ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.ไฟเขียวลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 2 บาท กระทรวงพลังงานเตรียมความพร้อมเช็คสต็อกปั๊มน้ำมันทั่วประเทศรองรับการลดราคาขายปลีกดีเซล 2 บาทต่อลิตรและไบโอดีเซล 40 สตางค์ต่อลิตรตามนโยบายรัฐบาล เตรียมพันล้านจ่ายชดเชยขาดทุนผู้ค้าป้องกันปัญหาดีเซลขาดตลาด ขนเจ้าหน้าที่กว่า 5 พันคนคุมเข้ม นักวิชาการติงลดเงินกองทุนน้ำมันฯควรทำแค่ปีนี้ ขณะที่คลังปัดไม่ลดภาษีน้ำมัน พร้อมบี้กองทุนอนุรักษ์ฯ ลด 2 บาท เหตุไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.ได้มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเสนอเรื่องการลดภาระการจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล ลิตรละ 2 บาทให้ประชาชน ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อใดนั้น ตนลงนามตามที่กองทุนอนุรักษ์และส่งเสริมพลังงานเสนอการลดการจัดเก็บรายได้ไปแล้ว เมื่อเช้า(11ส.ค.) ส่วนกองทุนน้ำมันนั้น ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) วานนี้(11ส.ค.)ว่า ที่ประชุมได้เตรียมพร้อมสำหรับการลดราคาขายปลีกในส่วนของกลุ่มดีเซลตามมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันแพงของรัฐบาลโดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์
พลังงานจังหวัดในการเช็คสต็อกน้ำมันของผู้ค้าทั่วประเทศในช่วงเที่ยงคืนก่อนวันลดราคาขายปลีกจริงโดยยืนยันว่ารัฐจะชดเชยให้กับผู้ค้าน้ำมันที่ซื้อน้ำมันก่อนหน้าที่ราคาแพงด้วยการชดเชยผลขาดทุนที่ยังเหลือให้เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลให้น้ำมันกลุ่มดีเซลขาดแคลน
“ราคาน้ำมันดีเซล(บี 2 )ที่จะลด 2 บาทต่อลิตร ไบโอดีเซลหรือบี 5 ลด 40 สตางค์ต่อลิตรนั้นจะลดได้จริงคงจะต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาคาดว่าเร็วสุดน่าจะมีผลในวันศุกร์นี้”น.พ.วรรณรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ยังได้มีการพิจารณาอัตราการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯที่จะมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ เบนซิน95 จากเดิมเก็บอยู่ 7 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 7.50 บาทต่อลิตร เบนซิน91 จากเดิมเก็บอยู่ 5.70 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 6.20 บาทต่อลิตร เนื่องจากมีการโอนเงินจากกองทุนเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมพลังงานในส่วนที่เก็บไว้สำหรับระบบขนส่ง 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลจากเดิมเก็บอยู่1.70 บาทต่อลิตร ก็ลดเหลือ 0.53 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซลบี5 จากเดิมชดเชยอยู่ 0.23 บาทต่อลิตร กลายเป็นชดเชยเพิ่ม 0.81 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ยังคงเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯในอัตราเท่าเดิม
ในส่วนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสร้างรถไฟฟ้า ที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ รวม 7,000 ล้านบาท นั้น ที่ประชุม กพช. ได้เห็นชอบในหลักการให้ โอนเงินดังกล่าว เข้ามาเป็นเงินกองทุนอนุรักษ์ทั้งหมด เพื่อนำไปส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่จำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นตามแผนอนุรักษ์ 15 ปี
นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)กล่าวว่า ทางกรมได้เตรียมเบิกจ่ายเงินผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1,000ล้านบาทในการชดเชยให้กับผู้ค้าน้ำมันหลังจากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตรมีผล เพื่อป้องกันปัญหาการไม่ยอมไปซื้อน้ำมันใหม่มาจำหน่ายเพื่อรอการระบายน้ำมันเก่าที่เกรงจะขาดทุนโดยรัฐยืนยันจะชดเชยผลการขาดทุนให้ขณะนี้กรมฯได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วเหลือเพียงรอประกาศในราชกิจจานุเษกษาเท่านั้น
