ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”มาเหนือเมฆ บีบครม. ให้มีมติส่งกฤษฎีกาตีความ หากต้องการล้มประมูลข้าว หวังดันตัวเองพ้นผิดกรณีเอกชนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย พร้อมเสนอเกณฑ์ราคาระบายสินค้าเกษตรให้พิจารณาด้วย
+++แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (3 มิ.ย.) กระทรวงพาณิชย์จะเสนอประเด็นการระบายสต๊อกข้าวในสต๊อกรัฐบาลจำนวนกว่า 2 ล้านตันให้กับผู้ส่งออก 17 ราย ที่ได้มีการเซ็นสัญญาไปแล้วให้ครม.พิจารณา หากครม.ต้องการที่จะยกเลิกผลการประมูลข้าวดังกล่าว
ก็จะเสนอให้ครม.ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความสัญญาการซื้อขายข้าวที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำไว้กับผู้ชนะการประมูลว่าสามารถยกเลิกได้หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางภาครัฐ
+++นอกจากนี้ จะเสนอหลักเกณฑ์การกำหนดราคาระบายสต๊อกสินค้าเกษตรทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้ครม.พิจารณาด้วย หากครม.อนุมัติ ทางกรมการค้าต่างประเทศจะดำเนินการเปิดระบายสินค้าเกษตรที่ยังเหลืออยู่ในสต๊อกต่อไป รวมถึงเสนอให้ครม.พิจารณาการขยายปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ตามที่เกษตรกรร้องขอ ซึ่งกระทรวงฯ
จะรวบรวมข้อมูลผลผลิตข้าวนาปรังที่เหลือในตลาดนำเสนอ
+++“ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำหลักเกณฑ์ราคาในการระบายสินค้าเกษตรแต่ละชนิดออกมาแล้ว ซึ่งเป็นราคาที่คำนวณจากราคาตลาดโลก ตลาดภายในประเทศ มาหารเฉลี่ยกัน หากครม.อนุมัติ ก็คงจะเริ่มระบายสินค้าเกษตรได้ทันที” แหล่งข่าวกล่าว
+++รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า อคส. ได้เปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 2.6 ล้านตัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา และอนุมัติขายให้กับผู้ส่งออกจำนวน 17 ราย ปริมาณรวมกว่า 2 ล้านตัน ในราคาตันละ 1.4 หมื่นบาทขึ้นไป
+++ทั้งนี้ ในการระบายข้าวจำนวนดังกล่าว มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทักท้วงว่าเป็นการขายข้าวที่ทำให้รัฐบาลขาดทุนมาก จนกระทั่งได้มีมติครม.ออกมาว่า การระบายสินค้าเกษตรในสต๊อกรัฐบาล หากประสบปัญหาการขาดทุนต้องรายงานให้ครม.รับทราบ เพื่อรับผิดชอบร่วมกัน ขณะเดียวกัน
ยังมีปัญหาว่ามีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลข้าว ของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง
+++อย่างไรก็ตาม แม้ครม. จะไม่มีการล้มการประมูลข้าวครั้งนี้ แต่ก็ได้มีการแต่งตั้งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์ไปจัดทำแผนการช่วยเหลือสินค้าเกษตร แผนการระบายสินค้าเกษตร และได้ดึงงานการระบายสินค้าเกษตรทั้งหมดไปให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ
โดยให้เสนอแนวทางทั้งหมดให้ครม.พิจารณาในวันนี้ ( มิ.ย.) รวมไปถึงแนวทางการบริหารจัดการกับข้าวในสต๊อกที่ได้อนุมัติขายไปแล้วด้วย
+++สำหรับการเสนอให้ครม.พิจารณาในประเด็นการขายข้าวนั้น หากครม. ต้องการที่จะยกเลิก ครม. จะต้องมีมติให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ชี้ขาดในสัญญาว่าสามารถยกเลิกได้หรือไม่ ซึ่งเท่ากับว่า กระทรวงพาณิชย์จะพ้นผิด โดยหากผลออกมาว่ายกเลิกได้ เพราะไม่ได้เป็นผู้สั่งยกเลิกเอง แต่หากผลออกมาว่ายกเลิกไม่ได้
