xs
xsm
sm
md
lg

หักคอให้ทิ้งเก้าอี้ระบุผบ.ตร.ขอพัก!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"อภิสิทธิ์"เผย “ป๊อด”เสนอลาพักราชการไปต่างประเทศ เปิดทาง “ธานี”เดินหน้าสางคดียิง“สนธิ” เต็มที่ ส่วนโผย้ายตำรวจมอบ ผบ.ตร.คนใหม่ดูแล นายกฯเชื่อการทำคดีหลังจากนี้จะไร้อุปสรรค ยังไม่ตั้งใครทำหน้าที่แทน ลั่น"วงษ์สุวรรณ์" ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรนอกกฎหมายหลังประวิตร ขู่ฟ่อเล่นใต้ดิน

วานนี้(31 ก.ค.)หลังจากยื้อกันทั้งวัน เวลาประมาณ 17.10 น.ที่ห้าง ดิ เอ็มโพเรียม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยอมที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ถึงแนวทางการคลี่คลายคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากที่มีข้อสงสัยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นอุปสรรคในการทำคดีว่า ล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เสนอทางออกมาให้แล้ว คือ 1.การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในครั้งต่อไปควรจะมีการทบทวน และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่จะเริ่มงานในวันที่ 1 ตุลาคม มาเป็นคนจัดทำโผการแต่งตั้งโยกย้ายแทน เพื่อไม่ให้มีปัญหาการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2. พล.ต.อ.พัชรวาท มีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลาประมาณ 10 กว่าวัน โดยจะถือโอกาสนี้นั้น ไปต่างประเทศเพื่อปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ หลังจากนั้นจะมีการขอลาราชการต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่เพียงพอที่จะทำให้คดีดำเนินต่อไปได้ โดยไม่มีข้อครหาว่า มีการแทรกแซงจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งสัปดาห์หน้า พล.ต.อ.พัชรวาท จะเดินทางไปต่างประเทศ โดยจะทำหน้าที่ต่อไปถึงสัปดาห์หน้า

ยังไม่กำหนดใครรักษาการ ผบ.ตร.

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า แนวทางนี้จะไม่มีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท โดยจะอยู่ในหน้าที่ต่อไป และบอกไม่ได้ว่า จะให้ใครมารักษาราชการแทนขณะนี้ ซึ่งตนจะเป็นผู้พิจารณาเอง แต่ทีมสืบสวนสอบสวน(ที่มี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.เป็นผู้กำกับดูแล)จะมีเวลาทำงานเพียงพอ และจะมีผลงานออกมาให้เห็นชัดเจนว่า จะเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้ ผบ.ตร.คงจะไม่ลาต่อจนกระทั่งวันเกษียณอายุราชการ แต่เชื่อว่าในช่วงนี้น่าจะมีเวลาพอสำหรับการคลี่คลายคดี

ส่วนกรณีที่ พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตระกูลวงษ์สุวรรณ จะดำเนินการทั้งในและนอกกฎหมายกับคนที่ทำให้เสียหายนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีใครมีสิทธิทำอะไรนอกกฎหมายได้ ตนย้ำอยู่เสมอว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วน ผบ.ทบ.นั้นก็ได้คุยกันแล้วว่าให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา แม้จะมีทหารมาเกี่ยวข้องก็เป้นเรื่องของตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับกองทัพ

เชื่อคดีสนธิเดินหน้าต่อไปได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้คุยกันแล้ว โดยบอกว่าให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ตัดสินใจเอง และไม่เกี่ยวข้องกับการลาครั้งนี้ และยืนยันว่าการเสนอทางออกดังกล่าวไม่มีใครมาบีบ แต่ทำไปเพราะเล็งเห็นว่าจะทำให้คดีเดินหน้าไปได้ โดยที่ระบบบการบริหารงานไม่เสีย แต่ถ้าใครมีแนวทางที่ดีกว่านี้ก็เสนอมา