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานจะมีงบสนับสนุนเบื้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ในการตรวจเช็คสต็อกน้ำมัน 6.15 ล้านบาทจากกองทุนน้ำมันฯโดยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีหน่วยตรวจทั้งหมด 100 หน่วย และในต่างจังหวัดอีก 2.2 พันหน่วย ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบประมาณ 5 พันกว่าคน โดยได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆเช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
รัฐชดเชยราคาเอ็นจีวีให้ปตท.เพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติบอร์ด กพช.วานนี้ กรณีตรึงราคาเอ็นจีวี 8.50 บาท/กก.นั้น ด้วยวงเงินอุดหนุน 300 ล้านบาท/เดือน เป็นการตรึงราคาขายปลีกหน้าปั๊ม แต่ในส่วนของผู้ขาย คือ ปตท.จะได้รับเงินเพิ่ม โดยได้รับการชดเชยประมาณ 2 บาท /กก. เพื่อชดเชยการขาดทุนที่ ปตท.จำหน่ายเอ็นจีวีขาดทุนประมาณ 6 บาท/กก. หรือ 600 ล้านบาท/เดือน จากปริมาณจำหน่ายประมาณ 3,600 ตัน/วัน โดยที่ผ่านมาปตท.มีการขาดทุนสะสม แล้วประมาณ 12,000 ล้านบาท
นักวิชาการติงมาตรการควรสิ้นสุดแค่ปีนี้
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐบาลที่ปรับลดจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในส่วนของดีเซล 2 บาทต่อลิตร เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลขึ้นภาษีสรรพสามิตในระดับสูง จึงควรใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาชดเชยราคาน้ำมัน โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแต่ควรเป็นมาตรการระยะสั้นในปีนี้เท่านั้น เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นในปี 2553 ควรจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันตามปกติ
18ส.ค.สหพันธ์ขนส่งถกขึ้นราคา
นายทองอยู่ คงขันธ์ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันที 18 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณามาตรการด้านพลังงานของรัฐบาล ก่อนที่จะมีการพิจารณาว่า จะมีการปรับขึ้นราคาค่าขนส่งหรือไม่
คลังปัดไม่ลดภาษีน้ำมันบี้กองทุนอนุรักษ์ฯ ลด 2 บาท
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า การพิจารณาลดราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมันดีเซลลงนั้นรัฐบาลไม่มีสูตรในการลดที่แน่นอนตายตัว แต่จะพิจารณาจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองหน่วยงานคือกระทรวงการคลังในแง่ของภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม และในส่วนของกระทรวงพลังงานคือเงินสมทุบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงกองทุนอื่นที่จัดตั้งขึ้นโดยยังไม่ลดในส่วนของภาษีชนิดใดแต่พิจารณาลดในส่วนเงินสมทบกองทุนน้ำมันแทน
ซึ่งเดิมสมัยที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน มีแนวคิดที่จะนำเงินสมทบกองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 7 พันล้านบาทไปใช้ในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนแต่ยังไม่มีทิศทางการดำเนินการใดๆ ที่ชัดเจนและเงินจำนวนดังกล่าวก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ดังนั้นจึงมีความเห็นที่จะลดเงินนำส่งเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ นี้ลง เพราะโครงการขนส่งมวลชนตามนโยบายของรัฐบาลในปัจจุบันใช้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งอยู่แล้ว
