ผู้จัดการ360องศารายสัปดาห์—ทางการลาวเปิดแผนเขตการท่องเที่ยวใหม่ทางตอนใต้สุดของประเทศ ปลุกชีพมหานทีสี่พันดอนรับแผนพัฒนาสามเหลี่ยมมรกตสามประเทศกับเวียดนามและกัมพูชาและต่อยอดทางหลวงสายใหม่ที่จีนสร้างเชื่อมเมืองคุนหมิงกับกรุงพนมเปญโดยผ่านลาว ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล ทุนญี่ปุ่น เกาหลี รู้ข่าวเร็วเข้าจองพื้นที่ทั้งโรงแรม รีสอร์ต สนามกอล์ฟ กาสิโนและสถานบริการท่องเที่ยวครบวงจร
นายนะลงสัก ซาตะกูน หัวหน้าแผนกแผนการและการลทุนแขวงจำปาสักเปิดเผย เรื่องนี้หลังจากเมื่อต้นปี ได้มีการข่าวคราวเกี่ยวกับแผนการสร้างสะพานใหญ่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำโขงโขงช่วงคอนพะเพง รวมทั้งแนวคิดที่จะผุดสนามบินใหม่อีก 1 แห่งในเขตเมืองโขง
เขตพิเศษการท่องเที่ยวมหานทีสี่พันดอนได้รับอนุมัตจากรัฐบาลแล้ว ครอบคลุมพื้นที่ราว 400 ตารากิโลเมตร ประกอบด้วยแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาตัวเมืองใหม่ พัฒนาสถานบริการการท่องเที่ยวซึ่งประกอบด้วยโรงแรม เรือนพัก สนามกอล์ฟ กับแผนพัฒนาระบบนิเวศน์ตามธรรมชาติและสวนสาธารณะ และการป้องกันตลิ่งถูกกัดเซาะพังทลาย
ปัจจุบันบริษัทจากสหรัฐฯ แห่งหนึ่งกำลังสำรวจพื้นที่สร้างโรงแรมระดับ 5 ดาวกับสถานกาสิโน บริษัทคอนพะเพงพาราไดซ์ ของนักลงทุนจากเกาหลี กำลังสำรวจทำเลสร้างโรงแรม 5 ดาวอีก 1 หลัง พร้อมสนามกอล์ฟ 36 หลุม สร้างเขตการค้า พัฒนาที่อยู่อาศัยในรูปหมู่บ้านจัดสรร
บริษัทร่วมทุนไทยลาวอีกแห่งหนึ่งกำลังดูลาดเลาสถานที่ก่อสร้างโรงแรมและสนามกอล์ฟอีกแห่ง ปัจจุบันกำลังสำรวจเพื่อสร้างระบบถนน กับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จัดระบบไฟฟ้าและน้ำประปาทั่วทั้งอาณาบริเวณ
การลงทุนของสามบริษัทนี้คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์ นายนะลงสัก ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ที่เมืองปากเซ
เขตมหานทีสี่พันดอนเมืองโขง มีลักษณะเป็นชุมทางกึ่งกลางระหว่างสามประเทศ ลาว เวียดนามกับกัมพูชา ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับมณฑลหยุนหนันของจีนได้โดยใช้ทางหลวงเลข 13 ใต้ กับเลข 13 เหนือของลาวที่ทะลุขึ้นไปจนถึงด่านชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน
ปีที่แล้วรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างช่วงปลายของทางหลวงสายนี้ไปเชื่อมต่อกับด่านตรวจคนเข้าเมืองดงกะลอ จ.สะตึงแตรง (Stung Treng) ของกัมพูชา เพื่อเชื่อมเข้ากับทางหลวงเลข 7 ช่วง จ.กระแจ๊ะ (Kratie) กับสตึงแตรง ที่รัฐบาลจีนช่วยกัมพูชาสร้างและยกระดับมาตั้งแต่ปี 2545 รวมความยาวกว่า 300 กิโลเมตร
ขณะเดียวกันลาว เวียดนามและกัมพูชา กำลังร่วมกันพัฒนาเขต "สามเหลี่ยมมรกต" ดินแดนรอยต่อระหว่างสามประเทศ เพื่อให้เป็นแหล่งการลงทุนและการท่องเที่ยว โดยได้รับการสนับสนุนด้านทุนรอนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้กรอบความร่วมมือกลุ่มอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง หรือ GMS (Greater Mekong Sub-Region) ปัจจุบันแผนพัฒนานี้กำลังคืบหน้าไป
ทางการลาวเชื่อว่าเขตท่องเที่ยวพิเศษมหานทีสี่พันดอน จะเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนอีกหลายแขนงในอนาคต และ จะกลายเป็นเขตการค้าการลงทุนชายแดนขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง สามารถเชื่อมโยงกับแหล่งมรดกโลกนครวัด และ เดินทางถึงนครโฮจิมินห์ในเวียดนามได้ใน 7 ชั่วโมง โดยผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือกัมพูชา เข้า จ.บี่งเฟื๊อก (Binh Phuoc)