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ทางออกดังกล่าวน่าจะทำให้สิ่งที่คนที่เคยบอกว่าเป็นอุปสรรคก็คงจะมั่นใจได้ และจากข้อเสนอของ ผบ.ตร. คิดว่าตอนนี้ปัญหาคงไม่มีอยู่แล้ว ส่วนการตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาอุปสรรคในการทำคดีที่เลขาธิการ ก.พ.เป็นประธานนั้นก็อาจจะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยืนยันว่าคณะกรรมการสอบชุดนี้ ไม่มีการสอบวินัย เพราะไม่มีใครกล่าวหาใครเป็นเรื่องเป็นราว มีแต่การพูดถึงปัญหาการทำงาน นอกจากนี้ยังไม่มีการสอบสวน พล.ต.อ.ธานี ตามที่มีกระแสข่าว มีแต่การสอบข้อเท็จจริงว่ามีปัญหาในการทำคดีอย่างไรบ้าง ซึ่ง เลขาธิการ ก.พ.บอกก็ว่า เวลาที่ให้ 7 วันนั้นไม่พอ แต่จะขอยืดเวลาออกไปหรือไม่ ขั้นอยู่กับทาง ก.พ.เองว่าควรจะทำต่อหรือไม่ เพราะจริงๆ แล้ว ไม่มีใครอยากให้ยืดเยื้อ มันต้องจบ ไม่เช่นนั้นจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย

ยันบรรลุวัตถุประสงค์ 3 อย่าง

เมื่อถามว่ารู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนจะสบายใจก็ต่อเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เอาคนผิดมาลงโทษ เมื่อถามว่าพูดได้หรือไม่ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้ทำตามคำสั่งใคร นายกฯ กล่าวว่า ใครจะสั่งตนได้ ผบ.ตร.เสนอมาเอง ตนก็เห็นชอบด้วย ตนก็เห็นมีแต่คนบอกว่ามีคนจะบีบให้ตนปลด มีทั้งบีบและไม่บีบ ซึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง 2 อย่าง ใครจะมาบีบ เมื่อถามว่าสุเทพ ยังอยู่ในตำแหน่งต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา นายสุเทพ จะลาออกไปไหน เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายสุเทพ ไม่พอใจ นายกฯ ย้ำว่า แล้วนายสุเทพ ไปไหน ผบ.ตร.เสนอมาเอง เมื่อถามว่านายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ แนะนำว่าจะปลดใครต้องระมัดระวัง นายกฯ กล่าวว่า ถูกต้อง ตนได้คุยกับนายชวน ตั้งแต่วันที่ไปอวยพรวันคล้ายวันเกิด ตนตระหนักในคำแนะนำอย่างดีว่าการดำเนินการอะไรโดยเฉพาะในระบบราชการต้องให้ความเป็นธรรมและดูข้อกฎหมายอย่างชัดแจ้ง

เมื่อถามว่ามีสเปก ผบ.ตร.คนใหม่หรือยัง นายกฯ กล่าวว่า อย่าไปพูดเรื่องนั้นเลย เมื่อถามว่าได้คุยกับนายสนธิหรือยังหลังการตัดสินใจ นายกฯ กล่าวว่า นายสนธิ จะมาถามตนหรือเปล่า เมื่อถามว่านายสนธิ คือผู้เสียหาย นายกฯ กล่าวว่า ใช่ เขาคือผู้เสียหาย เมื่อถามว่าคิดว่าผู้เสียหายจะพอใจกับการตัดสินใจหรือไม่ นากยกฯ กล่าวว่า คุณสนธิคือผู้เสียหาย ไม่ใช่พนักงานสอบสวน ที่จะบอกว่าคนนั้นผิด คนนี้ถูก และตนก็ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน สนธิ หรือใครก็ตาม และตนฟังจากคนที่เขาทำงานด้านการสอบสวนสืบสวนอย่างชัดเจน ว่ามีอุปสรรคตรงไหน และคิดว่าได้ขจัดไปแล้ว ดังนั้นคุณสนธิ ในฐานะผู้เสียควรพอใจ ถ้ามีอะไรมากกว่านี้คงเป็นเรื่องอื่นแล้ว