“ที่มีข่าวบอกว่า 70 เหรียญต่อบาร์เรลจะลดเงินสมทบกองทุนน้ำมันและ 80 เหรียญจะลดภาษีสรรพสามิตนั้น ยังไม่มีสูตรที่ตายตัว ทุกอย่างจะนำข้อมูลมากองบนโต๊ะเพื่อเปรียบเทียบโครงสร้างภาษีที่ชัดเจนว่าในตัวเนื้อน้ำมันนั้นราคาขายจริงมีส่วนของรัฐบาลเก็บอยู่เท่าใดจากทั้ง 2 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในสภาวะปัจจุบันรัฐบาลเห็นว่าควรอัตราการจัดเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนต่างๆ ลง เพื่อให้ราคาขายหน้าปั๊มลดลงลิตรละ 2 บาท” นายกรณ์กล่าวและคาดว่า หลังเที่ยงคืนวันที่ 11 ส.ค.นี้ ราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง 2 บาท จะมีผลบังคับใช้ เพราะเป็นวันรุ่งขึ้นหลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.ได้มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเสนอเรื่องการลดภาระการจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล ลิตรละ 2 บาทให้ประชาชน ส่วนจะมีผลบังคับใช้เมื่อใดนั้น ตนลงนามตามที่กองทุนอนุรักษ์และส่งเสริมพลังงานเสนอการลดการจัดเก็บรายได้ไปแล้ว เมื่อเช้า(11ส.ค.) ส่วนกองทุนน้ำมันนั้น ก็สามารถดำเนินการได้ทันที
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) วานนี้(11ส.ค.)ว่า ที่ประชุมได้เตรียมพร้อมสำหรับการลดราคาขายปลีกในส่วนของกลุ่มดีเซลตามมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันแพงของรัฐบาลโดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์
พลังงานจังหวัดในการเช็คสต็อกน้ำมันของผู้ค้าทั่วประเทศในช่วงเที่ยงคืนก่อนวันลดราคาขายปลีกจริงโดยยืนยันว่ารัฐจะชดเชยให้กับผู้ค้าน้ำมันที่ซื้อน้ำมันก่อนหน้าที่ราคาแพงด้วยการชดเชยผลขาดทุนที่ยังเหลือให้เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลให้น้ำมันกลุ่มดีเซลขาดแคลน
“ราคาน้ำมันดีเซล(บี 2 )ที่จะลด 2 บาทต่อลิตร ไบโอดีเซลหรือบี 5 ลด 40 สตางค์ต่อลิตรนั้นจะลดได้จริงคงจะต้องรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาคาดว่าเร็วสุดน่าจะมีผลในวันศุกร์นี้”น.พ.วรรณรัตน์กล่าว
นอกจากนี้ยังได้มีการพิจารณาอัตราการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯที่จะมีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ เบนซิน95 จากเดิมเก็บอยู่ 7 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 7.50 บาทต่อลิตร เบนซิน91 จากเดิมเก็บอยู่ 5.70 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 6.20 บาทต่อลิตร เนื่องจากมีการโอนเงินจากกองทุนเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมพลังงานในส่วนที่เก็บไว้สำหรับระบบขนส่ง 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลจากเดิมเก็บอยู่1.70 บาทต่อลิตร ก็ลดเหลือ 0.53 บาทต่อลิตร และไบโอดีเซลบี5 จากเดิมชดเชยอยู่ 0.23 บาทต่อลิตร กลายเป็นชดเชยเพิ่ม 0.81 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ยังคงเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯในอัตราเท่าเดิม
ในส่วนเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสร้างรถไฟฟ้า ที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ รวม 7,000 ล้านบาท นั้น ที่ประชุม กพช. ได้เห็นชอบในหลักการให้ โอนเงินดังกล่าว เข้ามาเป็นเงินกองทุนอนุรักษ์ทั้งหมด เพื่อนำไปส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่จำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้นตามแผนอนุรักษ์ 15 ปี
นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.)กล่าวว่า ทางกรมได้เตรียมเบิกจ่ายเงินผ่านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1,000ล้านบาทในการชดเชยให้กับผู้ค้าน้ำมันหลังจากการปรับลดราคาน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตรมีผล เพื่อป้องกันปัญหาการไม่ยอมไปซื้อน้ำมันใหม่มาจำหน่ายเพื่อรอการระบายน้ำมันเก่าที่เกรงจะขาดทุนโดยรัฐยืนยันจะชดเชยผลการขาดทุนให้ขณะนี้กรมฯได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วเหลือเพียงรอประกาศในราชกิจจานุเษกษาเท่านั้น
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานจะมีงบสนับสนุนเบื้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ในการตรวจเช็คสต็อกน้ำมัน 6.15 ล้านบาทจากกองทุนน้ำมันฯโดยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะมีหน่วยตรวจทั้งหมด 100 หน่วย และในต่างจังหวัดอีก 2.2 พันหน่วย ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบประมาณ 5 พันกว่าคน โดยได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆเช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
