"เพื่อแม้ว"ผนึก"แก๊งแดงถ่อย" ฉวยโอกาสใช้กรณี "กษิต" เป็นเงื่อนไขก่อหวอดป่วนเมืองอีกระลอก ประกาศกดดันทั้งในสภาและข้างถนน เตรียมป่วนประชุมอาเซียนซัมมิต ที่ภูเก็ต
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (9ก.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ด้านหน้าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) หรือ ตึกแดง โดยนำเอกสารพร้อมคลิปวีดีโอ คำให้สัมภาษณ์ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ และมีการเผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.52 ว่า จะลาออกจากตำแหน่งหากถูกดำเนินคดีในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายพร้อมพงศ์ และนายพิชา ได้มายืนรอนายอภิสิทธิ์ ที่หน้าตึกแดงนานกว่า 30 นาที จนกระทั่งเวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถึงโดยมีตำรวจติดตามจำนวนมากห้อมล้อมและนายอภิสิทธิ์ ได้เดินผ่านนายพร้อมพงศ์ และคณะที่ยืนรออยู่ โดยนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เหลียวไปมองกลุ่มของนายพร้อมพงศ์แม้แต่น้อย และได้เดินผ่านไปชมงานแสดงนิทรรศการประชาสัมพันธ์ “เชิญชวนให้คนไทยหันมาบริโภคลำไย ช่วยเหลือเกษตร” ที่จัดขึ้นอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน โดยนายอภิสิทธิ์ ได้รับประทานลำไยโชว์ต่อหน้าช่างภาพผู้สื่อข่าว
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เดินขึ้นตึกเพื่อเข้าประชุมครม. โดยปล่อยให้นายพร้อมพงศ์ และคณะยืนรอเก้อ ต่อมานายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เดินมารับมอบหนังสือ แทนนายอภิสิทธิ์
นายพร้อมพงศ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือว่า ตนในฐานะตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน ที่มีจำนวนส.ส. 188 เสียง ได้เดินทางมายื่นหลักฐานที่เป็นคลิปวีดีโอ พร้อมหลักฐานที่นายกษิต ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาว่าเมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย และการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ จะลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศทันที
นอกจากนี้ ยังขอให้มีการเปิดเผยหนังสือการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอต่อที่ประชุมยูเนสโก ที่สเปน ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารด้วย
"รู้สึกผิดหวัง ที่นายอภิสิทธิ์ไม่มารับหนังสือ และเดินผ่านหน้าผมไป ทั้งที่ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว และจัดให้อยู่ในลำดับที่ 1 แต่กลับให้รองเลขาธิการนายกฯ มารับหนังสือแทน จึงรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่นายอภิสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะมีวุฒิภาวะของความเป็นผู้นำและให้เกียรติพรรคฝ่ายค้านในการดำเนินการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลแทนประชาชน" นายพร้อมพงศ์กล่าว
บุกปชป.จี้ชวนจัดการ
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ ยังได้เดินทางไปที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือ และมอบคลิปการให้สัมภาษณ์ของนายกษิต แก่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายพีรยศ ราฮิมมูลา ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ รับหนังสือดังกล่าวแทน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การเดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ก็เพื่อทวงสัจจะวาจาที่นายกษิต ได้เคยพูดไว้ เพราะวันนี้ รมว.ต่างประเทศเป็นหน้าตาของประเทศไทย แต่กลับไม่รักษาสัจจะโดยบอกว่าจะไม่ลาออก และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กับนายอภิสิทธิ์ ยังให้ท้ายว่า ไม่ต้องลาออก ที่สำคัญคือ นายกษิตจะต้องไปตกลงสัญญาการค้าระหว่างประเทศ ก็จะมีปัญหา เพราะประเทศต่างๆ จะไม่เชื่อถือรัฐมนตรีที่ไม่รักษาสัจจะ
