ทักษิณ ฎีกาเถื่อน ลัทธิแดง สื่อรับจ้าง รุกทำลายสถาบันหลักของชาติ ความแตกแยกในบ้านเมือง ในครอบครัว โรงเรียน มหาวิทยาลัย บริษัท วัด หน่วยงานราชการ ฯลฯ ความสำนึกผิด ถูก ชั่ว ดี หายไปไหนกันหมด ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต่างก็คิดเอาตัวรอดกันหมด ต่างก็พูดว่า “ไม่อยากเปลืองตัว” ไม่มีใครกล้าออกมาชี้ถูก ชี้ผิด อะไรควร อะไรไม่ควร ต่างฝ่ายต่างถือหางยึดถือตัวบุคคลเป็นใหญ่ กลายเป็นลัทธิบูชาบุคคล แต่ละฝ่ายไม่คำนึงถึงความถูกต้องโดยธรรม นี่คือสภาพการณ์ของการเมืองระบอบเผด็จการ (ระบอบที่ไม่มีหลักการปกครองครอง) ผู้ปกครองต่างก็บิดเบือนอย่างชั่วร้ายที่สุดว่าเป็นประชาธิปไตย
ความแตกแยกโดยสาเหตุที่แท้จริงมาจากระบอบเผด็จการ เหตุเพราะความเป็นระบอบเผด็จการนี่เอง จึงทำให้บุคคล คือ นช. ทักษิณ เป็นตัวนำ เป็นตัวกระทำให้เกิดความแตกแยก ความแตกแยกในชาติ ความแตกแยกในศาสนา ที่เกิดได้เพราะอะไร ทั้งนี้ก็เพราะทั้งผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และประชาชน ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม อันเป็นไม้บรรทัดทองคำอยู่ในใจ เอาไว้วัดว่าอะไรถูกอะไรผิด
ยกตัวอย่างแม้กระทั่งพระบางรูป ก็เพี้ยนไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า จากแนวคิดของพระครูรูปนี้ คิดเอาแต่ได้ ดูได้จากคำพูดของ พระครูปลัดไพศาล เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า “ขอยืนยันว่าบิ๊กเซอร์ไพรส์ของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น หากเปิดออกมาจะต้องสร้างความฮือฮาไปทั้งโลกแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยจัดที่ไหนมาก่อน ทุกคนจะได้เห็นในวันที่ 26 ก.ค.นี้” คำพูดลักษณะนี้ไม่น่าจะเป็นพระแท้ ในพระพุทธศาสนากลายเป็นพวกไสยศาสตร์ พระแท้ต้องเชิดชูธรรม ความถูกต้อง ไม่ตกเป็นเครื่องมือปั่นกระแสของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และไม่เห็นแก่ลาภ
นี่ก็อีกราย พูดเอาแต่ได้ นายประชา ประสพดี ส.ส. น้ำเน่า พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “จะมีพระธรรมกายมาเข้าร่วมงานแซยิดไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นรูป” นี่ก็เป็นการพูดโกหก หาความจริงไม่ได้ หากเป็นจริงพระกลุ่มนั้น ก็แย่เต็มที ที่เห็นบุคคลอยู่เหนือคำสอนของพระพุทธเจ้า
การทำบุญอายุครบ 60 ปี ของ ทักษิณ ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าเป็นไปอย่างแอบแฝง ทั้งนี้ก็เพราะทักษิณ มีเงินมหาศาลนั่นเอง คนที่หวังลาภ หวังยศ หวังความช่วยเหลือจากคุณทักษิณ จึงยอมลดตัวลงเป็นทาสก็มี หลอกเอาเงินทักษิณก็มีเพื่อความเติบโตของพวกลัทธิแดง
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า คุณทักษิณ อายุ 60 ปี แล้วน่าที่จะสำนึกผิด ยอมเสีย ยอมถอยเสียบ้าง เสียสละเพื่อความสงบของบ้านเมือง ดังบทกลอนในงานศพทั่วไป ที่ยอดเยี่ยมว่า...
