xs
xsm
sm
md
lg

จับตากอน.ชี้ขาดเงินค่าอ้อยขั้นสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-กอน.ถกด่วน 22 มิ.ย.นี้ จับตาชี้ขาดการหักราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 2551/52 ที่สูงกว่าขั้นต้นคืนกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายตามมติครม.เดิมหรือไม่ หลังนายกรัฐมนตรีหาเสียงกับชาวไร่อ้อยด้วยการรับปากให้ได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องส่งกลับกองทุนฯ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า วันที่ 22 มิ.ย.นี้ กอน.จะประชุมเพื่อพิจารณาราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 2551/52 ซึ่งกำหนดที่ 667 บาทต่อตัน แต่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิมกำหนดว่าหากราคาขั้นสุดท้ายสูงกว่าขั้นต้นซึ่งอยู่ที่ 638 บาทต่อตัน ส่วนเกินจะต้องส่งคืนใช้หนี้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) และที่ผ่านมา ชาวไร่อ้อยได้ไปพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีได้รับปากชาวไร่ว่าไม่ต้องจ่ายคืน ดังนั้นกอน.จึงต้องพิจารณาถึงแนวทางดังกล่าวเพื่อนำเสนอครม.พิจารณาอีกครั้ง
“ส่วนเกินราคาขั้นสุดท้ายเทียบกับขั้นต้นคิดเป็นเงินรวมประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท กอน.ส่วนใหญ่เห็นว่าควรจะปฏิบัติตามระเบียบที่อย่างน้อยก็ควรจะหักเงินที่เกินมาไว้บ้างก็ยังดีเพื่อให้เกิดวินัยว่าเมื่อราคาอ้อยดีก็ควรจะสะสมเข้ากองทุนอ้อยฯ เพื่อวันหนึ่งราคาอ้อยตกต่ำจะได้นำเงินนี้มาดูแลราคา ไม่ใช่จะกู้อย่างเดียวแม้ว่าฐานะกองทุนอ้อยฯ จะสามารถชำระหนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาก็ตาม”แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2552/53 มีทิศทางที่ดี โดยล่าสุดบริษัทอ้อยและน้ำตาลทราย จำกัด (อนท.) ได้ขายน้ำตาลส่งออกไปแล้วคิดเป็น 21% จากปริมาณน้ำตาลทรายทั้งสิ้น 8 ล้านกระสอบทำราคาเฉลี่ยที่ 18 เซนต่อปอนด์ ซึ่งถือเป็นราคาที่ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตาม ราคาตลาดโลกเริ่มมีการปรับตัวลดลงในช่วงนี้เฉลี่ยที่ระดับ 17 เซนต่อปอนด์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์มีการอ่อนค่าลงมา ทำให้เกิดการเทขายทำกำไรระดับหนึ่ง สินค้าโภคภัณฑ์จึงลดลงเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังคงอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม จากการคำนวณที่ผ่านมา หากอนท. สามารถทำราคาเฉลี่ย 16.5 เซนต่อปอนด์ทั้งหมดจะทำให้ราคาอ้อยขั้นต้นอยู่ในระดับ 830 บาทต่อตัน แต่หากทำราคาได้เฉลี่ย 17-18 เซนต่อปอนด์ ราคาก็อาจจะเห็นเกินกว่า 850 บาทต่อตันได้ แต่จะถึงระดับ 1,000 บาทต่อตันหรือไม่นั้นยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างตอบยาก เพราะจะต้องดูราคาน้ำตาลตลาดโลกเป็นสำคัญ
แหล่งข่าวจากโรงงานน้ำตาลกล่าวว่า โรงงานได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) แล้ว ที่จะขอให้พิจารณาในเรื่องของการจ่ายเงินค่าอ้อยขั้นสุดท้ายที่เพิ่มขึ้นว่าหากให้จ่ายทันทีหลังมีมติจากกอน. คงจะไม่ได้ แต่จะรอให้มีการลงราชกิจจานุเบกษาก่อนเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบขั้นตอน ส่วนการหักเงินให้ชาวไร่ทั้งหมดแทนส่งคืนกองทุนฯ นั้นเห็นว่าส่วนหนึ่งน่าจะส่งให้กองทุนฯ บ้าง
สำหรับปริมาณอ้อยฤดูการผลิต 2552/53 มีแนวโน้มจะสูงขึ้นมาก เนื่องจากผลพวงจากทิศทางราคาอ้อยขั้นสุดท้ายที่ส่งสัญญาณสูงกว่าขั้นต้นตั้งแต่กลางปีที่แล้วจนถึงราคาอ้อยขั้นต้น 2552/53 ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นจึงทำให้ปริมาณอ้อยหากเทียบกับปีนี้ที่อยู่ 66 ล้านตันจะสูงกว่าอย่างแน่นอน โดยคาดว่าจะมากกว่า 70 ล้านตัน
กำลังโหลดความคิดเห็น