“สนธิ”กระตุกต่อมกล้าหาญ “มาร์ค”เร่งย้าย “พัชรวาท”พ้น สตช.หลัง ผบ.ตร.ออกมาสวน ไม่ลาพักราชการยาว เพื่อเปิดทางทีมสอบสวนคดีลอบยิง แถมพี่ชายที่เป็น รมว.กลาโหมยังออกมาข่มขู่ใช้วิธีการนอกฎหมาย กับคนที่ย้ายน้องชาย แนะใช้คดีทุจริตงบฯ 18 ล้าน ย้ายช่วยราชการสำนักนายกฯ ได้ทันที พร้อมตะเพิด “สุเทพ”พ้นพรรค ไม่เช่นนั้นจะจบชีวิตทางการเมือง แถมทำ ปชป.ตกต่ำ
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 31 ก.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ มาร่วมรายการ โดยได้กล่าวถึงงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่ามีทางออกในการที่จะทำให้คดีลอบยิงนายสนธิคืบหน้าโดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จะลาพักราชการไปต่างประเทศ เพื่อให้ทีมสอบสวนได้ทำงานอย่างเต็มที่และจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับโผโยกย้ายตำรวจอีก แต่ล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาทกลับให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่าไม่ได้ลาพักราชการ แค่ไปราชการต่างประเทศประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นจะกลับมาทำงานตามปกติ โดยนายสนธิกล่าวว่า เห็นใจนายกฯ ที่พยายามอย่างสุดความสามารถ แต่นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่คนที่จะมาบู๊ล้างผลาญ และเป็นคนมีหลักการ
นายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมตั้งคำถามว่า น้องชายผิดอะไรถึงจะมาปลดว่า พล.อ.ประวิตรสามารถถามได้หากไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม แต่การถามตอนเป้ฯรัฐมนตรีถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง พล.อ.พัชรวาทนั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนายกฯ เพียงแต่มอบหมายให้นายสุเทพดูแลแทน การที่นายกฯ จะตัดสินใจโยกย้ายใคร หรือให้ใครออก ย่อมมีสิทธิในฐานะหัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน และ สตช.ก็ขึ้นตรงนายกฯ
นายสนธิกล่าวต่อว่า พล.ต.อ.พัชรวาทผิดอย่างไรนั้นไม่อยากมาต่อล้อต่อเถียง แต่ความบกพร่องนั้นมีเยอะมาก นับตั้งแต่กรณีที่ตำรวจอยู่เฉยๆ ในเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงล้มการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา การทุจริตงบประมาณประชาสัมพันธ์ 18 ล้านบาท ของ สตช.สมัยที่ พล.ต.อ.พัชรวาทเป็นรอง ผบ.ตร.ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนและพบว่ามีมูล ซึ่งได้เสนอนายกฯ สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชไปแล้ว และในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เคยย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เพื่อที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว แต่พอนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล เป็นรักษาการนายกฯ ก็ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทกลับมาเป็น ผบ.ตร.อีกโดยที่ยังไม่ตั้งกรรมการสอบ นอกจากนี้แล้ว พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิด ในคดี 7 ตุลาฯ ซึ่ง ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหาว่าผิดวินัย รวมทั้งผิดวินัยร้ายแรง และผิดคดีอาญา
