xs
xsm
sm
md
lg

“เติ้ง”อาฆาตรธน.ลั่นต้องแก้ไข

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้กล่าวปราศรัยต่อสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่พรรคชาติไทยประจำปี 2551 ว่า บางคนอาจมองว่า ทำไมคราวนี้ขั้นตอนในการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการต่างๆจึงยุ่งเหยิงแบบนี้ ซึ่งก็เป็นเพราะรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งผู้ร่างเป็นนักวิชาการจึงได้วางหลักเกณฑ์ไว้ยุ่งยากเช่นนี้ ในรัฐธรรมนูญปี 25450 ในมาตรา 190 เรื่องสนธิสัญญาที่จะเข้าสภาฯก็ไม่ชัดเจนจนทำให้เกิดกรณีเขาพระวิหารเกิดขึ้น
อย่างมาตรา 237 (2) ว่าหากกรรมการบริหารไปกระทำความผิดและกกต.ให้ใบแดงต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคทำให้กรรมการบริหารพรรคอื่น ติดร่างแหไปด้วย จะเห็นได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ลดจำนวนกรรมการบริหารพรรค เหลือ 18 คน ซึ่งพรรคชาติไทยก็ต้องลดจำนวนรองหัวหน้าพรรคลงด้วย จึงมีหลายเรื่องหลายราวที่ต้องแก้ไข
นายบรรหาร กล่าวว่า ตอนที่รัฐธรรมนูญปี 2550 ประกาศใช้ตนจึงประกาศว่าหากเลือกตั้งเสร็จจะเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไอ้คนที่ไม่อยากให้แก้ไม่เห็นลงเลือกตั้ง จึงอยากท้าให้คนเหล่านี้มาลงเลือกตั้งบ้าง การที่มีกลุ่มหนึ่งบอกว่าจะเอาการเมืองใหม่ 70: 30 ไม่มีใครยอมรับ แบบนี้มันถอยหลังเข้าคลอง ระบบรัฐสภา มีวุฒิสภาเป็นเรื่องที่ถูกต้อง จึงบอกว่าคนที่ร่างรัฐธรารมนูญ ไม่ได้มาจากผู้แทนราษฎรเป็นการร่างสมัยคมช.จึงเกิดความยุ่งยากเกิดขึ้น
นายบรรหาร กล่าวว่า หลายคนสงสัยเรื่องการโหวตนายกฯว่าทำไมประธานสภาฯนัดให้มีประชุมสภาเพื่อเลือกนายกฯแต่กลับไม่โหวต ตนจะบอกว่า การเลือกนายกฯวันนี้มันด่วนเกินไป พรรคชาติไทยมีจุดยืนหากพรรคไหนมีจำนวน ส.ส.สูงสุดเราจะเปิดให้พรรคนั้นจัดตั้งรัฐบาลแต่หากตั้งไม่ได้พรรคที่มีคะแนนรองจึงจัดตั้งรัฐบาลเรายึดแนวทางนี้มาตั้งแต่ปี 2531 เป็นเวลา 30-40 ปีแล้ว ไม่เคยคิดเปลี่ยนกติกาดังกล่าว
ในปี 2550 ได้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ทั้งที่เราได้มีการจับมือระหว่างพรรคชาติไทย พรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อแผ่นดิน และได้ประเมินว่าน่าจะได้เสียงเกิน 280 กว่าเสียงและพรรคพลังประชาชนน่าจะได้ 160 เสียง แต่เหตุการณ์ผ่านไปพรรคพลังประชาชนได้ส.ส.เข้ามามากเป็นอันหนึ่งหนึ่งเราก็ต้องปล่อยให้เขาจัดตั้งรัฐบาล
นายบรรหาร กล่าวว่า นี่คือที่มาว่าทำไมต้องให้พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาล แต่ฝ่ายโจมตีก็บอกว่านายสมัครเป็นนอมินีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีการปลุกระดมกระจายไปทุกแห่ง ซึ่งก็น่าเห็นใจ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เมืองนอกก็ลำบากพอสมควร ตนไม่ได้แก้ตัวแทน ท่านก็เจอคดีก็ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย คงไปช่วยท่านไม่ได้ เรามีจุดยืนว่าท่านต้องเข้ากระบวนการยุติธรรม เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่านายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ เราก็ได้หารือมาตลอดว่าจะทำอย่างไร วันนี้กระแสสังคม นักเรียนนักศึกษาก็ไม่เห็นด้วยให้นายสมัครกลับมาเป็นนายกฯ แล้วพรรคพลังประชาชนก็มาเชิญพรรคชาติไทยเมื่อวันสองวันนี้ว่าในฐานะพรรคชาติไทยร่วมรัฐบาลก็ขอให้ร่วมต่อไป เราก็ยินดี เราไม่สลับขั้วเพราะสลับอย่างไรคะแนนก็ไม่ถึง
หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า แต่ก็ฝากรัฐบาลว่าคนที่จะมาเป็นผู้นำรัฐบาล ต่อไปต้องเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ ถ้อยทีถ้อยอาศัย สมานฉันท์ ลดความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองไปไม่รอด ตนก็ถูกกดดันจากหลายฝ่าย ในการประชุมพรรคชาติไทยก็พูดกันมาก บางคนก็ถึงกับน้ำตาคลอ ซึ่งในพรรคพลังประชาชนก็แตกเป็นหลายฝ่ายและไม่เห็นด้วย จึงเห็นว่าควรขยายเวลาออกไป 3-4 วันจะดีกว่า เพื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้ โดยให้คำนึงถึงความสงบสุขของประเทศ อันนี้จึงเป็นที่มาขององค์ประชุมไม่ครบ
ส่วนอีกพรรคหนึ่งไม่ต้องพูดถึงคิดว่าหวานคอแร้ง กูได้เป็นนายกฯแน่ เกมต่อเกมก็ต้องแก้เกมกัน แต่ตอนนี้มันก็จบแล้ว ตอนนี้ผู้คนแตกแยกกันมาก บางเวทีก็ให้ข้อมูลที่ผิด ผมเคยพูดว่าวันนี้ประเทศชาติแย่อยู่แล้ว ในหลวงรับสั่งว่าบ้านเมืองใกล้ล้มจมแล้ว แต่ผมเชื่อในพระสยามเทวาธิราชว่ายังมีอยู่ อย่างไรเราก็ต้องช่วยกันกอบกู้ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนทั้งคืน ไม่ได้ทำอะไรหรอกแต่นั่งปรึกษาหารือกันว่าจะทำอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่พรรคชาติไทย ประจำปี 2551 มึการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชาติไทยชุดใหม่ โดยลดจากเดิม 34 ตำแหน่ง เหลือเพียง 12 ตำแหน่งประกอบด้วย นายบรรหาร ศิลปอาชาเป็นหัวหน้าพรรค นายประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค นายจองชัย เที่ยงธรรม และนายนิกร จำนง เป็นรองหัวหน้าพรรค นายเกษม สรศักดิ์เกษม รองเลขาธิการพรรคและเป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค นายธรรมา ปิ่นสุกาญจนะ เป็นเหรัญญิก น.ส.ปอรรัชม์ ยอดเณร เป็นโฆษกพรรค ส่วนกรรมการบริหารพรรคมีแค่ 4 คน คือ นายธีรวัฒน์ ศิริวัณสาณฑ์ นางสุจิตรา ผาลีพัฒน์ นายมงคล โคว้วัฒนะวงษ์รักษ์ นายไพศาล ชโนวรรณ
ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการแต่งตั้งกรรมการบริหารในครั้งนี้ผู้ที่ได้รับคัดเลือกส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นส.ส.พร้อมทั้งตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคก็ได้มีการลดจากเดิม 6 คนเหลือเพียง 2 คนโดยได้ถอดนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายอนุรักษ์ จุรีมาศ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ออกจากตำแหน่ง
นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตุว่าน.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ อดีตโฆษกพรรคชาติไทย ไม่ได้มาร่วมการประชุม และไม่ได้รับตำแหน่งใดในพรรค โดยตำแหน่งโฆษกพรรคได้แต่งตั้ง น.ส.ปอรรัชม์ ขึ้นมาเป็นแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น