“เมื่อเจ้ามามีอะไรมาด้วยเจ้า เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน
เจ้ามามือเปล่าแล้วเจ้าจะเอาอะไร? เจ้าก็ไปมือเปล่าเหมือนเจ้ามา”
“ให้ปลงตกในชีวิตสะกิดเจ้า เลิกมัวเมากอบโกยและโหยหา
ลาภ-ยศ-สุข-สรรเสริญ-และเงินตรา เมื่อมรณาก็สูญลับดับตามตัว”
แต่ยากเสียแล้ว เพราะทักษิณ ยังหลงตัวเอง ยากที่ใครๆ จะแก้ไขได้ ทั้งนี้ คุณทักษิณทำธุรกิจหวังความโลภ ความร่ำรวยและอำนาจ ตอกย้ำกรรมชั่วไว้ในใจจนเป็นนิจกรรม จึงยากที่คุณ ทักษิณจะกลับตัวกลับใจได้ จึงได้กล่าวว่า คำว่า “สำนึกผิด” ไม่มีในพจนานุกรมของทักษิณ แต่กลับต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ตะโกนปาวๆ อยู่ต่างประเทศ ทักษิณถ้าคุณแน่จริงก็กลับมา สู้คดี หากเห็นว่า ตนเองบริสุทธิ์ แต่กรรมของคุณทักษิณ ที่ทำมามีสภาพจิตเป็นคนขี้ขลาด ฉลาดแกมโกง เจ้าเล่ห์ อวดดี มักใหญ่ใฝ่สูง ยังไงๆ คุณทักษิณ ก็ไม่กล้ากลับมาสู้ความจริง และหัวหน้าใหญ่ของฝ่ายลัทธิแดง ก็รู้ว่า มีทักษิณ เท่านั้น ที่จะเป็นกำลังทางยุทธวิธี เพื่อโค่นสถาบันหลักของชาติ เพราะมีเงินมหาศาล ยุทธวิธีทำบุญบังหน้า และถวายฎีกาเถื่อน ล้วนเป็นยุทธวิธีเร่งเร้าให้เกิดความแตกแยกภายในชาติให้มากขึ้นๆ และมากขึ้น เมื่อรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ กองทัพก็จะทำรัฐประหาร จากนั้น ลัทธิแดงก็จะโหมมวลชนแดง สู้กับกองทัพ กลายเป็นสงครามกลางเมือง และพวกลัทธิจะได้ชัยชนะในที่สุด นี่คือยุทธศาสตร์ของพวกลัทธิแดง ที่พวกเขาวางไว้ ตามอุดมการณ์ของพวกเขา ที่ได้รับทราบมา
ย้อนกลับมาดู คดีความติดตัวมากมายของคุณทักษิณ แต่ไม่ยอมกลับมาสู้คดีเพราะกลัวคุกนี่เอง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้จัดพิมพ์และเผยแพร่ “สมุดปกเหลือง” (ฝากไว้ในแผ่นดิน) ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ คตส.ได้ดำเนินการพิจารณารับเรื่องและตรวจสอบกรณีที่มีมูลน่าเชื่อว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบจำนวน 13 เรื่อง รวม 15 กรณีโดยสรุปได้ ดังนี้
1. การหลีกเลี่ยงภาษีในการซื้อขายและโอนหุ้น “ชินคอร์ป” ของตระกูลชินวัตร มีเหตุอันควรสงสัยว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ 33,108 ล้านบาท
2. การให้เงินกู้แก่รัฐบาลสหภาพพม่าของ “เอ็กซิมแบงก์” ส่อเอื้อประโยชน์โดยมิชอบแก่ “ชินคอร์ป” ประมาณ 1,000 ล้านบาท
3. โครงการก่อสร้าง “ห้องแล็บกลาง” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น่าเชื่อว่ามี “นายหน้า” ได้รับผลประโยชน์ประมาณ 300 ล้านบาท
4. โครงการจัดซื้อระบบสายพานลำเลียงและเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX 9000 น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 3,000 ล้านบาท
5. โครงการจัดซื้อท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินในสนามบินสุวรรณภูมิ น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 200 ล้านบาท
6. การซื้อขายที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษก (ระหว่างคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 772 ล้านบาท ก็ได้ปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว พิพากษา ทักษิณ ติดคุก 2 ปี
7. โครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัวหรือ “หวยบนดิน” น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 37,790 ล้านบาท
8. การจัดซื้อกล้ายาง 90 ล้านต้นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 1,440 ล้านบาท
9. การจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของ กทม.น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 1,900 ล้านบาท
10. การปล่อยเงินกู้โดยมิชอบของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 5,185 ล้านบาท
11. การแก้ไขสัญญาเพื่อลดส่วนแบ่ง--ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน (Prepaid) น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 71,677 ล้านบาท
12. การแก้ไขสัญญาปรับลดส่วนแบ่ง--แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัทเอกชน น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 700 ล้านบาท
13. การออกพระราชกำหนดภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ประมาณ 30,667 ล้านบาท
14. โครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ “แอร์พอร์ตลิงค์” ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 1,200 ล้านบาท
15. โครงการบ้านเอื้ออาทร (ระยะที่ 4) ของการเคหะแห่งชาติ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 415 ล้านบาท และความเสียหายที่ไม่อาจประเมินเป็นเงินได้อีกราว 3,000 ล้านบาท
รวมแล้ว ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐกว่า 190,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดจะนำไปสู่การพิจารณาไต่สวนและพิพากษาตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
เราจึงเห็นได้ว่า ทั้งพฤติกรรมและคดีความต่างๆ ทักษิณ ไม่กล้ากลับประเทศแน่นอน เว้นแต่ ทักษิณ สำนึกผิด ยอมเข้าคุก แต่เป็นไปไม่ได้ ความในใจของคุณทักษิณ ก็คิดว่า มีทางเดียวที่จะกลับประเทศไทยได้ คือหลอกให้สมุนปั่นป่วนประเทศ เพื่อล้มกระดานแบบขุดรากถอนโคนสถาบันหลักของชาติลงให้ได้เท่านั้น มีทางเดียวที่เขาจะกลับประเทศได้อย่างผู้มีชัย เป็นประธานาธิบดี และคดีความทั้งหลายก็มีอันยุติไป
พวกเราผู้เชิดชูชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอเตือนว่า การกระทำของ คุณทักษิณ และพวกลัทธิแดง ไม่ใช่สุภาพบุรุษเกินเลยสามัญชนคนธรรมดาไปแล้ว มันกลายเป็นขบวนการศัตรูของชาติ เชื่อว่า คนดีมีคุณธรรมทั่วไป คงรับไม่ได้กับการกระทำของคุณทักษิณ และพวกลัทธิแดง
มีทางเดียวที่จะรุกกลับยุติความชั่วร้ายของชาติลงได้ คือ (1) ลดละเลิกหลงผิดระบอบเผด็จการว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย (2) เรียกร้อง ผลักดัน ส่งเสริมการสถาปนาหลักการ (ระบอบ) ปกครองโดยธรรม อันเป็นพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าแผ่นดิน
ความแตกแยกโดยสาเหตุที่แท้จริงมาจากระบอบเผด็จการ เหตุเพราะความเป็นระบอบเผด็จการนี่เอง จึงทำให้บุคคล คือ นช. ทักษิณ เป็นตัวนำ เป็นตัวกระทำให้เกิดความแตกแยก ความแตกแยกในชาติ ความแตกแยกในศาสนา ที่เกิดได้เพราะอะไร ทั้งนี้ก็เพราะทั้งผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และประชาชน ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม อันเป็นไม้บรรทัดทองคำอยู่ในใจ เอาไว้วัดว่าอะไรถูกอะไรผิด
ยกตัวอย่างแม้กระทั่งพระบางรูป ก็เพี้ยนไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้า จากแนวคิดของพระครูรูปนี้ คิดเอาแต่ได้ ดูได้จากคำพูดของ พระครูปลัดไพศาล เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า “ขอยืนยันว่าบิ๊กเซอร์ไพรส์ของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น หากเปิดออกมาจะต้องสร้างความฮือฮาไปทั้งโลกแน่นอน เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยจัดที่ไหนมาก่อน ทุกคนจะได้เห็นในวันที่ 26 ก.ค.นี้” คำพูดลักษณะนี้ไม่น่าจะเป็นพระแท้ ในพระพุทธศาสนากลายเป็นพวกไสยศาสตร์ พระแท้ต้องเชิดชูธรรม ความถูกต้อง ไม่ตกเป็นเครื่องมือปั่นกระแสของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และไม่เห็นแก่ลาภ
นี่ก็อีกราย พูดเอาแต่ได้ นายประชา ประสพดี ส.ส. น้ำเน่า พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “จะมีพระธรรมกายมาเข้าร่วมงานแซยิดไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นรูป” นี่ก็เป็นการพูดโกหก หาความจริงไม่ได้ หากเป็นจริงพระกลุ่มนั้น ก็แย่เต็มที ที่เห็นบุคคลอยู่เหนือคำสอนของพระพุทธเจ้า
การทำบุญอายุครบ 60 ปี ของ ทักษิณ ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าเป็นไปอย่างแอบแฝง ทั้งนี้ก็เพราะทักษิณ มีเงินมหาศาลนั่นเอง คนที่หวังลาภ หวังยศ หวังความช่วยเหลือจากคุณทักษิณ จึงยอมลดตัวลงเป็นทาสก็มี หลอกเอาเงินทักษิณก็มีเพื่อความเติบโตของพวกลัทธิแดง
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า คุณทักษิณ อายุ 60 ปี แล้วน่าที่จะสำนึกผิด ยอมเสีย ยอมถอยเสียบ้าง เสียสละเพื่อความสงบของบ้านเมือง ดังบทกลอนในงานศพทั่วไป ที่ยอดเยี่ยมว่า...