“แต่ประเด็นไม่อยู่ที่ผิดแค่ไหน ผิดอย่างไร ไม่ใช่หน้าที่ของ พล.อ.ประวิตรที่จะออกมาถามว่าน้องผมผิดตรงไหน ถ้าอย่างนั้นแล้วอีกหน่อยใครเป็นรัฐมนตรี ถ้ามีญาติที่จะถูกปลด ถูกย้าย ก็จะออกมาถามกันหมดว่า ผิดตรงไหน”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณี พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขาณุการ ของ พล.อ.ประวิตรยังออกมาขู่ว่าถ้าย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทจะตอบโต้ทั้งวิธีการในกฎหมายและนอกกฎหมาย โดยอ้างว่าตระกูลวงษ์สุวรรณถูกเล่นงานมานาน และ พล.ต.อ.พัชรวาทได้ไปฟ้องดำเนินคดีกับ นสพ.เอเอสทีวี-ผู้จัดการแล้วนั้น อยากให้ พล.อ.นพดล อินทปัญญา พูดใหม่ ถ้า พล.อ.ประวิตรไม่ได้บอกให้พูด ก็ต้องแก้ข่าว ถ้าไม่แก้ก็แสดงว่ากำลังข่มขู่นายกฯ ข่มขู่ตน และข่มขู่เอเอสทีวี
“ที่ผมโดนยิงพวกนอกกฎหมายยิงหรือเปล่า ก็นอกกฎหมายใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นทำนอกกฎหมายคือทำอะไร คุณเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ถ้าเกิดขณะนี้ผมได้ข่าว มีการจัดทีมจะยิงผมอีกครั้ง ผมไม่รู้ ขอตั้งคำถามว่า คุณจะเกี่ยวด้วยหรือเปล่า เพราะคุณบอก แม้กระทั่งนอกกฎหมายก็ต้องทำ ผมเกิดมาเป็นตัวเป็นตน ผมอายุอ่อนกว่าคุณไม่กี่ปี ผมปีนี้ 62 คุณคง 65 สามปี ผมยังไม่เคยเจอใครที่กล้าพูดอย่างนี้เลย ว่าจะสู้ทุกทางในกฎหมาย หรือแม้กระทั่งนอกกฎหมาย มันเป็นไปได้อย่างไร รัฐมนตรีซึ่งยืนถวายสัตย์กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วมีเลขานุการตัวเองบอกว่า จะสู้ในกฎหมายและนอกกฎหมาย ผมไม่เคยเจอ สาบานผมไม่เคยเจอจริงๆ”
นายสนธิกล่าวต่อว่า รมว.กลาโหมกำลังข่มขู่นายกฯ นอกจากวิธีนี้แล้วยังขู่ว่าจะลาออก แถมนายสุเทพยังบอกว่าจะลาออกตาม ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็ให้นายสุเทพลาออกไปอยู่กับ พล.อ.ประวิตร กับนายเนวินที่พรรคภูมิใจไทยไปเลย นายอภิสิทธิ์ต้องกล้าหาญ ต้องมีวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ ต้องกล้าตัดสินใจ นายสุเทพทำให้พรรคประชาธิปัตย์จะตกต่ำลงไปมาก ถึงเวลาแล้วที่จะให้ลาออกไปเสียที
นายสนธิย้ำว่า การที่ พล.ต.อ.พัชรวาทออกมาพูดสวนทางกับนายกฯ ว่าไม่ได้ลาพักยาวนั้น อยากจะให้กำลังใจนายกฯ คนที่รักความเป็นธรรมจะวัดใจนายอภิสิทธิ์ในวันนี้ ซึ่งถ้ายังไม่กล้าตัดสินใจ ไม่ใช่ชีวิตทางการเมืองจะจบลงเท่านนั้น แม้อนาคตทางการเมืองของประชาธิปัตย์ก็ดับไปด้วย และประเทศไทยจะไม่มีที่ยืนอีกแล้ว
นายสนธิกล่าวต่อว่า การที่นายอภสิทธิ์เข้ามาดูแลคดีของตนนั้น เพราะต้องการให้คดีเดินหน้าเต็มที่ ไม่ใช่ว่าเพราเป็นนายสนธิ แต่ใครก็ตามที่ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามตอนเช้าตรู่ในช่วงที่มีประกาศภาวะฉุกเฉิน จะต้องจับคนร้ายมาให้ได้ ไม่ว่าตอจะใหญ่แค่ไหน ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะไม่มีที่ยืน ดังนั้นถ้านายอภิสิทธิ์คิดอย่างนี้ จะต้องย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทมาประจำที่สำนักนายกฯ และสามารถทำได้ทันทีจากเรื่องการทุจริตงบฯ 18 ล้าน และตั้งรักษาการ ผบ.ตร.มาทำหน้าที่แทน ซึ่งนี่คือกระบวนการตามกฎหมาย ที่สำคัญนายอภิสิทธิ์ต้องกล้าหาญ อย่าไปกลัวคำขู่ ร่างหนังสือแล้วเข้าเฝ้าฯ เลย จะปลดใครก็ปลดเลย คนบางคนนั้นเวลาใหญ่และดูเป็นนักเลง เที่ยวข่มขู่คนโน้นคนนี้ เพราะตัวเองมีตำแหน่ง แต่เมื่อใดหลุดจากตำแหน่ง ไม่มีลูกน้องที่คุมกำลังก็หมดความหมาย
รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 31 ก.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ มาร่วมรายการ โดยได้กล่าวถึงงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่ามีทางออกในการที่จะทำให้คดีลอบยิงนายสนธิคืบหน้าโดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จะลาพักราชการไปต่างประเทศ เพื่อให้ทีมสอบสวนได้ทำงานอย่างเต็มที่และจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับโผโยกย้ายตำรวจอีก แต่ล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาทกลับให้สัมภาษณ์ตอบโต้ว่าไม่ได้ลาพักราชการ แค่ไปราชการต่างประเทศประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นจะกลับมาทำงานตามปกติ โดยนายสนธิกล่าวว่า เห็นใจนายกฯ ที่พยายามอย่างสุดความสามารถ แต่นายอภิสิทธิ์ไม่ใช่คนที่จะมาบู๊ล้างผลาญ และเป็นคนมีหลักการ
นายสนธิ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมตั้งคำถามว่า น้องชายผิดอะไรถึงจะมาปลดว่า พล.อ.ประวิตรสามารถถามได้หากไม่ได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม แต่การถามตอนเป้ฯรัฐมนตรีถือว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง พล.อ.พัชรวาทนั้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของนายกฯ เพียงแต่มอบหมายให้นายสุเทพดูแลแทน การที่นายกฯ จะตัดสินใจโยกย้ายใคร หรือให้ใครออก ย่อมมีสิทธิในฐานะหัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน และ สตช.ก็ขึ้นตรงนายกฯ
นายสนธิกล่าวต่อว่า พล.ต.อ.พัชรวาทผิดอย่างไรนั้นไม่อยากมาต่อล้อต่อเถียง แต่ความบกพร่องนั้นมีเยอะมาก นับตั้งแต่กรณีที่ตำรวจอยู่เฉยๆ ในเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงล้มการประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา การทุจริตงบประมาณประชาสัมพันธ์ 18 ล้านบาท ของ สตช.สมัยที่ พล.ต.อ.พัชรวาทเป็นรอง ผบ.ตร.ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนและพบว่ามีมูล ซึ่งได้เสนอนายกฯ สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชไปแล้ว และในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เคยย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ เพื่อที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องดังกล่าว แต่พอนายชวรัตน์ ชาญวีรกุล เป็นรักษาการนายกฯ ก็ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทกลับมาเป็น ผบ.ตร.อีกโดยที่ยังไม่ตั้งกรรมการสอบ นอกจากนี้แล้ว พล.ต.อ.พัชรวาทมีความผิด ในคดี 7 ตุลาฯ ซึ่ง ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหาว่าผิดวินัย รวมทั้งผิดวินัยร้ายแรง และผิดคดีอาญา