เมื่อถามว่าระหว่างที่ ผบ.ตร.ปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ และ ป.ป.ช.ชี้มูลความิดทางอาญา นายกฯ กล่าวว่า คนละเรื่องกัน ไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าคิดว่าฝ่ายการเมือง และสังคม จะพอใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ได้ทำความชัดเจน บรรลุวัตถุประสงค์ 3 อย่าง คือ คดีเดินไป ให้ความเป็นธรรม และรักษาองค์กร

"ปานเทพ"ห่วง ผบ.ตร.ยังมีอำนาจ

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ให้สัมภาษณ์ทางเอเอสทีวีว่า ถือเป็นทางออกที่ดีที่จะทำให้คดีเดินหน้าไปได้โดยไม่ทำให้ใครเสียหน้า แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท จะยังมีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจอยู่หรือไม่ และการลาราชการครั้งนี้จะเป็นการลับลวงพรางหรือไม่

"สุริยะใส"หวั่นลับ ลวง พราง

ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวดูแล้วยังอึมครึม และดูเป็นการแก้ปัญหาภายในรัฐบาลมากกว่าที่จะแก้ปัญหาที่เป็นที่แคลงใจของสังคม ดังนั้น จากนี้ไปนายกฯ ต้องตอบ 3 คำถามให้ชัดคือ 1.จะตั้งใครเป็นรักษาการ ผบ.ตร. 2.ที่บอกว่าระหว่างนี้จะไม่มีการทำโผโยกย้ายจนกว่จะมี ผบ.ตร.คนใหม่นั้น เป็นการระงับจริงหรือไม่ จะไม่ให้มีการลับลวงพรางในการแต่งตั้งโยกย้ายได้อย่างไร 3.ความชัดเจนเรื่อง"ตอ" ยังไม่มี ท้ายที่สุดจะเป็นแค่การสร้างบรรยากาศให้ทีมสอบสวน โดยที่ยังไม่แน่ใจว่า ทีมสอบสวนจะมีจิตใจที่จะสอบสวนต่อหรือเปล่า เพราะด้านหนึ่งก็ถูกสอบสวนโดยกรรมการชุด ก.พ. และดูเหมือนว่าจะไปกล่าวหาทีมสอบสวนฐานให้ร้ายผู้บังคับบัญชาที่ออกมาพูดเรื่องตอมากกว่า

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะมีหลักประกันอะไรว่าคดีลอบยิงนายสนธิ จะคืบหน้าไปมากกว่านี้ และการที่นายกฯ บอกว่าไม่เจอเตอ ทำให้คนมองว่า พล.ต.อ.ธานี เอาความเท็จมาพูดหรือไม่ นอกจากนี้ถ้าจะค้นหาตอจริงๆ น่าจะตั้งกรรมการที่จริงจังกว่านี้ เพื่อเอาข้อเท็จจริงมาตีแผ่ แต่คณะกรรมการชุด ก.พ.เหมือนไปแอบๆ ทำกัน 7 วันมาแล้ว ไม่มีใครทราบเลย และไม่ได้รายงานายกฯ เป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เรื่องตอดูเป็นนิยายลวงโลกไปเลย และกลายเป็นว่าจะไปสอบเรื่องการให้ร้ายผู้บังคับบัญชาไป

