“เยาวภา” ยกหูเคลียร์ใจ “หมัก” ยืนยันไม่ได้อยู่เบื้องหลังก๊วนเหนือ-อีสาน เข้าชื่อไล่บี้แจงเหตุปล่อย สตช.ออกหมายจับประจาน “แม้ว-อ้อ” อ้างเสียง ปชช.รู้สึกสะเทือนใจ ต่ออดีตผู้นำถูกกระทำ ยังละเมอ “แม้ว” ถือเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะศาลยังไม่ตัดสิ
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่พรรคพลังประชาชน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม ส.ส.พรรคว่า ก่อนการประชุมใหญ่พรรคพลังประชาชน นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและแกนนำกลุ่มภาคเหนือ พร้อมด้วย นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล รองหัวหน้าพรรค และประธานภาค กทม.นายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปรัฐบาล นายศรีเมือง เจริญศิริ กรรมการบริหารพรรคและตน ได้ร่วมหารือถึงกรณีที่ ส.ส.และอดีต ส.ส.กว่า 200 คน ทำหนังสือถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ในฐานะประธาน ก.ตร.เพื่อสอบถามถึงการทำหน้าที่ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา
นายสุทิน กล่าวต่อว่า นางเยาวภา ได้ชี้แจงว่า หลังจากมีข่าวออกไปทำให้ดูเหมือนกับว่า ส.ส.ไปกดดัน นายสมัคร ในการทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเพียงการสะท้อนความรู้สึกของประชาชนผ่านมายัง ส.ส.กับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเขารู้สึกสะเทือนใจในการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อชาวบ้านสะท้อนมา ส.ส.ก็รู้สึกสะเทือนใจ เลยต้องถามไปยังหัวหน้าพรรคว่าได้คำนึงถึงการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มากน้อยแค่ไหน อย่างไรหากไม่คำนึงถึงชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็น่าจะคำนึงถึงตำแหน่งอดีตนายกรัฐมนตรีบ้างเพราะเมื่อศาลยังไม่ได้ตัดสิน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ไม่ควรออกหมายจับเพราะลักษณะเหมือนเป็นการประจานไปทั่ว ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ถูกลดความสำคัญลงไป
นอกจากนี้ ยังทราบว่า คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการกฎหมาย และคณะกรรมาธิการการตำรวจจะมีการหารือเรื่องนี้ด้วยโดยอาจเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น นายสุทิน กล่าวด้วยว่า นางเยาวภายังยืนยันด้วยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ ส.ส.จะไปกดดันนายสมัคร แค่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งนางเยาวภาได้ประสานทำความเข้าใจกับ นายสมัครแล้ว โดยขณะนี้ผู้ใหญ่ในพรรคอยากให้นายสมัครเป็นหัวหน้าพรรคและบริหารประเทศให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้าน นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ส.ส.กทม.ไม่ได้ร่วมลงชื่อเพื่อขอให้นายสมัครมาชี้แจง เพราะในกลุ่มมี ส.ส.แค่ 9 คน จึงไม่อยากไปสร้างปัญหา ที่สำคัญ ตนเองมีตำแหน่งเป็นประธาน ส.ส.ก็ต้องวางตัวเป็นกลาง หากมีสมาชิกสอบถามคงปล่อยให้เป็นเรื่องของที่ประชุม นอกจากนี้ ในการประชุมภาค กทม.จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับการสรรหาบุคคลมาลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ด้วย