นายพร้อมพงศ์ กล่าววด้วยว่า ที่ตนมาร้องต่อนายชวน เพราะเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดเสมอว่า มาตรฐานทางจริยธรรม และความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์สูง เพราะเป็นสถาบันการเมืองมา 63 ปี จึงอยากทราบว่านายชวน จะดำเนินการอย่างไร ในฐานะผู้ใหญ่ของพรรค
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า จะเดินทางไปยื่นหนังสือประท้วงนายกษิต ต่อเลขาธิการอาเซียน ในระหว่างที่มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่จ.ภูเก็ตในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อให้ที่ประชุมทราบว่า ประเทศไทยมีรัฐมนตรีที่ไม่มีสัจจะวาจา แล้วที่ประชุมจะรับได้หรือไม่ และขอยืนยันว่าไปยื่นแล้วก็กลับ ไม่มีม็อบแน่นอน
นปช.ชุมนุมหน้ากต.ไล่"กษิต"
เวลา 09.30 น. วันเดียวกันนี้ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำนปช. พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงได้ไปชุมนุมที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกดดันให้นายกษิต ลาออกจากตำแหน่ง โดยนายจรัล กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงจะทำหนังสือถึงผู้นำทุกประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมอาเซียนซัมมิต +3 +6 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าอย่าเข้าร่วมเจรจากับผู้ก่อการร้ายปิดสนามบิน
ด้านนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจความเห็นประชาชนกว่า 60% เห็นว่านายกษิต ควรลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะนายกษิต เป็นรัฐมนตรีในกระทรวงที่ถือเป็นหน้าตา เป็นตัวแทนของประเทศในเวทีโลก ตำแหน่งที่นายกษิต นำติดตัวไป ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศมีปัญหา พรรคประชาธิปัตย์ เคยออกมาเรียกร้องให้คนนั้นคนนี้แสดงมารยาททางการเมือง เคยแสดงความชื่นชม ตอนที่อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้โดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ว่าเป็นการแสดงสปิริต วันนี้ก็อยากเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี เช่นกันว่าไม่ต้องรอให้กระบวนการตัดสินความผิดชัดเจน นายกษิต ควรแสดงสปิริตลาออกเอง และอยากให้นายกฯ พิจารณาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขณะนี้ภาพลักษณ์ของประเทศก็ตกต่ำพอแล้ว อย่าให้ตกต่ำมากไปกว่านี้เลย
กดดันทั้งในสภา-ข้างถนน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายกษิต และพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่ายังมีอีกหลายขั้นตอน กว่ากระบวนการพิจารณาคดีนี้จะเสร็จนั้น พฤติการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ ควรคิดถึงมารยาททางการเมือง ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมความกล้าหาญของพนักงานสอบสวน ที่ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา การแจ้งข้อหาผู้ก่อการร้าย ถือว่าไม่ได้รุนแรงเกินความจริง เพราะการบุกยึดสนามบินนานาชาติ ถือว่าเข้าองค์ประกอบความผิดฐานผู้ก่อการร้ายแล้ว หากนายกฯ ยังปล่อยให้ความเป็นฝ่ายบริหาร เข้าไปแทรกแซงการทำสำนวน ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม จะสร้างความเสียหายแก่กระบวนการยุติธรรมทั้งระบบในระยะยาว เห็นว่าถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเสียสละ อย่าดึงปัญหาของนายกษิต เพราะกลัวปัญหาความวุ่นวายภายในพรรค หากต้องมีการปรับครม.
