เขาเป็นใคร มาจากไหน ไม่มีใครรู้ หรือถึงรู้ก็เฉพาะกลุ่ม รู้จักก็จำกัดเฉพาะวงแคบ ในหมู่ขุนศึกทหาร และนักการเมือง
บิ๊กทหารที่โด่งดังเป็นพลุแตกด้วยวาจาเดือด พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการ รมว.กลาโหม ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้อง “วงษ์สุวรรณแฟมิลี่”
ว่าด้วยกรณีนายกรัฐมนตรี เล่นกับไฟ ในเกม “ขุดตอ”
ในประเด็นร้อนเกี่ยวกับสถานะเก้าอี้ ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เกี่ยวโยงกับการสะสางคดีลอบยิง สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ
“ครอบครัววงษ์สุวรรณ ไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว ตอนนี้จะเดินหน้าฟ้องตามกฎหมายทุกอย่าง หรือนอกกฎหมายก็จะทำ”
ขีดเส้นใต้ ใส่ตัวหนาไว้ “นอกกฎหมายก็จะทำ”
ถ้าเป็นหนังคาวบอย ในดินแดนกันดารบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่ต้องพูดกันด้วยปืน เจรจากันด้วยลูกกระสุน หากหล่นคำพูดดิบๆ แนวนี้ก็ต้องถือว่า เล่นบทพระเอก
แต่นี่คือประเทศไทย บ้านเมืองที่มีกฎเกณฑ์ มีกฎหมายไว้ควบคุมพฤติกรรมเกเรของผู้คนในสังคม ผู้ห้าวหาญใช้วาจาแข็งกร้าว ข่มขู่ จึงเป็นได้แค่มาเฟียนักเลงโต !!??
ที่สำคัญ พล.อ.นพดล คงจะลืมไปว่า วันนี้ตัวเองอยู่ในสถานะใด การเป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม กระทรวงที่ดูแล 3 เหล่าทัพ คุมนโยบายด้านความมั่นคงของชาติ
ผู้มีอำนาจสูงสุดในฝ่ายบริหาร นายกฯ จะเพียงแค่ตักเตือนให้ระมัดระวังคำพูดคำจา ไม่รู้จะเพียงพอหรือไม่
หุบปาก จะหยุดความคิดดิบเถื่อนได้หรือ?
อันที่จริง พล.อ.นพดล ก็ถือเป็นอดีตนายทหารใหญ่ ผ่านการทำงานในหน่วยงานของกองทัพ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเคร่งครัดในเรื่องกฎ ระเบียบ วินัย แบบแผนเป๊ะ
เชื่อว่าในรั้วทหารคงขัดเกลาให้ดำรงตนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เพียงเพราะปลดประจำการ พ้นจากหน่วยงานกองทัพ
เมื่อมาดูปูมประวัติของนายทหารรายนี้ พล.อ.นพดล หรือเรียนขานในหมู่ทหารว่า “บิ๊กกี่” คือเพื่อนรักเตรียมทหารรุ่น 6 ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ถึงจะไม่ได้ร่วมเครือข่ายทหารเสือราชินี ไม่เคยไปรับราชการในหน่วยทหารทางกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2รอ.) ในภาคตะวันออก
แต่ก็คือเพื่อนที่แนบแน่นกับ “บิ๊กบราเธอร์บูรพาพยัคฆ์” มากที่สุด
เส้นทางในอาชีพทหารของภายหลังจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สำเร็จการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 6
ชีวิตราชการของ พล.อ.นพดล จะอยู่ที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ พล. 1 รอ.เป็นหลัก
และเมื่อปี 2541 ก็เติบโตพุ่งพรวดในอาชีพทหารแบบโชติช่วงชัชวาล เมื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผบ.พล. 1 รอ. ดูมีอนาคตที่สดใส มากกว่า “บิ๊กป้อม” เสียอีก
แต่แล้วก็มีเหตุพลิกผัน เพราะความเป็นไปบนเส้นทางอนาคต ย่อมกำหนดด้วยตัวเอง เมื่อเกิดกรณีคณะนายทหาร พล.1 รอ.ไปตีกอล์ฟที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน
โดยมี ผบ.พล.1รอ. พล.อ.นพดล เป็นหัวหน้าคณะนำทีมดวลวงสวิงต่างแดน พร้อมกับมีข่าวในช่วงนั้นว่า หลายหน่วยงานในกองทัพบกได้ใช้เงินรายได้จากสถานีวิทยุของ พล.1 ไปในทางที่ไม่คุ้มค่า ด้วยการพากำลังพลไปท่องเที่ยว
ปะเหมาะเคราะห์ร้าย ที่ช่วงเดียวกันนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในสมัยที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางไปราชการพอดิบพอดี
และมีการตั้งคณะกรรมการสอบ แม้ยังไม่มีบทสรุปว่า การยกคณะไปตีกอล์ฟต่างประเทศ มีการลาราชการหรือไม่
แต่“กอล์ฟคุนหมิง”ก็พ่นพิษ!
อนาคตราชการ “บิ๊กกี่” ดับวูบ ถูกโยกไปเข้า“กรุ” ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ขณะที่นายทหารพล.1 และเพื่อนร่วมรุ่น ตท.6 ก็แป้กไปตามๆ กัน
แม้แต่ “บิ๊กป้อม” ที่กำลังไต่ไลน์อำนาจ ในกองทัพภาคที่ 1 ก็ต้องโดนลูกหลง หลุดวงโคจร เส้นทางราชการสะดุดไปด้วย!
ถึงยุค ผบ.ทบ.ที่ชื่อ “สุรยุทธ์” จะเป็นช่วงแห่งความยากลำบาก แต่เมื่อถึงยุคไทยรักไทย “บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ขึ้นเป็น รมว.กลาโหม
กลายเป็นยุคทองของ ตท.6 “บิ๊กกี่-บิ๊กป้อม”
โดยเฉพาะพล.อ.นพดล ที่สนิทสนมกับ“บิ๊กเหวียง”ระดับพี่เลิฟน้องรัก สนับสนุนค้ำชูกันมา เมื่อพี่ขึ้นเป็นใหญ่ น้องก็ถูกเรียกใช้งาน “บิ๊กกี่” จึงพ้นจากกรุ มาเป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม
แม้เส้นทางจะสะดุดไปไม่ถึงฝัน แต่ก็ยังจบชีวิตราชการด้วยยศพลเอก ในที่สุด
ส่วนสัมพันธ์ ระหว่าง“บิ๊กป้อม” กับ พล.อ.เชษฐา ที่ถือเป็นรุ่นพี่ที่น้องๆ ในหน่วยทหาร พล.ร.2 รอ. เคารพรัก และ“บิ๊กป้อม” ก็คือทายาทที่ก้าวเดินตามกันมา
และ“บิ๊กเหวียง”ก็คือเสียงสำคัญ ที่สนับสนุน “บิ๊กป้อม” ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
ไม่เท่านั้น เมื่อพล.อ.เชษฐา เข้าเล่นการเมือง ก็ช่วยขยายคอนเน็กชั่นของเครือบิ๊กทหาร ตท.6 สยายปีกไปกว้างไกล
ในสาย“นักการเมือง”
เริ่มต้นที่ภาคตะวันออก ในสาย “ไดโนเสาร์วังน้ำเย็น” เสนาะ เทียนทอง นักการเมืองถิ่นบูรพาทิศ จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ที่ตั้งหน่วยทหารที่ “บิ๊กเหวียง-บิ๊กป้อม" เติบโต
ในสาย “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มีลูกสะใภ้ของ“บิ๊กเหวียง” อย่าง “หมวยเหน่ง” อรทัย ฐานะจาโร อยู่ในเครือข่ายเจ้าแม่กทม. ในพรรคไทยรักไทย
“บิ๊กกี่-บิ๊กป้อม” ก็พลอยได้เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองนี้
โดยเฉพาะ“บิ๊กกี่” ที่บรรดาผู้แทนฯในระบอบทักษิณ ต่างรู้จักคุ้นเคยกันดี ว่าใจนักเลง พึ่งพาได้ การประสานงานเรื่องงบฯ เรื่องกำลังทหารไปพัฒนาหาเสียงพื้นที่ต่างๆ นายทหารรายนี้จัดการให้เสร็จสรรพ ตามออเดอร์!
เป็นขวัญใจของส.ส.ไทยรักไทย
ถึงตรงนี้ จึงสรุปได้ว่า คอนเน็กชั่นของ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มีแค่ก๊วน 3 ป.ในกองทัพ ไม่ได้เป็นแก๊ง 4ป. ที่รวมบิ๊กสีกากี น้องชาย “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท เข้าไปด้วย และไม่ใช่เป็นเพียงแค่ กลุ่ม 4 ป. บวก 1 น. และ 1 ท. ที่มี เนวิน ชิดชอบ และ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ 2 นักการเมืองจากพรรคภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์เท่านั้น
ที่สำคัญมี “บิ๊กกี่” เป็นข้อต่อเชื่อมสำคัญ สำหรับ “บิ๊กป้อม” และเครือข่าย
จึงไม่แปลก วันนี้ที่จะมีการเชื่อมโยง “บิ๊กเหวียง-บิ๊กป้อม-บิ๊กกี่” และเครือข่าย 4 ป. ไปยัง จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารชั้นประทวน ที่ถูกหมายจับคดีลอบสังหารสนธิ
“จ่าปัญญา” มือดีที่ “บิ๊กเหวียง” วางใจใช้งาน และบรรดาน้องๆ ก็รู้จักมักคุ้นเช่นกัน
สำหรับ “บิ๊กเหวียง” แม้จะถือเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ก็ถูกกันออกไปแล้ว เพราะคอนเน็กชั่นที่มี... น้องๆ จะนำไปใช้อย่างไรในภายหลัง ผู้เป็นพี่ไม่จำเป็นต้องรับรู้ไปทุกเรื่อง !
แต่ที่แปลก และต้องจับตา ว่าจะเกี่ยวข้องกับ ก๊วนเพื่อนรัก กลุ่ม ตท.6 พล.อ.ประวิตร และพล.อ.นพดล กับคดีอุกฉกรรจ์
เพราะในเวลาเดียวกับมรสุมที่โหมกระหนำ “3 ป.” โดย “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ได้เปิดข้อมูลใหม่
“เสธ.แดง” ผู้ที่เคยไปฝึกการใช้อาวุธ จัดตั้งกองกำลังให้คนเสื้อแดง และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพียงสั่งตั้งกรรมการสอบ แต่ไม่มีบทสรุปใดๆ ออกมา
“เสธ.แดง” ที่รู้ลึกเรื่องการลอบยิงระเบิดใส่ม็อบพันธมิตรฯ ว่าเป็น “กฐินสามัคคี” มี “หลายบิ๊ก” จากหลายวงการร่วม“ลงขัน”
“เสธ.แดง” ที่เริ่มถูกระแวงจาก“คนเสื้อแดง” ว่าไม่ “แดงจริง” แต่เป็นมืองานของ“บิ๊กสีเขียว”ส่งไปแทรกซึม หาข่าว?
วันนี้ “เสธ.แดง” นายทหารจากองทัพบก ภายใต้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดอย่าง “บิ๊กป๊อก” ออกมาปล่อยข้อมูลอีกด้าน ทั้งในรายการวิทยุ และผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว
ชี้เป้าไปที่ “ผู้บงการ” ในคดีลอบสังหารแกนนำพันธมิตรฯ ตัวจริงอยู่ในสาย “บ้านใหญ่”กลุ่มอำมาตย์เก่า ศูนย์รวมผู้มีบารมี ที่เสาฐานบัญชาการโยกคลอนด้วยถูกถล่มหนัก
มืองาน ผบ.ทบ. เขี่ยลูกออกจากฝ่าย 3 ป. ?
เหมือนจงใจพุ่งเป้าไปที่กลุ่ม “อำมาตย์เก่า” ที่มีสมาชิกคนสำคัญ ที่พี่เลิฟ ตท. 6 ของ ผบ.ทบ. ที่ถูกจับตาว่ากำลังสร้างขั้วอำนาจ “อำมาตย์ใหม่” ขึ้นมาทาบบารมี
“คนสำคัญ” ที่“บิ๊กกี่-บิ๊กป้อม” แค้นฝังหุ่น!?
บิ๊กทหารที่โด่งดังเป็นพลุแตกด้วยวาจาเดือด พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการ รมว.กลาโหม ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้อง “วงษ์สุวรรณแฟมิลี่”
ว่าด้วยกรณีนายกรัฐมนตรี เล่นกับไฟ ในเกม “ขุดตอ”
ในประเด็นร้อนเกี่ยวกับสถานะเก้าอี้ ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เกี่ยวโยงกับการสะสางคดีลอบยิง สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ
“ครอบครัววงษ์สุวรรณ ไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว ตอนนี้จะเดินหน้าฟ้องตามกฎหมายทุกอย่าง หรือนอกกฎหมายก็จะทำ”
ขีดเส้นใต้ ใส่ตัวหนาไว้ “นอกกฎหมายก็จะทำ”
ถ้าเป็นหนังคาวบอย ในดินแดนกันดารบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่ต้องพูดกันด้วยปืน เจรจากันด้วยลูกกระสุน หากหล่นคำพูดดิบๆ แนวนี้ก็ต้องถือว่า เล่นบทพระเอก
แต่นี่คือประเทศไทย บ้านเมืองที่มีกฎเกณฑ์ มีกฎหมายไว้ควบคุมพฤติกรรมเกเรของผู้คนในสังคม ผู้ห้าวหาญใช้วาจาแข็งกร้าว ข่มขู่ จึงเป็นได้แค่มาเฟียนักเลงโต !!??
ที่สำคัญ พล.อ.นพดล คงจะลืมไปว่า วันนี้ตัวเองอยู่ในสถานะใด การเป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม กระทรวงที่ดูแล 3 เหล่าทัพ คุมนโยบายด้านความมั่นคงของชาติ
ผู้มีอำนาจสูงสุดในฝ่ายบริหาร นายกฯ จะเพียงแค่ตักเตือนให้ระมัดระวังคำพูดคำจา ไม่รู้จะเพียงพอหรือไม่
หุบปาก จะหยุดความคิดดิบเถื่อนได้หรือ?
อันที่จริง พล.อ.นพดล ก็ถือเป็นอดีตนายทหารใหญ่ ผ่านการทำงานในหน่วยงานของกองทัพ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเคร่งครัดในเรื่องกฎ ระเบียบ วินัย แบบแผนเป๊ะ
เชื่อว่าในรั้วทหารคงขัดเกลาให้ดำรงตนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เพียงเพราะปลดประจำการ พ้นจากหน่วยงานกองทัพ
เมื่อมาดูปูมประวัติของนายทหารรายนี้ พล.อ.นพดล หรือเรียนขานในหมู่ทหารว่า “บิ๊กกี่” คือเพื่อนรักเตรียมทหารรุ่น 6 ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ถึงจะไม่ได้ร่วมเครือข่ายทหารเสือราชินี ไม่เคยไปรับราชการในหน่วยทหารทางกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2รอ.) ในภาคตะวันออก
แต่ก็คือเพื่อนที่แนบแน่นกับ “บิ๊กบราเธอร์บูรพาพยัคฆ์” มากที่สุด
เส้นทางในอาชีพทหารของภายหลังจบจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สำเร็จการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 6
ชีวิตราชการของ พล.อ.นพดล จะอยู่ที่กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ พล. 1 รอ.เป็นหลัก
และเมื่อปี 2541 ก็เติบโตพุ่งพรวดในอาชีพทหารแบบโชติช่วงชัชวาล เมื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผบ.พล. 1 รอ. ดูมีอนาคตที่สดใส มากกว่า “บิ๊กป้อม” เสียอีก
แต่แล้วก็มีเหตุพลิกผัน เพราะความเป็นไปบนเส้นทางอนาคต ย่อมกำหนดด้วยตัวเอง เมื่อเกิดกรณีคณะนายทหาร พล.1 รอ.ไปตีกอล์ฟที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน
โดยมี ผบ.พล.1รอ. พล.อ.นพดล เป็นหัวหน้าคณะนำทีมดวลวงสวิงต่างแดน พร้อมกับมีข่าวในช่วงนั้นว่า หลายหน่วยงานในกองทัพบกได้ใช้เงินรายได้จากสถานีวิทยุของ พล.1 ไปในทางที่ไม่คุ้มค่า ด้วยการพากำลังพลไปท่องเที่ยว
ปะเหมาะเคราะห์ร้าย ที่ช่วงเดียวกันนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ในสมัยที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางไปราชการพอดิบพอดี
และมีการตั้งคณะกรรมการสอบ แม้ยังไม่มีบทสรุปว่า การยกคณะไปตีกอล์ฟต่างประเทศ มีการลาราชการหรือไม่
แต่“กอล์ฟคุนหมิง”ก็พ่นพิษ!
อนาคตราชการ “บิ๊กกี่” ดับวูบ ถูกโยกไปเข้า“กรุ” ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ขณะที่นายทหารพล.1 และเพื่อนร่วมรุ่น ตท.6 ก็แป้กไปตามๆ กัน
แม้แต่ “บิ๊กป้อม” ที่กำลังไต่ไลน์อำนาจ ในกองทัพภาคที่ 1 ก็ต้องโดนลูกหลง หลุดวงโคจร เส้นทางราชการสะดุดไปด้วย!
ถึงยุค ผบ.ทบ.ที่ชื่อ “สุรยุทธ์” จะเป็นช่วงแห่งความยากลำบาก แต่เมื่อถึงยุคไทยรักไทย “บิ๊กเหวียง” พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ขึ้นเป็น รมว.กลาโหม
กลายเป็นยุคทองของ ตท.6 “บิ๊กกี่-บิ๊กป้อม”
โดยเฉพาะพล.อ.นพดล ที่สนิทสนมกับ“บิ๊กเหวียง”ระดับพี่เลิฟน้องรัก สนับสนุนค้ำชูกันมา เมื่อพี่ขึ้นเป็นใหญ่ น้องก็ถูกเรียกใช้งาน “บิ๊กกี่” จึงพ้นจากกรุ มาเป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม
แม้เส้นทางจะสะดุดไปไม่ถึงฝัน แต่ก็ยังจบชีวิตราชการด้วยยศพลเอก ในที่สุด
ส่วนสัมพันธ์ ระหว่าง“บิ๊กป้อม” กับ พล.อ.เชษฐา ที่ถือเป็นรุ่นพี่ที่น้องๆ ในหน่วยทหาร พล.ร.2 รอ. เคารพรัก และ“บิ๊กป้อม” ก็คือทายาทที่ก้าวเดินตามกันมา
และ“บิ๊กเหวียง”ก็คือเสียงสำคัญ ที่สนับสนุน “บิ๊กป้อม” ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.
ไม่เท่านั้น เมื่อพล.อ.เชษฐา เข้าเล่นการเมือง ก็ช่วยขยายคอนเน็กชั่นของเครือบิ๊กทหาร ตท.6 สยายปีกไปกว้างไกล
ในสาย“นักการเมือง”
เริ่มต้นที่ภาคตะวันออก ในสาย “ไดโนเสาร์วังน้ำเย็น” เสนาะ เทียนทอง นักการเมืองถิ่นบูรพาทิศ จ.ปราจีนบุรี สระแก้ว ที่ตั้งหน่วยทหารที่ “บิ๊กเหวียง-บิ๊กป้อม" เติบโต
ในสาย “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มีลูกสะใภ้ของ“บิ๊กเหวียง” อย่าง “หมวยเหน่ง” อรทัย ฐานะจาโร อยู่ในเครือข่ายเจ้าแม่กทม. ในพรรคไทยรักไทย
“บิ๊กกี่-บิ๊กป้อม” ก็พลอยได้เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองนี้
โดยเฉพาะ“บิ๊กกี่” ที่บรรดาผู้แทนฯในระบอบทักษิณ ต่างรู้จักคุ้นเคยกันดี ว่าใจนักเลง พึ่งพาได้ การประสานงานเรื่องงบฯ เรื่องกำลังทหารไปพัฒนาหาเสียงพื้นที่ต่างๆ นายทหารรายนี้จัดการให้เสร็จสรรพ ตามออเดอร์!
เป็นขวัญใจของส.ส.ไทยรักไทย
ถึงตรงนี้ จึงสรุปได้ว่า คอนเน็กชั่นของ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มีแค่ก๊วน 3 ป.ในกองทัพ ไม่ได้เป็นแก๊ง 4ป. ที่รวมบิ๊กสีกากี น้องชาย “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท เข้าไปด้วย และไม่ใช่เป็นเพียงแค่ กลุ่ม 4 ป. บวก 1 น. และ 1 ท. ที่มี เนวิน ชิดชอบ และ “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ 2 นักการเมืองจากพรรคภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์เท่านั้น
ที่สำคัญมี “บิ๊กกี่” เป็นข้อต่อเชื่อมสำคัญ สำหรับ “บิ๊กป้อม” และเครือข่าย
จึงไม่แปลก วันนี้ที่จะมีการเชื่อมโยง “บิ๊กเหวียง-บิ๊กป้อม-บิ๊กกี่” และเครือข่าย 4 ป. ไปยัง จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารชั้นประทวน ที่ถูกหมายจับคดีลอบสังหารสนธิ
“จ่าปัญญา” มือดีที่ “บิ๊กเหวียง” วางใจใช้งาน และบรรดาน้องๆ ก็รู้จักมักคุ้นเช่นกัน
สำหรับ “บิ๊กเหวียง” แม้จะถือเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ก็ถูกกันออกไปแล้ว เพราะคอนเน็กชั่นที่มี... น้องๆ จะนำไปใช้อย่างไรในภายหลัง ผู้เป็นพี่ไม่จำเป็นต้องรับรู้ไปทุกเรื่อง !
แต่ที่แปลก และต้องจับตา ว่าจะเกี่ยวข้องกับ ก๊วนเพื่อนรัก กลุ่ม ตท.6 พล.อ.ประวิตร และพล.อ.นพดล กับคดีอุกฉกรรจ์
เพราะในเวลาเดียวกับมรสุมที่โหมกระหนำ “3 ป.” โดย “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ได้เปิดข้อมูลใหม่
“เสธ.แดง” ผู้ที่เคยไปฝึกการใช้อาวุธ จัดตั้งกองกำลังให้คนเสื้อแดง และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เพียงสั่งตั้งกรรมการสอบ แต่ไม่มีบทสรุปใดๆ ออกมา
“เสธ.แดง” ที่รู้ลึกเรื่องการลอบยิงระเบิดใส่ม็อบพันธมิตรฯ ว่าเป็น “กฐินสามัคคี” มี “หลายบิ๊ก” จากหลายวงการร่วม“ลงขัน”
“เสธ.แดง” ที่เริ่มถูกระแวงจาก“คนเสื้อแดง” ว่าไม่ “แดงจริง” แต่เป็นมืองานของ“บิ๊กสีเขียว”ส่งไปแทรกซึม หาข่าว?
วันนี้ “เสธ.แดง” นายทหารจากองทัพบก ภายใต้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดอย่าง “บิ๊กป๊อก” ออกมาปล่อยข้อมูลอีกด้าน ทั้งในรายการวิทยุ และผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว
ชี้เป้าไปที่ “ผู้บงการ” ในคดีลอบสังหารแกนนำพันธมิตรฯ ตัวจริงอยู่ในสาย “บ้านใหญ่”กลุ่มอำมาตย์เก่า ศูนย์รวมผู้มีบารมี ที่เสาฐานบัญชาการโยกคลอนด้วยถูกถล่มหนัก
มืองาน ผบ.ทบ. เขี่ยลูกออกจากฝ่าย 3 ป. ?
เหมือนจงใจพุ่งเป้าไปที่กลุ่ม “อำมาตย์เก่า” ที่มีสมาชิกคนสำคัญ ที่พี่เลิฟ ตท. 6 ของ ผบ.ทบ. ที่ถูกจับตาว่ากำลังสร้างขั้วอำนาจ “อำมาตย์ใหม่” ขึ้นมาทาบบารมี
“คนสำคัญ” ที่“บิ๊กกี่-บิ๊กป้อม” แค้นฝังหุ่น!?