รมว.พาณิชย์ ค้านแนวคิด คต.นำข้าวในสต๊อก 6 ล้านตัน ผลิตเป็นข้าวถุงขายแข่งในประเทศ หวั่นการแทรกแซงโดยไม่จำเป็น-บิดเบือนกลไกตลาด ส่งผลกระทบให้ราคาข้าวในประเทศตกต่ำ
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)วันที่ 17 กรกฎาคม 2552 (วันนี้) ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ เป็นประธาน โดยระบุว่า กระทรวงพาณิชย์จะเสนอกรอบยุทธศาสตร์การระบายข้าวให้ กขช.พิจารณา ก่อนจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป และหาก ครม.อนุมัติ ก็จะดำเนินการระบายข้าวในทันที
นางพรทิวา กล่าวถึงประเด็นสำคัญที่ กขช.จะพิจารณาในวันนี้ เป็นเรื่องยุทธศาสตร์ระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลจำนวนกว่า 6 ล้านตัน ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เตรียมเสนอกรอบยุทธศาสตร์การระบายข้าวเปลือก หรือข้าวสาร ให้ที่ประชุมได้พิจารณา โดยจะแบ่งการระบายเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนแรก คือ การส่งออกที่จะกำหนดราคากลาง และให้ผู้สนใจเสนอราคา และปริมาณการซื้อเข้ามา และส่วนที่สอง ได้แก่ การระบายเพื่อการบริโภคในประเทศ โดยจะทำเป็นข้าวถุงจำหน่ายในประเทศ
รมว.พาณิชย์ กล่าวเสริมว่า กรมการค้าต่างประเทศควรปรับปรุง และทบทวนยุทธศาสตร์การระบายข้าวในบางประเด็น โดยเฉพาะการผลิตเป็นข้าวถุง เพราะเป็นการแทรกแทรกตลาดข้าวภายในประเทศโดยไม่มีเหตุผลจำเป็นที่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลให้ข้าวในประเทศราคาตก
ส่วนการประชุม กขช.ในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอแนวทางกำหนดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2552/2553 ที่ผลผลิตจะออกสู่ท้องตลาดปลายปีนี้
สำหรับแนวทางกำหนดราคารับจำนำข้าวนาปี จะพิจารณาจากต้นทุนการผลิตบวกกำไรให้กับชาวนาร้อยละ 10-20 พร้อมวิเคราะห์แนวโน้มราคาข้าวในตลาดโลก ซึ่งอาจจะทำให้ราคารับจำนำข้าวฤดูกาลใหม่ สูงกว่าราคาตลาดเพียงร้อยละ 5 -7 เท่านั้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว ครั้งก่อน ยังไม่มีข้อสรุปถึงแนวทางต่างๆ ตามที่กรมการค้าต่างประเทศเสนอมา และในที่ประชุมฯ ได้ให้ทบทวนในหลายจุดอยู่ เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตุว่า ยังไม่ครอบคลุมและอาจไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
ดังนั้น สิ่งที่จะเสนอให้ กขช.พิจาณานั้น เป็นความรับผิดชอบของ กรมการค้าต่างประเทศ หากผิดพลาดคณะอนุกรรมการระบายข้าว ไม่เกี่ยวข้องเพราะได้แสดงความเห็นโต้แย้ง และตั้งข้อสังเกตุไปหลายครั้งแล้ว
