xs
xsm
sm
md
lg

ข้อพิรุธ! “วงษ์สุวรรณ” ร้อน “ตอ”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร)
ทันทีที่ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) ตัดสินใจค้าความ ยื่นฟ้องหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน พร้อมนายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ต่อศาลอาญา ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136, 326, 328, 332

โดยที่ในคำฟ้องทนายความของ “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” บรรยายฟ้องว่า เขาถูกใส่ร้ายกรณี ASTVผู้จัดการรายวัน นำเสนอข่าวเปิดโปงเกาะติดวันต่อวัน ต่อกรณีปัญหาอุปสรรคการทำคดีลอบยิง “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ของชุดสืบสวนภายใต้การนำของ “พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” รอง ผบ.ตร.โดยเฉพาะประเด็น “เจอตอ” รวมทั้งคำสั่งให้ “พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ” หนึ่งในทีมสืบสวนแกะรอยเส้นทางโทรศัพท์ ลงไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะสั่งย้ายกลับมาทำคดี

จากข้อสงสัยของสื่อ และประชาชนทั้งประเทศว่า ทำไมคดียิง “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ทั้งที่เหตุเกิดใจกลางกรุงอย่างอุกอาจในช่วงประเทศประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีทหารยืนถืออาวุธปืน อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และทุกสี่แยกในเขตเมือง โดยที่คนร้ายหลบหนีไปได้ และทำไมคดีจึงไม่คืบหน้า จึงถือเป็นเรื่องธรรมดาของสื่อทุกสื่อที่นำเสนอข่าวนี้แบบเจาะลึก ว่าปัญหาของคดีเกิดจากเรื่องใด

อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปก่อนวันฟ้อง ASTVผู้จัดการรายวัน ของ “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ถือว่ามีข้อน่าสงสัยอยู่ เริ่มจากประเด็นเอก ประเด็นแรก...ที่ “พัชรวาท” นำมาสู้เพื่อต้องการให้สังคมรับรู้ว่า เขาไม่ใช่ “ตอ” คือกรณีคำสั่งย้าย “พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ” ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่ง ผกก.6 รน.จ.สุราษฎร์ธานี โดยหลังข่าวเรื่องนี้ถูกนำเสนออย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19 จนถึงวันที่ 30 ก.ค.ซึ่งเป็นวันที่ “พัชรวาท” ยื่นฟ้อง ทั้งทีมโฆษก ตร.และ ตัว “พัชรวาท” เองก็ไม่ได้ออกมาชี้แจง ถึงความถูกต้องในการย้าย “พ.ต.อ.วิวัฒน์” แต่อย่างใด และปล่อยให้ประชาชนและสื่อ ต่างเข้าใจว่า “พ.ต.อ.วิวัฒน์” เขาถูกกลั่นแกล้ง

และแล้วข้อพิรุธของประเด็นนี้ได้เกิดขึ้น เมื่อทีมงานโฆษกตร.ได้นำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงและมูลเหตุที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ฟ้องหนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน ที่แจกสื่อเมื่อวานที่ผ่านมา (30 ก.ค.) โดยอ้างว่า เมื่อวันพุธที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.มงคล กมลบุตร ในฐานะที่ปรึกษาของศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปนม.ตร.) เข้าพบ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ปนม.ตร.เพื่อเสนอข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง

ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.บุญเรือง ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ เป็นหัวหน้าชุดดำเนินการ อย่างเร่งด่วน รวมทั้งมอบให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ ตรวจสอบการกระทำผิดการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในช่วงที่มีการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอาเซียนที่ จ.ภูเก็ต ด้วย

ต่อมาวันที่ 16 ก.ค. พล.ต.อ.พัชรวาท ได้สั่งการมอบหมายให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ เข้าร่วมทีมสืบสวนคดีลอบสังหารนายสนธิ ทำให้ พล.ต.ท.บุญเรือง ยกเลิกคำสั่งให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนขบวนการน้ำมันเถื่อนชั่วคราว

โดยที่ประเด็นนี้ ถือว่า “พัชรวาท” จะนำไปสู้ในชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เขาไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ทำไมก่อนหน้านี้ “พัชรวาท” และคู่ซี้ที่ชื่อ “บุญเรือง” ไม่ออกมาชี้แจง....ให้สื่อรับทราบข้อเท็จจริง เหตุผลเพื่ออะไร หรือเพิ่งไปพบหลักฐานชี้นนี้ขึ้นมา ในภายหลัง...