กระทรวงพาณิชย์ก็มีความชอบธรรมที่จะขายข้าวในครั้งนี้ได้ต่อไป
////////////
+++แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (3 มิ.ย.) กระทรวงพาณิชย์จะเสนอประเด็นการระบายสต๊อกข้าวในสต๊อกรัฐบาลจำนวนกว่า 2 ล้านตันให้กับผู้ส่งออก 17 ราย ที่ได้มีการเซ็นสัญญาไปแล้วให้ครม.พิจารณา หากครม.ต้องการที่จะยกเลิกผลการประมูลข้าวดังกล่าว
ก็จะเสนอให้ครม.ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความสัญญาการซื้อขายข้าวที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำไว้กับผู้ชนะการประมูลว่าสามารถยกเลิกได้หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางภาครัฐ
+++นอกจากนี้ จะเสนอหลักเกณฑ์การกำหนดราคาระบายสต๊อกสินค้าเกษตรทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้ครม.พิจารณาด้วย หากครม.อนุมัติ ทางกรมการค้าต่างประเทศจะดำเนินการเปิดระบายสินค้าเกษตรที่ยังเหลืออยู่ในสต๊อกต่อไป รวมถึงเสนอให้ครม.พิจารณาการขยายปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ตามที่เกษตรกรร้องขอ ซึ่งกระทรวงฯ
จะรวบรวมข้อมูลผลผลิตข้าวนาปรังที่เหลือในตลาดนำเสนอ
+++“ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำหลักเกณฑ์ราคาในการระบายสินค้าเกษตรแต่ละชนิดออกมาแล้ว ซึ่งเป็นราคาที่คำนวณจากราคาตลาดโลก ตลาดภายในประเทศ มาหารเฉลี่ยกัน หากครม.อนุมัติ ก็คงจะเริ่มระบายสินค้าเกษตรได้ทันที” แหล่งข่าวกล่าว
+++รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า อคส. ได้เปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 2.6 ล้านตัน เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา และอนุมัติขายให้กับผู้ส่งออกจำนวน 17 ราย ปริมาณรวมกว่า 2 ล้านตัน ในราคาตันละ 1.4 หมื่นบาทขึ้นไป
+++ทั้งนี้ ในการระบายข้าวจำนวนดังกล่าว มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทักท้วงว่าเป็นการขายข้าวที่ทำให้รัฐบาลขาดทุนมาก จนกระทั่งได้มีมติครม.ออกมาว่า การระบายสินค้าเกษตรในสต๊อกรัฐบาล หากประสบปัญหาการขาดทุนต้องรายงานให้ครม.รับทราบ เพื่อรับผิดชอบร่วมกัน ขณะเดียวกัน
ยังมีปัญหาว่ามีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะจากผู้ส่งออกที่ชนะการประมูลข้าว ของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง
+++อย่างไรก็ตาม แม้ครม. จะไม่มีการล้มการประมูลข้าวครั้งนี้ แต่ก็ได้มีการแต่งตั้งให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์ไปจัดทำแผนการช่วยเหลือสินค้าเกษตร แผนการระบายสินค้าเกษตร และได้ดึงงานการระบายสินค้าเกษตรทั้งหมดไปให้กรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ
โดยให้เสนอแนวทางทั้งหมดให้ครม.พิจารณาในวันนี้ ( มิ.ย.) รวมไปถึงแนวทางการบริหารจัดการกับข้าวในสต๊อกที่ได้อนุมัติขายไปแล้วด้วย
+++สำหรับการเสนอให้ครม.พิจารณาในประเด็นการขายข้าวนั้น หากครม. ต้องการที่จะยกเลิก ครม. จะต้องมีมติให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ชี้ขาดในสัญญาว่าสามารถยกเลิกได้หรือไม่ ซึ่งเท่ากับว่า กระทรวงพาณิชย์จะพ้นผิด โดยหากผลออกมาว่ายกเลิกได้ เพราะไม่ได้เป็นผู้สั่งยกเลิกเอง แต่หากผลออกมาว่ายกเลิกไม่ได้
กระทรวงพาณิชย์ก็มีความชอบธรรมที่จะขายข้าวในครั้งนี้ได้ต่อไป
////////////
