xs
xsm
sm
md
lg

พผ.เฮรอดถูกยุบพรรคกกต.ชี้นพดลเป็นกก.บห.ยังไม่สมบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลง วานนี้ (30 ก.ค.) หลังการประชุม กกต.ว่า ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาผลการไต่สวน ข้อเท็จจริงกรณีนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินในขณะนั้นไม่รายงานการประชุมใหญ่พรรคเพื่อแผ่นดิน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2551 และกรณี นายนพดล พลซื่อ อดีตรองเลขาธิการพรรค กระทำการฝ่าฝืนพ.ร.บ.เลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ที่อาจเป็นเหตุให้ต้องพิจารณาเสนอยุบพรรคเพื่อแผ่นดิน
โดยที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากเห็นว่า การกระทำความผิดของนายนพดล เกิดขึ้นในขณะที่ยังไม่มีสถานะเป็นกรรมการบริหารพรรค เนื่องจาก พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 41 วรรคหนึ่ง ระบุว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง กรรมการบริหารพรรคให้แจ้งเป็นหนังสือต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วันนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลง และวรรคสองกำหนดว่าการเปลี่ยนแปลงจะสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อได้รับการตอบรับจากนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยกกต.ได้ตอบรับการเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองของนายนพดลในวันที่ 19 ธ.ค. และมีหนังสือนายทะเบียนสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินในวันที่ 20 ธ.ค.5250 จึงถือว่า นายนพดลเป็นกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 20 ธ.ค.2550
ประกอบกับคำพิพากษาของศาลฎีกาที่สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายนพดล ระบุถึงวันที่นายนพดลกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งไว้หลายวัน แต่วันที่เป็นเหตุให้ ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งคือวันที่ 28 ต.ค.2550 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ นายนพดลจะมีสถานะเป็นกรรมการบริหารพรรค และแม้จะเป็นกรรมการบริหารพรรคแล้วก็ไม่สามารถย้อนกลับไปยับยั้งการกระทำดังกล่าวได้ อีกทั้งจากการตรวจสอบพบว่าช่วงก่อนที่นายทะเบียนพรรคการเมืองจะตอบรับการเป็นกรรมการบริหารพรรค พรรคเพื่อแผ่นดินได้จัดประชุมกรรมการบริหารพรรคหลายครั้ง แต่ไม่พบว่านายนพดลเข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมการบริหารพรรคหรือสมาชิกพรรคแต่อย่างใด จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวของ นายนพดลไม่เข้าข่ายกระทำการโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จนเป็นเหตุให้ต้องเสนอให้มีการยุบพรรคเพื่อแผ่นดิน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเสียงข้างมากตามที่คณะกรรมการไต่สวนฯ เสนอว่า นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการหัวหน้าพรรคในขณะนั้น ไม่มีเจตนาที่จะไม่ส่งรายงาน การประชุมใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคให้แก่นายทะเบียนพรรคการเมืองเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการแจ้งเหตุขัดข้องเพราะมีความขัดแย้งภายในพรรคเกิดขึ้น เอกสารไม่อยู่ในการ ครอบครองของนายชาญชัย และนายชาญชัยได้แจ้งความเรื่องเอกสารสูญหาย ไว้เป็นหลักฐานไว้ที่ สน.ลุมพินี พร้อมแจ้งเหตุขัดข้องที่ไม่สามารถส่งรายงานดังกล่าวต่อนายทะเบียนฯเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.51
อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้นายวิสุทธิ์ โพธิ์แท่น กกต.คนใหม่ ได้ร่วมลงมติด้วย โดยยืนยันว่านายวิสุทธิมีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายที่จะร่วมพิจารณาเรื่องต่างๆ แต่ทั้งนี้ นายวิสุทธิได้ยึดหลักว่าเรื่องใดที่กกต.มีมติไปแล้วก็จะไม่ร่วมประชุมพิจารณาอีก แต่หากเรื่องใด กกต.ยังไม่เคยลงมตินายวิสุทธิ์ก็จะศึกษาสำนวนและร่วมลงมติด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากยึดหลักเช่นนี้นายวิสุทธิ์จะไม่ร่วมพิจารณากรณี 44 ส.ส.ใช่หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า กรณีการถือหุ้นสัมปทานรัฐแม้กกต.จะเคยมีมติ 16 ส.ว.และ13 ส.ส.ไปแล้ว แต่กรณี 44 ส.ส.ก็ถือเป็นอีกคำร้อง และถือว่า กกต.ยังไม่เคยวินิจฉัยมาก่อน ดังนั้น นายวิสุทธิ์จึงสามารถเข้าร่วมพิจารณาได้
นายสุทธิพล กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมกกต.ยังได้พิจารณากรณีที่นายสัณฑพงศ์ โสไกร ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการซื้อตัวส.ส.ของพรรคการเมืองที่ไม่ถูกยุบพรรคว่า คล้ายคลึงกับกรณีที่พรรคไทยรักไทยใช้เงินจ้างพรรคเล็กเพื่อลงสมัคร ซึ่งหากมีมูล ก็อาจจะมุ่งเข้าสู่ประเด็นยุบพรรคได้ โดยกกต.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวน รวมถึงให้ที่ปรึกษากฎหมายพิจารณาประเด็นข้อกฎหมายแล้วมีมติให้ยุติเรื่อง เนื่องจากตรวจสอบตามข่าวที่นำเสนอแล้วไม่มีผู้ใดยืนยันว่ามีการซื้อตัว หรือมีข้อมูลข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องตั้งข้อสังเกต อีกทั้งผู้ร้องต้องการเพียงให้กกต. ตรวจสอบว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลหรือไม่ โดยไม่ประสงค์กล่าวโทษพรรคการเมืองใด แค่กกต.ดำเนินการตรวจสอบก็พอใจแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น