xs
xsm
sm
md
lg

จลาจล"ซินเจียง"ทำให้พวกอิสลามิสต์"สับสน"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถึงแม้เกิดเหตุการณ์อันรุนแรงใหญ่โต ซึ่งกระทบกระเทือนชาวอุยกูร์มุสลิม ที่เป็นชนชาติส่วนน้อยที่พำนักอาศัยในเขตปกครองซินเจียง (ซินเกียง) ของจีน แต่โลกมุสลิมก็ไม่ได้เปล่งเสียงโกรธกริ้วออกมาด้วยความพร้อมเพรียง หรืออย่างเด็ดเดี่ยวหนักแน่นเลย กล่าวได้ว่าธงแห่งการประท้วงโบกสะบัดอย่างอ่อนแรง จากจุดที่มั่นของชนชาติอุยกูร์นอกประเทศจีนจำนวนเพียงหยิบมือเดียว

ระยะหลายปีที่ผ่านมา เมื่อชาวมุสลิมตลอดจนสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาถูกละเมิดหรือถูกหยามเหยียด โทสะความกริ้วโกรธก็มีการแพร่กระจายออกไปตามช่องทาง จนกลายเป็นการประท้วงของมวลชนตามที่ต่างๆ ตั้งแต่โมร็อกโกไปจนถึงมาเลเซีย

เป็นต้นว่า กระแสความไม่พอใจภายหลังการตีพิมพ์การ์ตูนดูหมิ่นศาสดามุฮัมมัดในเดนมาร์กเมื่อปี 2005 ก่อให้เกิดแรงสั่นสะท้านในทุกๆ ที่บนโลกที่มีชาวมุสลิมจำนวนมากพอสมควรพำนักอาศัยอยู่

หรือกรณีนิตยสารนิวสวีกรายงานข่าวกล่าวหาเมื่อปี 2005 เช่นกันว่า มีบุคลากรชาวอเมริกันบางคนซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่คุกอ่าวกวนตานาโม จงใจเอาคัมภีร์กุรอานทิ้งลงชักโครก คราวนั้นก็ทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกแค้นเคืองแผ่ลามไปตามประเทศมุสลิมต่างๆ แม้จะอยู่ห่างไกลกัน ไม่ว่าจะเป็น ปากีสถาน, อียิปต์, หรืออินโดนีเซีย

แต่เมื่อมาถึงเดือนกรกฎาคม 2009 และเกิดเหตุรุนแรงในซินเจียง ไฉนจึงไม่มีชาวมุสลิมผู้กราดกริ้วด้วยเพลิงแค้นลงมาประท้วงเต็มท้องถนน ไฉนจึงไม่มีเหล่าผู้นำออกมาปลุกเร้าโหมฮือไฟพิโรธของมวลชน

หากดูการเคลื่อนไหวที่เป็นทางการด้วยแล้ว ก็มีเพียงตุรกีประเทศเดียวที่ออกมาแถลงอย่างขุ่นเคืองว่า จีนกำลัง "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวอุยกูร์ ทว่าภาษาอันบาดหูเช่นนี้ของทางการอังการา มีสาเหตุเนื่องมาจากความใกล้ชิดทางเชื้อชาติ มากกว่าความรู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อ "พี่น้องชาวมุสลิม" ด้วยกัน ทั้งนี้ชาวอุยกูร์นั้นในทางเชื้อชาติแล้วถือว่ามีต้นรากมาจากพวกเตอร์คิก (Turkic) และชาวเติร์กยกย่องว่าเป็นพวกที่ใกล้เคียงกับบรรพบุรุษสายเลือดบริสุทธิ์ของตนมากที่สุด

แต่ความห่วงใยที่ตุรกีมีต่อซินเจียงนี้ ไม่ได้แพร่กระจายหรือก่อให้เกิดความกระตือรือร้นขึ้นในประเทศมุสลิมอื่นๆ แม้กระทั่งในบรรดาประเทศที่มีรั้วติดกัน

ยังมีประเทศมุสลิมที่มิได้มีรากเหง้ามาจากชาวเตอร์คิกอีกเพียงประเทศเดียว ที่ส่งเสียงเอะอะขึ้นมาบ้างในทันทีที่ทราบข่าวความวุ่นวายในซินเจียง ประเทศนั้นก็คืออินโดนีเซีย

นอกจากนี้แล้ว กลุ่มชาวแอลจีเรียที่มีความเป็นมาน่าเคลือบแคลง แต่รู้จักกันในนาม "อัลกออิดะห์ในดินแดนมาเกร็บของอิสลาม" ได้ออกคำแถลงข่มขู่จะเล่นงานคนจีนในต่างแดน เพื่อแก้แค้นให้แก่ "ชาวมุสลิมผู้เสียชีวิต" ในซินเจียง