“แต่ประเด็นไม่อยู่ที่ผิดแค่ไหน ผิดอย่างไร ไม่ใช่หน้าที่ของ พล.อ.ประวิตรที่จะออกมาถามว่าน้องผมผิดตรงไหน ถ้าอย่างนั้นแล้วอีกหน่อยใครเป็นรัฐมนตรี ถ้ามีญาติที่จะถูกปลด ถูกย้าย ก็จะออกมาถามกันหมดว่า ผิดตรงไหน”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณี พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขาณุการ ของ พล.อ.ประวิตรยังออกมาขู่ว่าถ้าย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทจะตอบโต้ทั้งวิธีการในกฎหมายและนอกกฎหมาย โดยอ้างว่าตระกูลวงษ์สุวรรณถูกเล่นงานมานาน และ พล.ต.อ.พัชรวาทได้ไปฟ้องดำเนินคดีกับ นสพ.เอเอสทีวี-ผู้จัดการแล้วนั้น อยากให้ พล.อ.นพดล อินทปัญญา พูดใหม่ ถ้า พล.อ.ประวิตรไม่ได้บอกให้พูด ก็ต้องแก้ข่าว ถ้าไม่แก้ก็แสดงว่ากำลังข่มขู่นายกฯ ข่มขู่ตน และข่มขู่เอเอสทีวี
“ที่ผมโดนยิงพวกนอกกฎหมายยิงหรือเปล่า ก็นอกกฎหมายใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นทำนอกกฎหมายคือทำอะไร คุณเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ถ้าเกิดขณะนี้ผมได้ข่าว มีการจัดทีมจะยิงผมอีกครั้ง ผมไม่รู้ ขอตั้งคำถามว่า คุณจะเกี่ยวด้วยหรือเปล่า เพราะคุณบอก แม้กระทั่งนอกกฎหมายก็ต้องทำ ผมเกิดมาเป็นตัวเป็นตน ผมอายุอ่อนกว่าคุณไม่กี่ปี ผมปีนี้ 62 คุณคง 65 สามปี ผมยังไม่เคยเจอใครที่กล้าพูดอย่างนี้เลย ว่าจะสู้ทุกทางในกฎหมาย หรือแม้กระทั่งนอกกฎหมาย มันเป็นไปได้อย่างไร รัฐมนตรีซึ่งยืนถวายสัตย์กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แล้วมีเลขานุการตัวเองบอกว่า จะสู้ในกฎหมายและนอกกฎหมาย ผมไม่เคยเจอ สาบานผมไม่เคยเจอจริงๆ”
นายสนธิกล่าวต่อว่า รมว.กลาโหมกำลังข่มขู่นายกฯ นอกจากวิธีนี้แล้วยังขู่ว่าจะลาออก แถมนายสุเทพยังบอกว่าจะลาออกตาม ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็ให้นายสุเทพลาออกไปอยู่กับ พล.อ.ประวิตร กับนายเนวินที่พรรคภูมิใจไทยไปเลย นายอภิสิทธิ์ต้องกล้าหาญ ต้องมีวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ ต้องกล้าตัดสินใจ นายสุเทพทำให้พรรคประชาธิปัตย์จะตกต่ำลงไปมาก ถึงเวลาแล้วที่จะให้ลาออกไปเสียที
นายสนธิย้ำว่า การที่ พล.ต.อ.พัชรวาทออกมาพูดสวนทางกับนายกฯ ว่าไม่ได้ลาพักยาวนั้น อยากจะให้กำลังใจนายกฯ คนที่รักความเป็นธรรมจะวัดใจนายอภิสิทธิ์ในวันนี้ ซึ่งถ้ายังไม่กล้าตัดสินใจ ไม่ใช่ชีวิตทางการเมืองจะจบลงเท่านนั้น แม้อนาคตทางการเมืองของประชาธิปัตย์ก็ดับไปด้วย และประเทศไทยจะไม่มีที่ยืนอีกแล้ว
นายสนธิกล่าวต่อว่า การที่นายอภสิทธิ์เข้ามาดูแลคดีของตนนั้น เพราะต้องการให้คดีเดินหน้าเต็มที่ ไม่ใช่ว่าเพราเป็นนายสนธิ แต่ใครก็ตามที่ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามตอนเช้าตรู่ในช่วงที่มีประกาศภาวะฉุกเฉิน จะต้องจับคนร้ายมาให้ได้ ไม่ว่าตอจะใหญ่แค่ไหน ไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะไม่มีที่ยืน ดังนั้นถ้านายอภิสิทธิ์คิดอย่างนี้ จะต้องย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทมาประจำที่สำนักนายกฯ และสามารถทำได้ทันทีจากเรื่องการทุจริตงบฯ 18 ล้าน และตั้งรักษาการ ผบ.ตร.มาทำหน้าที่แทน ซึ่งนี่คือกระบวนการตามกฎหมาย ที่สำคัญนายอภิสิทธิ์ต้องกล้าหาญ อย่าไปกลัวคำขู่ ร่างหนังสือแล้วเข้าเฝ้าฯ เลย จะปลดใครก็ปลดเลย คนบางคนนั้นเวลาใหญ่และดูเป็นนักเลง เที่ยวข่มขู่คนโน้นคนนี้ เพราะตัวเองมีตำแหน่ง แต่เมื่อใดหลุดจากตำแหน่ง ไม่มีลูกน้องที่คุมกำลังก็หมดความหมาย