xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์เคาะขายข้าวโพด5.5แสนตันชงกขช.อนุมัติยุทธศาสตร์ระบายข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เคาะระบายข้าวโพด 5.5 แสนตัน กำหนดให้ส่งออก 5 แสนตัน ใช้ในประเทศ 5 หมื่นตัน เตรียมออกประกาศเชิญชวนวันนี้ ชี้แจงทีโออาร์ 21 ก.ค. และให้ยื่นซอง 28 ก.ค. ส่วนมันสำปะหลังยังไม่ระบาย เหตุยังรอได้ พร้อมกำหนดราคาประกันฤดูใหม่ที่กิโลละ 1.70 บาท เตรียมชงกขช. วันนี้ อนุมัติยุทธศาสตร์ระบายข้าว พร้อมแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่การกระทวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการระบายข้าวโพดได้มีมติเห็นชอบให้มีการเปิดระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสต๊อกจำนวน 5.5 แสนตัน จากจำนวนสต๊อกที่มีอยู่ 1.1 ล้านตัน โดยในวันที่ 17 ก.ค.นี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนที่มีความสนใจมาเข้าร่วมการประมูล และวันที่ 21 ก.ค. จะชี้แจงรายละเอียดการประมูลโดยเป็นการประมูลตามสภาพเป็นรายโกดัง และให้ส่งออก 5 แสนตัน ใช้ในประเทศ 5 หมื่นตัน เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยได้มีโอกาสซื้อ จากนั้นวันที่ 28 ก.ค. จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา และวันที่ 29 ก.ค. จะมีการเจรจาต่อรองราคากันต่อไป

“การเปิดประมูลครั้งนี้ ไม่ต้องรอผลการตรวจสอบคุณภาพจากเซเวย์เยอร์ก่อน เพราะคณะรัฐมนตรีได้มีมติยกเว้นให้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าการเปิดประมูลขายครั้งนี้ จะมีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลมากน้อยแค่ไหน เพราะเป็นการประมูลตามสภาพ ซึ่งในระหว่างนี้ ผู้ที่จะเข้ามาประมูล ก็สามารถที่จะไปตรวจสอบคุณภาพของข้าวโพดในแต่ละโกดังได้ ส่วนราคาจะเป็นเท่าไร ยังบอกไม่ได้
ต้องรอให้ผู้ประมูลเสนอราคามาก่อน และหากขายครั้งนี้จบแล้ว ก็คงจะเปิดขายในส่วนที่เหลือต่อไป”นางพรทิวากล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงการประกันราคาข้าวโพด หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห่งชาติ ที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีมติให้รับประกันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ฤดูการผลิตปี 2552 ราคากิโลกรัมละ 7.10 บาท และครม. ได้มีมติเห็นชอบตามนี้แล้ว ซึ่งจะให้สิทธิ์เกษตรกร 20 ไร่ หรือปริมาณไม่เกิน 12 ตัน/ราย เริ่มส.ค.-พ.ย.2552 โดยหากรัฐชดเชยส่วนต่างราคาขั้นต่ำ 1 บาท/กก. จะใช้เงิน 4,650 ล้านบาท ชดเชย 1.50 บาท/กก. ใช้เงิน 6,800 ล้านบาท ชดเชย 2 บาท/กก. ใช้เงิน 8,900 ล้านบาท ชดเชย 2.50 บาท/กก. ใช้เงิน 11,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการเสนอกรอบวงเงินชดเชยให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) พิจารณาต่อไป

ส่วนการประชุมคณะอนุกรรมการระบายมันสำปะหลัง ที่ประชุมเห็นว่ายังไม่ต้องรีบระบาย เพราะคุณภาพยังไม่เสื่อมสภาพเร็วเท่าข้าวโพดที่ควรเร่งระบาย แต่ได้เห็นชอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ที่คาดว่าในปีนี้จะมีผลผลิตประมาณ 29.7 ล้านตัน โดยกำหนดราคาประกันขั้นต่ำกก.ละ 1.70 บาท ให้สิทธิเกษตรกรรายละไม่เกิน 100 ตัน
โดยจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาติ พิจารณาก่อนมีมติสั่งการให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการตลาดข้าว ซึ่งได้มีมติให้นำเสนอยุทธศาสตร์การระบายข้าวให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาในวันนี้ (17 ก.ค.) พร้อมทั้งเสนอให้มีการกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือข้าวนาปี ซึ่งจะมีการเสนอแนวทางหลายๆ แนวทางทั้งการรับประกันและการจำนำ

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ยุทธศาสตร์การระบายข้าวที่จะเสนอให้กขช. พิจารณานั้น ประกอบด้วย 1.ชนิดข้าวให้ระบายทั้งข้าวเปลือกและข้าวสาร 2.เปิดระบายทั้งภายในประเทศ และเพื่อส่งออก 3.ให้ผู้สนใจเสนอราคาและปริมาณที่จะซื้อ 4.กำหนดระบายให้ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ 5.บางช่วงเสนอผลิตเป็นข้าวถุงเพื่อจำหน่ายในประเทศหรือส่งออก 6.ระบายผ่านเจรจาขายรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) โดยปัจจุบันรัฐบาลมีข้าวอยู่ในสต๊อกประมาณ 6 ล้านตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น