ASTV ผู้จัดการรายวัน- มาร์คเอาใจฐานเสียงชาวไร่อ้อย ตีกลับข้อเสนอเอกชนที่ขอลดราคาน้ำตาลทรายลงช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ยันต้องให้กองทุนอ้อยฯใช้หนี้ 1.8 หมื่นล้านบาทหมดเสียก่อน ชาวไร่จวกราคาน้ำตาลไทยไม่ได้สูงกว่าต่างประเทศเลย พร้อมเร่งรัดให้ 8 หน่วยงานแจงข้อเท็จจริงต่อศาลฯวันที่ 16 ก.ค.นี้เกี่ยวกับปัญหามาตรา 67
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ที่ให้มีการพิจารณาปรับลดราคาน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศ(โควตาก.)ลงที่ก่อนหน้าได้มีการปรับขึ้นราคาหน้าโรงงาน 5 บาทต่อกิโลกรัมเพื่อส่งเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายในการชำระหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) ซึ่งนายอภิสิทธิ์เห็นว่าควรจะชำระหนี้ให้เป็นไปตามแผนก่อนซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณอีก 1 ปี
“นายกฯเห็นว่า หนี้ที่จะต้องชำระให้กับกองทุนอ้อยและน้ำตาล ยังเหลืออีกกว่า 18,000 ล้านบาท จากยอดหนี้ 21,052 ล้านบาท ควรจะดำเนินการชำระให้เสร็จสิ้นใน 1 ปีก่อน ซึ่งจะถือว่าเป็นการแก้ปัญหาน้ำตาลในระบบก่อน”นายพุทธิพงษ์กล่าว
อย่างไรก็ตามได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)ไปศึกษาผลกระทบหากมีการลดอัตราการนำเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลลงมา รวมถึงต้นทุนต่างๆ ส่วนการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการใช้สิทธิซื้อน้ำตาลทรายโควตา ค.(สำหรับผลิตสินค้าส่งออก) นั้นที่ประชุมฯ เห็นชอบในหลักการ เช่น ให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอรับสิทธิฯ ได้ปีละ 2 ครั้งจากเดิมปีละครั้ง, ให้ผู้ได้รับสิทธิฯ สามารถขนย้ายน้ำตาลในแต่ละเดือนได้มากหรือน้อยกว่าโควตาที่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากฤดูกาลของผลไม้ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไม่แน่นอน
นายกำธร กิตติโชติทรัพย์ ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย แถลงข่าวชาวไร่อ้อยของสหพันธ์ที่มีสมาชิกสัดส่วนถึง 40% ของชาวไร่อ้อยทั่วประเทศว่า ขอคัดค้านการลดราคาน้ำตาลทรายในประเทศตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน โดยขอชี้แจงของเท็จจริงว่าขณะนี้น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในตลาดโลกเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ตลาดลอนดอนหมายเลข5 มีราคาที่ 490 เหรียญสหรัฐ/ตัน เมื่อร่วมค่าใช้จ่ายในการขนส่งแล้วน่าจะอยู่ที่ 520 เหรียญเมื่อคิดเป็นราคาในไทยแล้วจะมีราคา 18 บาท/ก.ก.ใกล้เคียงกับราคาน้ำตาลในประเทศ โดยราคาน้ำตาลขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในไทยยังต่ำกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เขมร เวียดนามที่มีราคา 22-30 บาท/ก.ก. ยกเว้นมาเลเซียที่รัฐอุดหนุนให้ขายที่ 16-17 บาท/ก.ก.