“เมื่อเจ้ามามีอะไรมาด้วยเจ้า เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน
เจ้ามามือเปล่าแล้วเจ้าจะเอาอะไร? เจ้าก็ไปมือเปล่าเหมือนเจ้ามา”
“ให้ปลงตกในชีวิตสะกิดเจ้า เลิกมัวเมากอบโกยและโหยหา
ลาภ-ยศ-สุข-สรรเสริญ-และเงินตรา เมื่อมรณาก็สูญลับดับตามตัว”
แต่ยากเสียแล้ว เพราะทักษิณ ยังหลงตัวเอง ยากที่ใครๆ จะแก้ไขได้ ทั้งนี้ คุณทักษิณทำธุรกิจหวังความโลภ ความร่ำรวยและอำนาจ ตอกย้ำกรรมชั่วไว้ในใจจนเป็นนิจกรรม จึงยากที่คุณ ทักษิณจะกลับตัวกลับใจได้ จึงได้กล่าวว่า คำว่า “สำนึกผิด” ไม่มีในพจนานุกรมของทักษิณ แต่กลับต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ตะโกนปาวๆ อยู่ต่างประเทศ ทักษิณถ้าคุณแน่จริงก็กลับมา สู้คดี หากเห็นว่า ตนเองบริสุทธิ์ แต่กรรมของคุณทักษิณ ที่ทำมามีสภาพจิตเป็นคนขี้ขลาด ฉลาดแกมโกง เจ้าเล่ห์ อวดดี มักใหญ่ใฝ่สูง ยังไงๆ คุณทักษิณ ก็ไม่กล้ากลับมาสู้ความจริง และหัวหน้าใหญ่ของฝ่ายลัทธิแดง ก็รู้ว่า มีทักษิณ เท่านั้น ที่จะเป็นกำลังทางยุทธวิธี เพื่อโค่นสถาบันหลักของชาติ เพราะมีเงินมหาศาล ยุทธวิธีทำบุญบังหน้า และถวายฎีกาเถื่อน ล้วนเป็นยุทธวิธีเร่งเร้าให้เกิดความแตกแยกภายในชาติให้มากขึ้นๆ และมากขึ้น เมื่อรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ กองทัพก็จะทำรัฐประหาร จากนั้น ลัทธิแดงก็จะโหมมวลชนแดง สู้กับกองทัพ กลายเป็นสงครามกลางเมือง และพวกลัทธิจะได้ชัยชนะในที่สุด นี่คือยุทธศาสตร์ของพวกลัทธิแดง ที่พวกเขาวางไว้ ตามอุดมการณ์ของพวกเขา ที่ได้รับทราบมา
ย้อนกลับมาดู คดีความติดตัวมากมายของคุณทักษิณ แต่ไม่ยอมกลับมาสู้คดีเพราะกลัวคุกนี่เอง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้จัดพิมพ์และเผยแพร่ “สมุดปกเหลือง” (ฝากไว้ในแผ่นดิน) ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ คตส.ได้ดำเนินการพิจารณารับเรื่องและตรวจสอบกรณีที่มีมูลน่าเชื่อว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบจำนวน 13 เรื่อง รวม 15 กรณีโดยสรุปได้ ดังนี้
1. การหลีกเลี่ยงภาษีในการซื้อขายและโอนหุ้น “ชินคอร์ป” ของตระกูลชินวัตร มีเหตุอันควรสงสัยว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ 33,108 ล้านบาท
2. การให้เงินกู้แก่รัฐบาลสหภาพพม่าของ “เอ็กซิมแบงก์” ส่อเอื้อประโยชน์โดยมิชอบแก่ “ชินคอร์ป” ประมาณ 1,000 ล้านบาท
3. โครงการก่อสร้าง “ห้องแล็บกลาง” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น่าเชื่อว่ามี “นายหน้า” ได้รับผลประโยชน์ประมาณ 300 ล้านบาท
4. โครงการจัดซื้อระบบสายพานลำเลียงและเครื่องตรวจวัตถุระเบิด CTX 9000 น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 3,000 ล้านบาท
5. โครงการจัดซื้อท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินในสนามบินสุวรรณภูมิ น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 200 ล้านบาท
6. การซื้อขายที่ดินบริเวณถนนรัชดาภิเษก (ระหว่างคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 772 ล้านบาท ก็ได้ปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว พิพากษา ทักษิณ ติดคุก 2 ปี
7. โครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัวหรือ “หวยบนดิน” น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 37,790 ล้านบาท
8. การจัดซื้อกล้ายาง 90 ล้านต้นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 1,440 ล้านบาท
9. การจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของ กทม.น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 1,900 ล้านบาท
10. การปล่อยเงินกู้โดยมิชอบของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 5,185 ล้านบาท
11. การแก้ไขสัญญาเพื่อลดส่วนแบ่ง--ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน (Prepaid) น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 71,677 ล้านบาท
12. การแก้ไขสัญญาปรับลดส่วนแบ่ง--แก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัทเอกชน น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 700 ล้านบาท
13. การออกพระราชกำหนดภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม น่าเชื่อว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ประมาณ 30,667 ล้านบาท
14. โครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ “แอร์พอร์ตลิงค์” ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 1,200 ล้านบาท
15. โครงการบ้านเอื้ออาทร (ระยะที่ 4) ของการเคหะแห่งชาติ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐประมาณ 415 ล้านบาท และความเสียหายที่ไม่อาจประเมินเป็นเงินได้อีกราว 3,000 ล้านบาท
รวมแล้ว ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐกว่า 190,000 ล้านบาท โดยทั้งหมดจะนำไปสู่การพิจารณาไต่สวนและพิพากษาตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
เราจึงเห็นได้ว่า ทั้งพฤติกรรมและคดีความต่างๆ ทักษิณ ไม่กล้ากลับประเทศแน่นอน เว้นแต่ ทักษิณ สำนึกผิด ยอมเข้าคุก แต่เป็นไปไม่ได้ ความในใจของคุณทักษิณ ก็คิดว่า มีทางเดียวที่จะกลับประเทศไทยได้ คือหลอกให้สมุนปั่นป่วนประเทศ เพื่อล้มกระดานแบบขุดรากถอนโคนสถาบันหลักของชาติลงให้ได้เท่านั้น มีทางเดียวที่เขาจะกลับประเทศได้อย่างผู้มีชัย เป็นประธานาธิบดี และคดีความทั้งหลายก็มีอันยุติไป
พวกเราผู้เชิดชูชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอเตือนว่า การกระทำของ คุณทักษิณ และพวกลัทธิแดง ไม่ใช่สุภาพบุรุษเกินเลยสามัญชนคนธรรมดาไปแล้ว มันกลายเป็นขบวนการศัตรูของชาติ เชื่อว่า คนดีมีคุณธรรมทั่วไป คงรับไม่ได้กับการกระทำของคุณทักษิณ และพวกลัทธิแดง
มีทางเดียวที่จะรุกกลับยุติความชั่วร้ายของชาติลงได้ คือ (1) ลดละเลิกหลงผิดระบอบเผด็จการว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย (2) เรียกร้อง ผลักดัน ส่งเสริมการสถาปนาหลักการ (ระบอบ) ปกครองโดยธรรม อันเป็นพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าแผ่นดิน