นอกจากนั้นแขงจำปาสักยังสามารถเป็นเขตท่องเที่ยวสำคัญได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากที่สุดหากเทียบกับแขวงอื่นๆ นายนะลงสักกล่าว
มหานทีสี่พันดอนเป็นเขตปลายสุดของแม่น้ำโขงในดินแดนลาว ลำน้ำมีความกว้าง ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยหรือ “ดอน” นับพัน และ สายน้ำแยกซอยออกเป็นหลายสายที่เรียกว่า "ฮอง"
เหนือขึ้นไปเป็นตาดคอนพะเพง ที่ได้รับฉายา "ไนแองการ่าแห่งเอเชีย" ซึ่งเกิดจากแก่งหินขนาดใหญ่กั้นลำน้ำโขงทั้งสาย ทำให้กระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากและทรงพลัง อาณาบริเวณใกล้เคียงกันยังเป็นที่ตั้งของน้ำตกหลี่ผี ที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน ทั้งหมดนี้อยู่ห่างจากเมืองปากเซ ซึ่งเป็นเมืองเอกของแขวง 130-150 กม.
จำปาสักยังเป็นที่ตั้งของปราสาทวัดภู โบราณสถานที่สร้างขึ้นก่อนปราสาทนครวัด และ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศ
ทางการลาวอยู่ระหว่างดำเนินการจดทะเบียนตาดคอนพะเพงให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่ง เช่นเดียวกันกับทุ่งไหหินในแขวงเซียงขวางทางตอนเหนือของประเทศ
ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการ ปัจจุบันทั่วแขวงจำปาสักมีแหล่งท่องเที่ยวรวม 206 แห่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 109 แห่ง แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ 57 แห่งกับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีก 40 แห่ง ทั้งหมดนี้เปิดให้บริการแล้ว
สื่อทางการรายงานในเดือน ก.พ.ปีนี้ เกี่ยวกับแผนการของรัฐบาลที่จะสร้างสะพานข้ามแม้น้ำโขงช่วงคอนพะเพง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การคมนาคมขนส่งและหวังจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปที่นั่นมากยิ่งขึ้น
ปี 2551 มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวลาวและชาวต่างชาติเดินทางไปแขวงจำปาสัก 220,000 คน ทั้งนี้เป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการ และเมื่อสร้างแล้วเสร็จสะพานคอนพะเพงจะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญในการเดินทางและขนส่งระหว่าง 4 ประเทศ ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม
ในปัจจุบันทั่วแขวงจำปาสักมีโรงแรม รีสอร์ทและเรือนพักสำหรับนักท่องเที่ยวกว่า 600 แห่ง ทางการกำลังเร่งปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ในขณะที่การท่องเที่ยวและการลงทุนขยายตัวอย่างรวดเร็วมาก ปี 2551 เศรษฐกิจแขวงขยายตัว 9.9% เทียบกับ 7% อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวม
หลายปีมานี้การท่องเที่ยวของลาวขยายตัวในอัตราสูงและต่อเนื่องเฉลี่ย 16% ต่อปีและถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะไม่เอื้ออำนวยแต่ปี 2551 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศก็ยังเพิ่มขึ้น 3% เป็นเกือบ 1.8 ล้านคน จาก 1.6 ล้านในปี 2550 และ 1.2 ล้านในปี 2549 กับ 1 ล้านคนในปี 2548 สำนักข่าวทางการกล่าว
องค์การบริหารการท่องเที่ยวลาวตั้งเป้าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้ได้ถึง 2 ล้านคน ในปี 2553 และเพิ่มเป็น 2.2 ล้านคนในปี 2555.