“ผู้ว่าฯ สิบสองปันนา” ยกทีมพบพ่อเมือง ชม.-ชร.-ภูเก็ตโรดโชวนิคมอุตฯ-สายการบินใหม่เชื่อมไทย-จีน

เชียงราย - ผู้ว่าฯสิบสองปันนา สป.จีน ยกทีมโรคโชว์ไทย ไล่พบผู้ว่าฯ เชียงราย-เชียงใหม่ ยันภูเก็ต รวมถึง สตม. หารือแนวทางส่งเสริมการลงค้า-ลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว ชูแผนเปิดตัวสิบสองปันนา-นิคมอุตฯ-สายการบินใหม่


รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 23-30 ส.ค.นี้ นางเตา หลินอิน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ และคณะมีกำหนดเดินทางไปเยือน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ อย่างเป็นทางการ เพื่อโรดโชว์โครงการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ของสิบสองปันนา

ในวันที่ 23 ส.ค.จะเดินทางทางรถยนต์มาตามถนน R3A ผ่าน สปป.ลาว มาขึ้นฝั่งแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนจะเข้าพบนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย และตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไมตรีและหารือเรื่องส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การเกษตร และด้านโลจิสติกส์ระหว่างกัน จากนั้นช่วงบ่ายคณะของนางเตา หลินอิน จะเดินทางต่อไปยัง จ.เชียงใหม่ เพื่อเข้าพบผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ เพื่อหารือในเรื่องเดียวกันในวันถัดไป

ในวันที่ 26 ส.ค.ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนายังมีกำหนดเปิดงานสัมนา "โอกาสการค้าการลงทุนในสิบสองปันนา" และประชาสัมพันธ์โครงการนิคมอุตสาหกรรมจิ่งหง (เชียงรุ่ง ) เมืองเอกของเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา รวมทั้งศึกษาดูงานที่โรงงานอุตสาหกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ ก่อนที่ในวันที่ 27 ส.ค.จะเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ เพื่อเข้าพบผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยหรือตัวแทน

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน และประชาสัมพันธ์สายการบินคุนหมิง-สิบสองปันนา-กรุงเทพฯ ที่กำลงจะเปิดใหม่ในเร็วๆ นี้ด้วย รวมทั้งเข้าพบผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือตัวแทนหารือกับสมาชิกสมาคมการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการธุระกิจการท่องเที่ยว

วันที่ 28 ส.ค.เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือตัวแทน ประธานหอการค้าและประธานสภาอุตสาหกรรม จากนั้นเปิดงานสัมมนาโอกาสการค้า การลงทุนในสิบสองปันนา และประชาสัมพันธ์โครงการนิคมอุตสาหกรรมจิ่งหง ศึกษาดูงานบริษัท TCC ศึกษาดูงานบริษัท GEPN และเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต ต่อ ก่อนจะเดินทางกลับด้วยสายการบินกรุงเทพฯ-คุนหมิง

สำหรับการเดินทางมาเยือนของคณะจากเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาในครั้งนี้ ถือเป็นคณะใหญ่เพราะนอกจากผู้ว่าการแล้วยังมีรองผู้ว่าการ นายกเทศมนตรีนครเชียงรุ้ง นายอำเภอเมืองไฮ นายอำเภอเมืองล่า ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวสิบสองปันนา ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมจิ่งหง ผู้อำนวยการนิคมพัฒนาการท่องเที่ยวสิบสองปันนา ผู้อำนวยการนิคมพัฒนาเศรษฐกิจบ่อหาน ตัวแทนจากสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ สาขามณฑลหยุนหนาน ฯลฯ

ด้าน นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผย “ASTVผู้จัดการ” ว่า การเดินทางไปเยือนของคณะผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาครั้งนี้ถือเป็นมิติใหม่ในการขับเคลื่อนของจีนตามนโยบายขยายเศรษฐกิจลงใต้ โดยถือเป็นการรุกเปิดตัวจีนตอนใต้เพื่อชวนให้เกิดการเข้าไปร่วมทุนและความร่วมมือทางการท่องเที่ยวร่วมกันอย่างชัดเจนมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้มีเพียงการหารือเฉพาะการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การเดินเรือ การสร้างถนนเชื่อมไทย-จีน ฯลฯ

ขณะเดียวกัน เป็นที่น่าสังเกตว่า คณะที่ขับเคลื่อนของจีนในครั้งนี้เป็นระดับเขตปกครองหรือจังหวัดเท่านั้นซึ่งเป็นการขับเคลื่อนจากองค์กรปกครองที่เล็กลงมาจากเดิมที่การขับเคลื่อนในลักษณะนี้มักจะเป็นระดับมณฑลหยุนหนันมากกว่า แสดงให้เห็นว่าจีนตอนใต้มีความพร้อมมากขึ้นและสามารถขับเคลื่อนในภาคปฏิบัติตามนโยบายขยายเศรษฐกิจลงใต้ได้อย่างคล่องตัว

นายพัฒนากล่าวอีกว่า สำหรับกรณีสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ที่มีกระแสจะเปิดบินระหว่างเมืองเชียงรุ้ง-ประเทศไทย นั้นในการเดินทางมาเยือนของคณะท่านเตา หลินอิน ในครั้งนี้มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์สายการบินที่จะบินเชื่อมระหว่างเชียงรุ้ง-กรุงเทพฯ ซึ่งก็คงเป็นการเปิดทำการบินใหม่หลังจากก่อนหน้านี้มีสายการบินคุนหมิง-กรุงเทพฯ อยู่แล้ว ส่วนเส้นทางบินระหว่างเมืองเชียงรุ้ง-เชียงราย นั้นก็ถือเป็นหนึ่งในการผลักดันของ จ.เชียงราย และเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาด้วยเช่นกัน ดังนั้นคงจะเห็นผลเป็นรูปธรรมในอนาคตต่อไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การเดินทางไปเยือนประเทศไทยของผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาดังกล่าว สอดคล้องกับการแสดงความเห็นของ ดร.จู้ เหวิน หมิ่น กงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ ที่มีต่อคณะของ คสศ.หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่อยากมาเที่ยวทะเลของประเทศไทยโดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต

ดังนั้นจึงเป็นภารกิจของหลายฝ่ายในภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงราย ในฐานะที่เป็นเมืองหน้าด่านของไทยที่สามารถเชื่อมโยงกับจีนตอนใต้ได้ทั้งทางบกและทางเรือในแม่น้ำโขง จะต้องคิดหาวิธีการในการให้นักท่องเที่ยวจีนมีช่วงเวลา ในการเที่ยวภาคเหนือก่อนหรือหลังการไปเที่ยวทะเลด้วย