"พัชรวาท"มุดบ้านพิษณุโลกพบนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น เวลา 10.45 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ายังบ้านพิษณุโลก โดยก่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล ทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯ ได้นำรถขวางขบวนสื่อมวลชน ไม่ให้ติดตาม พร้อมอ้างว่านายกรัฐมนตรีขอ ว.5 “ส่วนตัว” อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนได้ติดตามมาที่บ้านพิษณุโลก ปรากฎว่าทั้งรถประจำตำแหน่งและรถนำขบวนรวมทั้มทีมรักษาคสามปลอดภัย จอดอยู่ภายในบ้าณพิษณุโลก โดยมีรถของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จอดอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามมีการปล่อยข่าวลือสะพัดว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพัธมิตร เข้าร่วมหารือด้วย ทั้งนี้ไม่ปรากฎตัวของนายสนธิ แต่อย่างใด จากนั้นเวลา 11.45 น.รถของ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เคลื่อนขบวนออก ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยังคงอยู่หารือต่อกับนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และออกจากบ้านพิษณุโลกในเวลา 12.40 น. เดินทางมายังศูนย์บริการสาธารณสุข 49 สาขาแจ่ม-ดำควรชม สำนักอนามัย กทม. เพื่อบันทึกรายการสปอร์ตโฆษณาผลงานรัฐบาลโอกาสบริหารประเทศครบรอบ 6 เดือน โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี อัดรายการสปอร์ต ทางเจ้าหน้าที่ถ่ายทำ ได้ให้นายกฯถ่ายซ้ำหลายครั้งจนนายกรัฐมนตรี บ่นออกมาว่า คำพูดที่เตรียมไว้ให้ มันไม่ลื่นไหล ทำให้ต้องถ่ายซ้ำหลาย จะโทษกันไม่ได้ ขณะที่นายกฯออกอาการหงุดหยิดเป็นระยะๆ

“ชวน”เตือนปลด“พัชรวาท”ระวัง

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคดีของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่กำลังมีปัญหา และอาจจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลว่า คดีนี้เกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาทำหน้าที่ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของใครก็ตามที่มีอำนาจอยู่ ต้องดำเนินการต่อไป แต่คิดว่าเรื่องของคดีต้องให้เวลา อย่าเพิ่งไปคาดคั้นถ้าหลักฐานไม่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นรูปคดีจะเสียได้ จึงควรต้องให้เวลาจนกว่าจะสามารถสืบสวนสอบสวนได้ข้อเท็จจริงชัดเจน และอย่ารีบร้อนจนเกินไป

อย่างไรก็ตาม เห็นว่าไม่ต้องเป็นห่วง เชื่อว่านายกรัฐมนตรี สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งการสอบสวนเป็นเรื่องของตำรวจ แต่รัฐบาลไม่มีหน้าที่ควบคุมกระบวนการ หากเจ้าหน้าที่ไม่ยุติธรรม ต้องไปดูแล

“วันนี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าอะไรเป็นอะไร ต้องให้เวลาทำงาน รัฐบาลจะไปสั่งผิดสั่งถูกไม่ได้ หรือจะไปสั่งว่า คดีควรเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ต้องอยู่ที่พยานหลักฐาน เรื่องอุปสรรคการทำงานก็ได้ยิน แต่ไม่ทราบว่าเป็นอุปสรรคจากใคร ต้องไปถาม พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดร้องว่ามีปัญหา นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐบาลต้องมีหน้าที่ต้องช่วยแก้ปัญหา” นายชวนกล่าว

ส่วนกระแสข่าวการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ที่เกิดขึ้น นายชวน กล่าวว่า ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าเหตุผลคืออะไร และการจะพิจารณาโยกย้ายใคร ต้องดูกระบวนการ องค์ประกอบของระเบียบราชการ ไม่ใช่จู่ๆ จะไปปลด หรือจะทำอะไรใครก็ได้ แม้มีอำนาจแต่จะต้องดูว่าเงื่อนไขที่ทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างไร ไม่ใช่อยู่เฉยๆจะไปปลด หากทำเช่นนั้นจะถูกฟ้องศาลปกครองได้

ส่วนที่มีข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ไม่พอใจ ถึงกับจะลาออกถ้าปลด ผบ.ตร. นายชวน กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่คิดว่าพล.อ.ประวิตร จะเป็นคนพูด
กำลังโหลดความคิดเห็น