรมการ เพื่อขอให้ทางสิบสองปันนาตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมสำหรับการขับเคลื่อนผลักดันการท่องเที่ยวด้วยกันต่อไป
การเดินทาง ผ่านถนน R3a ใน สปป.ลาว มาถึง จ.เชียงราย ได้รับความสนใจมากขึ้น หากมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศในภูมิภาคนี้ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม จะเกิดผลประโยชน์แก่ทุกฝ่าย
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า เพื่อให้คณะกรรมการร่วมชุดนี้ เป็นเจ้าภาพร่วมผลักดันรูตทัวร์ใน GMS อย่างเป็นทางการ เพื่อนำไปขายให้กับนานาชาติโดยเฉพาะยุโรปและอเมริกาในอนาคต ซึ่งหากไม่มีกรรมการร่วมก็จะไม่สามารถขับเคลื่อนร่วมกันได้ ก็จะเข้าลักษณะต่างฝ่ายต่างทำหรือหากจะมีการประสานงานเรื่องการท่องเที่ยวก็จะไม่มีเจ้าภาพที่ชัดเจน การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชียงราย-สิบสองปันนา ก็จะเหมือนในอดีตคือไม่มีความชัดเจน ไม่ยั่งยืน ไม่เป็นเอกภาพ

ทั้งนี้หากมีคณะกรรมการร่วมแล้วก็จะก้าวไปสู่การปรึกษาหารือ วางแผน จัดทำรายละเอียดรูตทัวร์ ซึ่งมีอยู่มากมายทั้งทางเรือในแม่น้ำโขง ทางถนน R3a /R3b เครื่องบิน จัดทำแผนงานในการปฏิบัติงานร่วมกัน และจะขยายจากเชียงราย-จีนตอนใต้ ไปสู่ประเทศพม่า สปป.ลาว หรือในกลุ่ม GMS ทั้ง 6 ประเทศในอนาคตต่อไป

“ตลาดของเรากับจีนตอนใต้เหมือนกันคือนอกจากเราอยากให้เขามาเที่ยวแล้วเขาก็อยากให้เราไปเที่ยว ต่างฝ่ายต่างมียุทธศาสตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ทางที่ดีที่สุดคือนอกจากเราจะเที่ยวกันเองแล้วเรายังต้องสร้างตลาด โดยมีกลุ่มเป้าหมายใหญ่คือฝรั่งจากยุโรป ซึ่งอยากไปเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขงในกลุ่ม GMS เพื่อสัมผัสสิ่งแปลกใหม่อยู่แล้ว หากทำสำเร็จเรากับกลุ่ม GMS ก็จะวิน-วินด้วยกันทุกฝ่าย” นายสมเกียรติ กล่าว

เขาคาดว่าจีนตอนใต้จะเห็นความสำคัญเรื่องนี้ เพราะต่างต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเหมือนกัน และในอนาคตสายการบินจากเมืองเชียงรุ้งหรือจิ่งหง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ก็จะเปิดเส้นทางการบินมายังท่าอากาศยานเชียงรายด้วย ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวคึกคักและเหมาะกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันเป็นอย่างดี

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าการเดินทางมาเยือนประเทศไทย ของคณะผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาในครั้งนี้นอกจากจะมาเยือน จ.เชียงราย แล้วยังไปเยือน จ.เชียงใหม่ เพื่อประสานความร่วมมือในลักษณะเดียวกันและร่วมสัมมนา "โอกาสการค้า การลงทุนในสิบสองปันนา" และประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ ในจีนตอนใต้ เช่น เขตอุตสาหกรรม สายการบินใหม่ ฯลฯ

จากนั้นจะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินกิจกรรมในลักษณะเดียวกัน โดยจะเข้าพบผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานหอการค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรม สมาคมท่องเที่ยว-เอกชนด้านการท่องเที่ยว ประธานชมรมธนาคาร ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปภูเก็ต

ทั้งนี้ตลอดรายทางมีการแวะเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต ฯลฯ ก่อนเดินทางกลับจีนตอนใต้ด้วยเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 30 สิงหาคม 2552
กำลังโหลดความคิดเห็น