รัฐชดเชยราคาเอ็นจีวีให้ปตท.เพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติบอร์ด กพช.วานนี้ กรณีตรึงราคาเอ็นจีวี 8.50 บาท/กก.นั้น ด้วยวงเงินอุดหนุน 300 ล้านบาท/เดือน เป็นการตรึงราคาขายปลีกหน้าปั๊ม แต่ในส่วนของผู้ขาย คือ ปตท.จะได้รับเงินเพิ่ม โดยได้รับการชดเชยประมาณ 2 บาท /กก. เพื่อชดเชยการขาดทุนที่ ปตท.จำหน่ายเอ็นจีวีขาดทุนประมาณ 6 บาท/กก. หรือ 600 ล้านบาท/เดือน จากปริมาณจำหน่ายประมาณ 3,600 ตัน/วัน โดยที่ผ่านมาปตท.มีการขาดทุนสะสม แล้วประมาณ 12,000 ล้านบาท
นักวิชาการติงมาตรการควรสิ้นสุดแค่ปีนี้
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นด้วยกับแนวคิดของรัฐบาลที่ปรับลดจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันในส่วนของดีเซล 2 บาทต่อลิตร เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลขึ้นภาษีสรรพสามิตในระดับสูง จึงควรใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาชดเชยราคาน้ำมัน โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแต่ควรเป็นมาตรการระยะสั้นในปีนี้เท่านั้น เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นในปี 2553 ควรจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันตามปกติ
18ส.ค.สหพันธ์ขนส่งถกขึ้นราคา
นายทองอยู่ คงขันธ์ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันที 18 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณามาตรการด้านพลังงานของรัฐบาล ก่อนที่จะมีการพิจารณาว่า จะมีการปรับขึ้นราคาค่าขนส่งหรือไม่
คลังปัดไม่ลดภาษีน้ำมันบี้กองทุนอนุรักษ์ฯ ลด 2 บาท
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า การพิจารณาลดราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมันดีเซลลงนั้นรัฐบาลไม่มีสูตรในการลดที่แน่นอนตายตัว แต่จะพิจารณาจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองหน่วยงานคือกระทรวงการคลังในแง่ของภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่ม และในส่วนของกระทรวงพลังงานคือเงินสมทุบกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน รวมถึงกองทุนอื่นที่จัดตั้งขึ้นโดยยังไม่ลดในส่วนของภาษีชนิดใดแต่พิจารณาลดในส่วนเงินสมทบกองทุนน้ำมันแทน
ซึ่งเดิมสมัยที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน มีแนวคิดที่จะนำเงินสมทบกองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 7 พันล้านบาทไปใช้ในการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนแต่ยังไม่มีทิศทางการดำเนินการใดๆ ที่ชัดเจนและเงินจำนวนดังกล่าวก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ดังนั้นจึงมีความเห็นที่จะลดเงินนำส่งเข้ากองทุนอนุรักษ์พลังงานฯ นี้ลง เพราะโครงการขนส่งมวลชนตามนโยบายของรัฐบาลในปัจจุบันใช้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งอยู่แล้ว
“ที่มีข่าวบอกว่า 70 เหรียญต่อบาร์เรลจะลดเงินสมทบกองทุนน้ำมันและ 80 เหรียญจะลดภาษีสรรพสามิตนั้น ยังไม่มีสูตรที่ตายตัว ทุกอย่างจะนำข้อมูลมากองบนโต๊ะเพื่อเปรียบเทียบโครงสร้างภาษีที่ชัดเจนว่าในตัวเนื้อน้ำมันนั้นราคาขายจริงมีส่วนของรัฐบาลเก็บอยู่เท่าใดจากทั้ง 2 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในสภาวะปัจจุบันรัฐบาลเห็นว่าควรอัตราการจัดเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนต่างๆ ลง เพื่อให้ราคาขายหน้าปั๊มลดลงลิตรละ 2 บาท” นายกรณ์กล่าวและคาดว่า หลังเที่ยงคืนวันที่ 11 ส.ค.นี้ ราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลง 2 บาท จะมีผลบังคับใช้ เพราะเป็นวันรุ่งขึ้นหลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา.