xs
xsm
sm
md
lg

"เทือก"เหยียบ"มาร์ค"ลั่น ผบ.ตร.ไม่ลาไม่ตั้งรักษาการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
ASTVผู้จัดการรายวัน-“สุเทพ”เสียงแข็ง“พัชรวาท”ยังไม่ยื่นใบลา จึงไม่มีเหตุหาคนรักษาการ เตรียมประชุม ก.ตร.หาข้อสรุปตั้ง 152 นายพล รับโครงสร้างใหม่ ขอเวลา 2 วันผิดหรือถูกชัดเจน "อภิสิทธิ์"ยอมรับโผ 152 นายพลมีปัญหาข้อกฎหมาย เผย"สุเทพ"เสนอเองต้องดูกันใหม่ ด้าน“พัชรวาท”ลั่นไม่มีปัญหากับนายกฯยันจะทำงานต่อไปจนเกษียณ ขณะที่เด็ก ปชป.ยันไม่มีคนใกล้ชิดนายกฯล้วงโผ

วานนี้(3 ส.ค.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เปิดเผยภายหลังเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ยังไม่ยื่นใบลาไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ จึงยังไม่มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีถึงตัวบุคคลที่จะมาปฏิบัติหน้าที่แทน รอให้ถึงเวลา พล.ต.อ.พัชรวาท ยื่นใบลาก่อน แล้วค่อยมาเริ่มคิดกันว่าจะให้ใครรักษาการอย่างไร เมื่อถามว่าการตั้งบุคคลขึ้นมารักษาการ ต้องเป็นไปตามขั้นตอนอาวุโสหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ชี้นำ รู้ดีกันหมด ซึ่งทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย ถามกันจนมีเรื่อง

เมื่อถามว่าแนวทางการลาไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศของ พล.ต.อ.พัชรวาท ยังเหมือนเดิมตามที่นายกรัฐมนตรี พูดไว้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้บอกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยส่วนตัวยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ต.พัชรวาท เมื่อถามว่าหากถึงเวลา ผบ.ตร.เกิดไม่ยื่นใบลา นายสุเทพ กล่าวว่า พูดให้เป็นเรื่องอย่างนี้

ทั้งนี้การเข้าพบนายกรัฐมนตรีไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแต่ตั้งวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเช้านี้(3ส.ค.) ตนยังไม่ได้คุยกัน และนายกรัฐมนตรี จึงได้เรียกตนไปเล่าให้ฟังว่าช่วงที่ไม่อยู่มีอะไรเคลื่อนไหวอย่างไร ซึ่งสื่อทราบดี และนายกฯ ได้เล่าให้สื่อฟังแล้ว ไม่มีอะไรใหม่สำหรับตน เพียงแค่รับทราบว่าท่านดำเนินการไว้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นการโยกย้ายและคดีจะยุติอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้ถามนายกฯ ตนมีหน้าที่รับคำสั่งโดยนายกฯจะสั่งตนเป็นขั้นเป็นตอนตามลำดับและก็ปฏิบัติตามคำสั่งตามลำดับ เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรี บอกว่าการโยกย้ายจะรอให้ ผบ.ตร.คนใหม่เข้ามาเป็นคนพิจารณาจะทันกับการเกษียณที่จะมีขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลย

**"สุเทพ"ลังเลโผนายพลรอหารือ ก.ตร.

เมื่อถามว่าโผโยกย้ายนายพล 152 ตำแหน่งที่ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อนุมัติไปแล้ว จะยืนยันตามนั้น หรือมีการทบทวนใหม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนมีประเด็นที่จะต้องเชิญประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณาเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้ง แต่ไม่ได้เป็นเรื่องที่สื่อถามมา ที่จะต้องประชุม ก.ตร.และพิจารณาทบทวนบัญชีแต่งตั้งโยกย้าย เพราะขึ้นอยู่กับเรื่องการปรับโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะให้มีผลวันที่ เท่าไหร่ ๆ ประเด็นคือจะทำเรื่องแต่งตั้งไว้ก่อน ที่จะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับหรือจะให้ราชกิจจานุเบกษาประกาศเสร็จแล้วมีผลบังคับแล้ว จึงจะมีการแต่งตั้ง เรื่องนี้จะต้องมีการปรึกษาหารือทบทวนกันใน ก.ตร.

เมื่อถามว่าโผนี้ผ่านการเห็นชอบของก .ตร.แล้วหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า การโยกย้ายแต่งตั้งจริงๆ ได้ผ่านความเห็นชอบของ ก.ตร.มาแล้ว แต่กระบวนการยังไม่จบ ซึ่งเวลานี้มีคนให้ความเห็นแตกต่างกัน ตรงนี้ต้องปรึกษากับ ก.ตร.แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เมื่อถามว่าการแต่งตั้งนายพล ที่จะมารองรับโครงสร้างตำรวจใหม่ สามารถแต่งตั้งไปก่อนที่โครงสร้างใหม่จะเสร็จสิ้นจะทำได้ในทางกฎหมายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า มันยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ข้างหนึ่งว่าได้ อีกข้างบอกไม่ได้ ตรงนี้ต้องทำให้สมบูรณ์ อย่างไรก็ตามในส่วนของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยังตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้ จึงส่งเรื่องกลับไปที่ สตช.ดังนั้นเป็นหน้าที่ตนในฐานะทำหน้าประธาน ก.ตร. ต้องหาข้อสรุปให้ถูกต้อง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เชิญประชุม

เมื่อถามว่านอกจากความชัดเจนเรื่องนี้ เรื่องตัวบุคคลต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จะให้ ก.ตร.โกรธตนด้วยใช่ไหม มันเป็นเรื่องของ ก.ตร.ตนต้องไปพูดใน ก.ตร.เมื่อพูดเสร็จ สื่อค่อยมาถามใหม่ แล้วจะตอบ เมื่อถามว่าทำไม ก.ตร.ถึงได้ลงมติเห็นชอบกับโผ นายสุเทพ กล่าวว่า วันนั้นเห็นชอบกันแล้ว และคิดว่าจะดำเนินการได้แล้ว แต่พอมีคนทักท้วง ก็กลับไปปรึกษาใหม่ได้ ไม่เป็นปัญหา

**ไม่มีการเมืองแทรกแซงโผโยกย้าย

เมื่อถามว่าโครงสร้างใหม่ติดขัดตรงไหน นายสุเทพ กล่าวว่า โครงสร้างใหม่จะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา และต้องระบุว่าให้มีผลวันที่เท่าไหร่ ซึ่งขณะนี้เหลือในขั้นตอนนี้ เมื่อถามว่ากฎหมายระบุว่ามีผลวันที่ 16 ส.ค.นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็พูดกันอย่างนั้น ตนต้องไปตรวจสอบใหม่ ตอนนี้ตนมึนเจอไปหลายเรื่องเหลือเกิน เมื่อถามว่าที่บอกว่าถูกทักท้วงจากฝ่ายการเมืองหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับ ก.ตร.และฝ่ายการเมือง เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ เมื่อเรื่องมาถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก่อนจะดำเนินการต่อไปก็มีการทักท้วง ว่าทำไมไม่รอให้ราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้ก่อน บางคนบอกว่าถ้ารอก็เกิดช่องว่าง ไม่มีคนก็เถียงกันอยู่ตนจึงต้องหาข้อสรุปที่ถูกต้องให้ได้ ขอเวลาให้ตนทำการบ้านสัก 2 วัน หากให้ตอบวันนี้คงจะผิดพลาด เพราะยังรู้ไม่หมด แต่ยืนยันว่าไม่มีฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงโผโยกย้าย มีคนพยายามพูดให้เลอะเทอะกันไปเรื่อย ยังไม่มี

**“มาร์ค”ยอมรับโผมีปัญหาข้อ กม.

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลังหารือกับนายสุเทพ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับผลหารือ แต่ได้เปิดเผยก่อนหารือ เกี่ยวกับกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรี เข้าไปแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการตำรวจนั้น ขอยืนยันว่า ไม่มี และตนไม่มีความกังวลในเรื่องนี้

"จริงๆ ผมอยากจะเรียนว่า ที่ผ่านมามีปัญหาอยู่ทั้งในเรื่องข้อกฎหมาย และมีการครหาร้องเรียนในเรื่องผลประโยชน์พอสมควร เพียงแต่ไม่มีหลักฐาน และรองนายกฯสุเทพ เป็นคนเสนอว่าเรื่องนี้สงสัยจะต้องมาตั้งหลักดูกันใหม่ ท่านเป็นคนเสนอเอง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผมไปบีบ หรืออะไรทั้งสิ้น ผมยังไม่รู้เลยว่า โผคือ อะไร และเรื่องที่บอกว่าการเมืองไม่พอใจนั้น ก็ไม่ใช่ เพราะหน้าที่ของผมเพียงแค่วางตำแหน่งต่างๆ ให้สามารถปฏิบัติตามนโยบายได้ และถือตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ว่าอำนาจของใครอยู่ระดับไหน อย่างไร"

**“พัชรวาท”ยันทำงานจนเกษียณ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จากคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ในระหว่างเดินทางมาเป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรครูฝึกกองร้อยควบคุมฝูงชน รุ่นที่ 3 ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่าไม่มีปัญหาอะไรกับนายกฯ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชา เราเป็นข้าราชการมีวินัย ไม่มีปัญหา คิดว่าคงเป็นการมองภาพที่เกิดจากความเข้าใจผิดมากกว่า ว่ามีความขัดแย้งกัน

“ผมเป็นข้าราชการ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา และไม่เคยท้อแท้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นข้าราชการต้องมีระเบียบวินัย”

พล.ต.อ.พัชราวาท กล่าวต่อว่า ตนกับนายกรัฐมนตรีก็พบปะกันบ้าง แต่ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อปฏิบัติราชการนั้นคาดว่าจะเดินทางในช่วงกลางเดือน ส.ค.นี้ ที่ประเทศจีน และตอนนี้ยังไม่ได้มีการยื่นใบลาแต่อย่างใด เพราะเป็นการไปปฏิบัติราชการต่างประเทศ

“ผมยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร ตำรวจทุกคนเป็นข้าราชการ มีหน้าที่สนองนโยบายรัฐบาล ฉะนั้นตำรวจทุกท่านต้องทำตามหน้าที่คือสนองนโยบายรัฐบาลในสิ่งที่ถูกที่ต้อง และผมก็จะทำงานต่อไปอย่างเต็มที่ไปจนถึงวันเกษียณอายุราชการ”

**ปชป.ปัดคนใกล้ชิด“นายกฯ”ล้วงโผ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแลสะสางคดีของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมีข่าวพาดพิงในลักษณะว่าสิ่งที่นายกฯ เข้าไปแก้ปัญหาเนื่องจากมีเหตุผลที่ไม่พอใจเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ และมีบุคคลใกล้ชิดของนายกฯ เข้าไปแทรกแซงขอตำแหน่งให้กับพรรคพวกว่า ตนได้สอบถามเรื่องนี้กับนายกฯ และคนใกล้ชิดของนายกฯ หลายคนแล้ว ซึ่งเป็นการพาดพิงมาถึงตนด้วยเนื่องจากเป็นโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นคนใกล้ชิดของนายกฯ ด้วย เท่าที่ทราบไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะทุกคนตระหนักดีว่าหน้าที่ของ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมีข้อห้ามอะไรบ้าง แต่มักจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ประจำ ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หรือในหน่วยงานใด ก็จะมีการอ้างว่าฝ่ายบริหารไม่พอใจที่ไม่สามารถไปโยกย้ายแต่งตั้งคนของตัวเองได้

“ขอยืนยันว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ เพราะไม่มีระบบเพื่อนฝูงในสตช. ไม่มีวงศาคณาญาติที่จะปั้นขึ้นมา ให้เจริญก้าวหน้ากระโดดข้ามหัวคนอื่นๆเพื่อรับตำแหน่งเป็น ผบ.ตร. ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนๆ ดังนั้น ถ้าจะมีการปล่อยข่าวอ้างเรื่องนี้ขึ้นมา ก็อยากจะให้แหล่งข่าวได้เปิดเผยหลักฐานว่าคนใกล้ชิดของนายกฯ มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้พิสูจน์ว่ามีจริงหรือไม่ การจะบอกว่ามีหลักฐานในลักษณะที่มีข้อความเป็นลายลักณ์อักษรก็จะได้พิสูจน์กันว่า เป็นเจ้าของเอกสารชิ้นนั้นจริงหรือไม่ หรือเป็นการสวมรอยแอบอ้าง”

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนที่พรรคเพื่อไทยพยายามเปิดข่าวนี้ขึ้นมา และพยายามพูดในลักษณะที่มีสัดส่วนการแต่งตั้งราชการตำรวจในลักษณะ 70-30 ตนคิดว่าพรรคเพื่อไทยก็คงจะเอามาตรฐานความรู้สึกเดิม ของตัวเองที่เคยแทรกแซงหน่วยงานราชการในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พยายามทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐตำรวจดังนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีสัดส่วน 70-30 อย่างที่กล่าวหา

**ปัดสู้นอกกฎหมายไม่เกี่ยว"ประวิตร"

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีที่ระบุว่าจะมีการทำนอกกฎหมาย หากมีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่าสื่อเสนอข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คิดจะทำอะไรที่นอกกฎหมาย เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร ไม่เกี่ยวกับคำพูดของตน ซึ่งตนให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลายคน แต่ไม่รู้ว่าคำพูดนอกกฎหมายหลุดไปตอนไหน ตนจำไม่ได้ แต่ไม่อยากปฏิเสธเดี๋ยวจะหาว่าเลขาฯปลิ้นปล้อน ตลบตะแลงไม่กล้ารับผิดชอบไม่ใช่ลูกผู้ชาย

พล.อ.นพดล กล่าวว่า สิ่งที่พูดไม่เคยคิดว่าจะไปทำการใดในทางที่ผิดกฎหมาย โดยการใช้กำลัง ประทุษร้าย การทำนอกกฎหมาย การทำสิ่งที่มีความรุนแรงเกินขอบเขตกฎหมายจะทำได้อย่างไร ตนเห็นใจ รมว.กลาโหม ถูกสื่อหลายฉบับเอาไปประโคมข่าว ท่านคิดจะทำการนอกกฎหมาย ความจริงท่านไม่รู้เรื่อง ท่านมีแต่นโยบายให้คนในชาติสมานฉันท์

“ทุกอย่างเป็นคำพูดของผม ไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้น ไม่ได้เกี่ยวกับ รมว.กลาโหม หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และการออกมาพูดครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการตัดตอน หากมีอะไรจะเกิดขอให้เกิดกับผมคนเดียว โดยคำพูดดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าจะใช้กำลังทำร้ายใครที่ผิดกฎหมาย อยากให้เรื่องทุกอย่าจบลงตรงนี้ว่าไม่มีใครบุคคลใดเกี่ยวข้องในเรื่องนี้”
กำลังโหลดความคิดเห็น