สำหรับกรณีมาบตาพุด นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า กรอ.มอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐ 8 หน่วยงานที่ถูกภาคประชาชนฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล และให้เป็นเอกภาพ โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพชี้แจงศาลเพื่อให้ปากคำในวันที่ 16 ก.ค.นี้
นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากภาครัฐไม่เร่งดำเนินการจะสร้างผลกระทบให้กับเอกชนที่จะเร่งลงทุน และกระทบความเชื่อมั่นของไทยต่อต่างประเทศ จะส่งผลให้ยอดขายตกและยังกระทบกับการชำระหนี้คือธนาคาพาณิชย์ เนื่องจากในมาบตะพุดมีโปรเจกการลงทุนจำนวนมาก รวมทั้งยังส่งผลเป็นลูกโซ่กับโรงงานกว่า 50 แห่งรวมถึงการลงทุนอีกว่า 4 แสนล้านบาท
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ที่ให้มีการพิจารณาปรับลดราคาน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศ(โควตาก.)ลงที่ก่อนหน้าได้มีการปรับขึ้นราคาหน้าโรงงาน 5 บาทต่อกิโลกรัมเพื่อส่งเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายในการชำระหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) ซึ่งนายอภิสิทธิ์เห็นว่าควรจะชำระหนี้ให้เป็นไปตามแผนก่อนซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณอีก 1 ปี
“นายกฯเห็นว่า หนี้ที่จะต้องชำระให้กับกองทุนอ้อยและน้ำตาล ยังเหลืออีกกว่า 18,000 ล้านบาท จากยอดหนี้ 21,052 ล้านบาท ควรจะดำเนินการชำระให้เสร็จสิ้นใน 1 ปีก่อน ซึ่งจะถือว่าเป็นการแก้ปัญหาน้ำตาลในระบบก่อน”นายพุทธิพงษ์กล่าว
อย่างไรก็ตามได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)ไปศึกษาผลกระทบหากมีการลดอัตราการนำเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลลงมา รวมถึงต้นทุนต่างๆ ส่วนการปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการใช้สิทธิซื้อน้ำตาลทรายโควตา ค.(สำหรับผลิตสินค้าส่งออก) นั้นที่ประชุมฯ เห็นชอบในหลักการ เช่น ให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอรับสิทธิฯ ได้ปีละ 2 ครั้งจากเดิมปีละครั้ง, ให้ผู้ได้รับสิทธิฯ สามารถขนย้ายน้ำตาลในแต่ละเดือนได้มากหรือน้อยกว่าโควตาที่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากฤดูกาลของผลไม้ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตไม่แน่นอน
นายกำธร กิตติโชติทรัพย์ ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย แถลงข่าวชาวไร่อ้อยของสหพันธ์ที่มีสมาชิกสัดส่วนถึง 40% ของชาวไร่อ้อยทั่วประเทศว่า ขอคัดค้านการลดราคาน้ำตาลทรายในประเทศตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน โดยขอชี้แจงของเท็จจริงว่าขณะนี้น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในตลาดโลกเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ตลาดลอนดอนหมายเลข5 มีราคาที่ 490 เหรียญสหรัฐ/ตัน เมื่อร่วมค่าใช้จ่ายในการขนส่งแล้วน่าจะอยู่ที่ 520 เหรียญเมื่อคิดเป็นราคาในไทยแล้วจะมีราคา 18 บาท/ก.ก.ใกล้เคียงกับราคาน้ำตาลในประเทศ โดยราคาน้ำตาลขาวและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในไทยยังต่ำกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว เขมร เวียดนามที่มีราคา 22-30 บาท/ก.ก. ยกเว้นมาเลเซียที่รัฐอุดหนุนให้ขายที่ 16-17 บาท/ก.ก.
สำหรับกรณีมาบตาพุด นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า กรอ.มอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐ 8 หน่วยงานที่ถูกภาคประชาชนฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาล และให้เป็นเอกภาพ โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นเจ้าภาพชี้แจงศาลเพื่อให้ปากคำในวันที่ 16 ก.ค.นี้
นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า หากภาครัฐไม่เร่งดำเนินการจะสร้างผลกระทบให้กับเอกชนที่จะเร่งลงทุน และกระทบความเชื่อมั่นของไทยต่อต่างประเทศ จะส่งผลให้ยอดขายตกและยังกระทบกับการชำระหนี้คือธนาคาพาณิชย์ เนื่องจากในมาบตะพุดมีโปรเจกการลงทุนจำนวนมาก รวมทั้งยังส่งผลเป็นลูกโซ่กับโรงงานกว่า 50 แห่งรวมถึงการลงทุนอีกว่า 4 แสนล้านบาท