ประเด็นต่อมา...ถามว่า ทำไม “พัชรวาท” จึงตัดสินใจฟ้องในช่วงกระแสข่าวปลดรุนแรงที่สุด และ ก่อน 1 วัน ที่ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี จะสรุปคดียิงนายสนธิ และความชัดเจน ต่อตัว “พัชรวาท” ว่าจะอยู่หรือไป ซึ่งประเด็นเรื่องนี้ “พล.อ.นพดล อินทปัญญา” หรือ “บิ๊กกี๋” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” พี่ชายพัชรวาทได้ออกมาให้คำตอบ ชนิดชัดถ้อยชัดคำว่า “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็นคนสั่งให้ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ผบ.ตร.ในฐานะน้องชาย ไปดำเนินการฟ้องร้องเอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน และพวกที่กล่าวหา

พร้อมกับคำพูดเสียงดังๆว่า “ตอนนี้ไม่ยอมแล้ว จะเอาจริงเอาจังกับเรื่องทีเกิดขึ้น เพราะถือว่ายอมมามากแล้ว และเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำฝ่ายเดียว ตอนนี้จะเดินหน้าฟ้องตามกฎหมายทุกอย่างหรือ นอกกฎหมายก็จะยอมทำ”

นอกจากนั้นยังได้วางระเบิดเวลาลูกใหญ่ ไว้ว่า ...หากนายกฯ มีการปลด ผบ.ตร. ทาง รมว.กลาโหมจะลาออกจากตำแหน่ง โดยยืนยันว่า พวกญาติพี่น้อง "วงษ์สุวรรณ" จะต่อสู้เพราะทนไม่ไหว ท่าน ผบ.ตร. ผิดตรงไหน และเอาเหตุผลอะไรมาปลดท่าน

อีกประเด็น...การยื่นฟ้องครั้งนี้ เกิดจากรายงานของ “พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์” รอง ผบ.ตร.ที่ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกรัฐมนตรี พูดย้ำอยู่เสมอ หรือไม่ว่า ในรายงานไม่ได้ระบุว่า “พล.ต.อ.พัชรวาท” คือ ปัญหาอุปสรรคของคดี หรือ ตอ ในคดีนี้ ขณะที่"นายสุเทพ"ก็ยืนยันตลอดว่า “พัชรวาท” ไม่ผิด และไม่ใช่ตอ จึงทำให้ หลายคนสงสัยว่า การต่อสู้คดีระหว่าง"พัชรวาท กับ ASTVผู้จัดการ"จะเกิดเหตุการฝ่ายโจทก์ ยื่นชื่อ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นพยานในชั้นศาลหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ เชื่อว่าจะเกิดข่าวใหญ่อีกครั้ง

ประเด็นสุดท้าย...กรณี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสมาชิกสภานิติบัญญัติ กล่าวในรายการ “คนในข่าว” ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อกรณีข่าวที่ว่านายสุเทพเตรียมตั้งกรรมการขึ้นมาสอบ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.และทีมสอบสวนคดียิงนายสนธิ ในข้อหาที่ออกมาพูดว่าการทำคดีเจอตอทำให้คนสงสัยผู้บังคับบัญชา...ซึ่งเรื่องนี้ แม้จะยังไม่ได้รับคำตอบจาก “นายสุเทพ” ก็ตามที แต่ทำไมข่าวนี้ได้เกิดพร้อมๆ กับวันที่ “พัชรวาท” ยื่นฟ้อง ASTVผู้จัดการรายวัน...และหากข่าวเป็นจริง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ก็จะกลายเป็นเหยื่อของคดีอย่างสมบูรณ์แบบ ตามที่ ASTVผู้จัดการ เคยวิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้....

ดังนั้น วันนี้ “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” จะถูกคำสั่งปลดพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่ นายกรัฐมนตรีจะมีความชัดเจนในคดียิงนายสนธิ ไปในทิศทางใด... แต่สำหรับคดีหมายเลขดำที่ อ.2660/2552 ระหว่าง “พัชรวาท และ ASTVผู้จัดการ” คงต้องไปพิสูจน์กันในชั้นศาล ...ว่าท้ายสุดแล้วอำนาจของผู้เป็นใหญ่ในบ้านเมืองจะอยู่เหนือความยุติธรรม ได้หรือไม่ !!!

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
กำลังโหลดความคิดเห็น