อิหร่าน ประเทศมุสลิมสำคัญอีกรายหนึ่ง ในคราวนี้ก็ยังคงนิ่งเงียบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในซินเจียง เหมือนกับว่ามีการตกลงกันทางวาจาระหว่างเตหะรานและปักกิ่งว่า พวกเขาจะไม่ตำหนิติเตียนกันและกันในเรื่องที่เป็นปัญหาการเมืองภายในประเทศ

นอกจากนั้น ความจริงที่ว่าอิหร่านจำเป็นต้องได้จีนมาอยู่ข้างตน เมื่อใดก็ตามที่คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นมีวาระพิจารณาโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ก็น่าจะฉุดรั้งพวกอยาโตลเลาะห์อารมณ์ร้อนแรงไม่ให้ประณามเหตุนองเลือดในซินเจียง

ทำไมทั้งสถาบันและสาธารณชนของอิสลาม จึงปล่อยให้ความรุนแรงในซินเจียงผ่านไปโดยไม่แสดงปฏิกริยาอะไรมากมาย นอกจากการบ่นพึมพำแค่คำสองคำ คำตอบน่าจะอยู่ที่วิธีการอันสลับซับซ้อนในการจัดชั้นศัตรูของพวกอิสลามิสต์

พวกมุสลิมหัวรุนแรงจะประณาม "ฝ่ายตะวันตก" ทั้งยวง เป็นตัววายร้ายที่ทำลายความรุ่งเรืองทั้งทางการเมืองและทางวัฒนธรรมของอิสลามในอดีต ดังนั้น หากในประเทศทางยุโรปหรืออเมริกาเหนือ ถูกพบเห็นว่ามีการกระทำโหดร้ายทารุณหรือการดูหมิ่นเหยียดหยามต่ออิสลามและผู้ยึดมั่นนับถือศาสนานี้แล้ว มันก็จะเป็นการย้ำยืนยันอคติและความชิงชังที่มีกันอยู่นานแล้ว และยังได้รับการบ่มเพาะตอกย้ำทั้งจากการชุมนุมประท้วงของชาวมุสลิม และจากผู้อยู่ในอำนาจซึ่งกระตุ้นส่งเสริมการชุมนุมประท้วงเหล่านี้

บางครั้งคำว่า "ฝ่ายตะวันตก" ก็ขยายรวมไปถึงพวกประเทศอย่างเช่น รัสเซีย, อิสราเอล, และอินเดีย โดยชาติเหล่านี้ทั้งหมดต่างถูกพวกอิสมามิสต์และสานุศิษย์มองว่า กำลังกดขี่ชาวมุสลิมในดินแดนที่ประเทศเหล่านี้มีปัญหาพิพาทอยู่กับทางฝ่ายมุสลิม

แต่ภาพลักษณ์ของจีนนั้นแตกต่างออกไป โดยจีนถูกมองว่าเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของพวกมหาอำนาจตะวันตก อีกทั้งไม่เคยเข้าไปแทรกแซงในตะวันออกกลาง ภาพลักษณ์เช่นนี้ทำให้พวกมุสลิมหัวแข็งกร้าวรู้สึกสับสนยุ่งเหยิง ไม่ทราบว่าจะจัดชั้นจีนอย่างไรดีในโครงสร้างการแบ่งมิตรแบ่งศัตรูของพวกตน

จีนยังคงรอดพ้นจากการถูกพวกนักรบญิฮัดเล่นงานโจมตีครั้งใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นบนดินแดนจีนเอง หรือสิ่งที่เป็นตัวแทนของจีนในต่างแดน ถึงแม้ใช้ความแข็งกร้าวต่อชาวอุยกูร์เรื่อยมา เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพราะมียุทธศาสตร์ต่อต้านการก่อการร้ายอย่างเหนือชั้น หากแต่เป็นเพราะวิธีติดป้ายชื่อในหมู่พวกอิสลามิสต์มากกว่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับ "ฝ่ายตะวันตก" แม้ว่าจะคำที่หลวมเอามากๆ ทั้งในทางภูมิศาสตร์และในทางการเมือง แต่ก็จะต้องกลายเป็นเป้ายอดนิยมของพวกมุสลิมหัวรุนแรงกันต่อไป

(เก็บความและตัดทอนจากเรื่อง Xinjiang riots confound Islamists โดย Sreeram Chaulia รองศาสตราจารย์ด้านการเมืองโลก ณ สถาบันกฎหมายโลกจินดัล เมืองโซนิปัต ประเทศอินเดีย)
กำลังโหลดความคิดเห็น