xs
xsm
sm
md
lg

13ส.ส.พท.-พรรคร่วมส่อปิ๋ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณี คำร้องของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบการสิ้น สมาชิกภาพความเป็น ส.ส.เพราะถือหุ้นขัดรัฐธรรมนูญของ ส.ส. 61 คน แต่มีผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิและลาออก จึงเหลือกรณีที่ กกต. จะวินิจฉัย 44 คน แยกเป็นพรรคเพื่อไทย 23คน พรรคชาติไทยพัฒนา 3 คน พรรคประชาราช 3คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 8 คน พรรคภูมิใจไทย 3 คน พรรคกิจสังคม 1 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 2 คน พรรคประชาธิปัตย์ 1 คน โดยในจำนวนนี้ เป็นรมต.ในรัฐบาลชุดนี้ถึง 6 คน  
จากการตรวจสอบพบว่ามีบุคคลที่ถือครองหุ้นอยู่ใน 18 บริษัทต้องห้าม ที่กกต.มีคำวินิจฉัยไว้แล้ว รวม 13 คน แยกเป็นพรรคเพื่อไทย 5 คน ได้แก่ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน ถือหุ้นบริษัท ปตท.สผ. นาย สมพล เกยุราพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน ถือหุ้น ทีทีแอนด์ที บริษัท บางจากปิโตเลียม และบริษัท ทีพีไอโพลีน ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอนแก่น ถือ หุ้น บริษัท ปตท.สผ. บริษัท อสมท. บริษัท เอสซีเอสเซส นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. ถือหุ้น ปตท. นาย ไพโรจน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา ถือหุ้น บริษัท โกลว์พลังงาน
พรรคชาติไทยพัฒนา 2 คน ได้แก่ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.อยุธยา รมช.คมนาคม ถือหุ้น บริษัท ปตท. บริษัท ปตท. สผ. พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.สัดส่วน ถือหุ้นบริษัท ทีทีแอนด์ที และธนาคารทหารไทย พรรคประชาราช 1 คน ได้แก่ นาย เสนาะ เทียนทอง ส.ส.สัดส่วน หัวหน้าพรรคประชาราช (ภรรยาถือหุ้น) บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ
พรรคเพื่อแผ่นดิน 4 คน ได้แก่ นางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ ส.ส.สุรินทร์ ถือหุ้น บริษัท ปตท. และบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์ และการกลั่น นาย สาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ ส.ส.สุรินทร์ ถือหุ้น บริษัท ทีทีแอนด์ที ม.ร.ว.กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน ถือหุ้น บริษัท ทีทีแอนด์ที นพ.วัลลภ ไทยเหนือ ส.ส.สัดส่วน ถือหุ้น บมจ.ไฟฟ้าราชบุรี และพรรคกิจสังคม 1 คน ได้แก่ นาย มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาตย์ ส.ส.พิษณุโลก ถือหุ้น บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี  
ทั้งนี้ต้องรอดูผลการตรวจสอบของคณะกรรมการไต่สวนของ กกต.ที่จะสรุป เสนอต่อ กกต.ว่าบุคคลเหล่านี้ถือครองหุ้นประเภทใด หากถือครองหุ้นสามัญก็จะถือว่า กระทำการเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 48 และ 265 เป็นเหตุ ให้ต้องสิ้นสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ตามมาตรา 106 (6)  แต่ถ้าถือหุ้นกู้ก็จะยังคงดำรงตำแหน่งส.ส.ได้ต่อไป 
นอกจากนี้ยังน่าสนใจว่า ในจำนวนส.ส.ที่ถือครองหุ้นดังกล่าว แยกเป็นส.ส.สัดส่วน 6 คน ส.ส.เขต 7 คน หากที่สุดแล้วศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยืนตามที่ กกต.เสนอ ในส่วนส.ส.เขตไม่มีปัญหาสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ แต่ในส่วนส.ส.สัดส่วนที่รัฐธรรมนูญมาตรา109(2)กำหนดให้ประธานสภาฯ ประกาศ เลื่อนรายชื่อ ผู้ที่อยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้นในเขตเลือกตั้งนั้น ขึ้นมาเป็นส.ส.แทน นั้นจะเป็นปัญหากับส.ส.สัดส่วนที่ถือครองหุ้นเข้าข่ายต้องห้าม 5 คน เพราะพรรคการเมืองที่สังกัด อย่างพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา  พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคภูมิใจไทย เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ทำให้ยังไม่มีบัญชีรายชื่อของพรรคให้ประธานสภาฯประกาศเลื่อนลำดับ
อย่างไรก็ตามยังมีการถือครองหุ้นในบริษัทที่ กกต.ยังไม่เคยวินิจฉัย 18 คน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 9 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรคประชาราช 2 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 3 คน พรรคภูมิใจไทย 2 คน แบะพรรรคประชาธิปัตย์ 1 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น