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องหลายวันแล้ว แต่นายกษิต และพรรคประชาธิปัตย์ยังคงยืนกรานไม่ต้องออก จะมีมาตรการกดดันอย่างไรต่อไป นายไพจิตร กล่าวว่า ทันทีที่เปิดประชุมรัฐสภา เรื่องนี้จะเป็นประเด็นที่เราต้องทวงถาม และติดตามจากนายกรัฐมนตรี เพราะ ที่นายกฯตั้งกฎเหล็กเอาไว้ 9 ข้อนั้น จะทำให้เป็นจริง หรือเป็นแค่ลมปากเท่านั้น ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวนอกสภา ก็จะมีการชุมนุมขับไล่นายกษิต ตลอด ไม่ว่าจะไปพบปะประชาชนที่ไหนก็ตาม ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนนายกษิต ก็คงชุมนุมกดดันให้นายกษิต อยู่ในตำแหน่งต่อไปชั่วกาลนาน ซึ่งเราเป็นห่วงว่า อาจมีกระบวนการกดดันไม่ให้อิสระกับพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องรักษาความสามัคคีภายในพรรคเอาไว้ หากปรับนายกษิต ออกจากตำแหน่ง ก็มีผู้ใหญ่ในพรรคที่เหมาะสม จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนเยอะ คงกลัวจะเกิดความวุ่นวาย แต่ตนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ มองข้ามปัญหาในพรรค โดยดูประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า นายกษิต ไม่มีความเหมาะสมตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งแล้ว ตนมองว่า ในบรรดาบุคคลในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ มีมาตรฐานสูง แต่เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น และนายอภิสิทธิ์ ไม่มีการดำเนินการใดๆ ถือว่ามองนายอภิสิทธิ์ ผิดไป อย่างไรก็ตาม นายกษิตควรเอาอย่างนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่แสดงสปิริตโดยการลาออกเป็นการแสดงความรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (9ก.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ด้านหน้าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) หรือ ตึกแดง โดยนำเอกสารพร้อมคลิปวีดีโอ คำให้สัมภาษณ์ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ และมีการเผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ เมื่อวันที่ 23 ก.พ.52 ว่า จะลาออกจากตำแหน่งหากถูกดำเนินคดีในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายพร้อมพงศ์ และนายพิชา ได้มายืนรอนายอภิสิทธิ์ ที่หน้าตึกแดงนานกว่า 30 นาที จนกระทั่งเวลา 09.30 น. นายอภิสิทธิ์ เดินทางมาถึงโดยมีตำรวจติดตามจำนวนมากห้อมล้อมและนายอภิสิทธิ์ ได้เดินผ่านนายพร้อมพงศ์ และคณะที่ยืนรออยู่ โดยนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เหลียวไปมองกลุ่มของนายพร้อมพงศ์แม้แต่น้อย และได้เดินผ่านไปชมงานแสดงนิทรรศการประชาสัมพันธ์ “เชิญชวนให้คนไทยหันมาบริโภคลำไย ช่วยเหลือเกษตร” ที่จัดขึ้นอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน โดยนายอภิสิทธิ์ ได้รับประทานลำไยโชว์ต่อหน้าช่างภาพผู้สื่อข่าว
จากนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้เดินขึ้นตึกเพื่อเข้าประชุมครม. โดยปล่อยให้นายพร้อมพงศ์ และคณะยืนรอเก้อ ต่อมานายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เดินมารับมอบหนังสือ แทนนายอภิสิทธิ์
นายพร้อมพงศ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือว่า ตนในฐานะตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน ที่มีจำนวนส.ส. 188 เสียง ได้เดินทางมายื่นหลักฐานที่เป็นคลิปวีดีโอ พร้อมหลักฐานที่นายกษิต ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมาว่าเมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย และการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ จะลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศทันที
นอกจากนี้ ยังขอให้มีการเปิดเผยหนังสือการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอต่อที่ประชุมยูเนสโก ที่สเปน ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารด้วย
"รู้สึกผิดหวัง ที่นายอภิสิทธิ์ไม่มารับหนังสือ และเดินผ่านหน้าผมไป ทั้งที่ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว และจัดให้อยู่ในลำดับที่ 1 แต่กลับให้รองเลขาธิการนายกฯ มารับหนังสือแทน จึงรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ที่นายอภิสิทธิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะมีวุฒิภาวะของความเป็นผู้นำและให้เกียรติพรรคฝ่ายค้านในการดำเนินการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลแทนประชาชน" นายพร้อมพงศ์กล่าว
บุกปชป.จี้ชวนจัดการ
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ ยังได้เดินทางไปที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือ และมอบคลิปการให้สัมภาษณ์ของนายกษิต แก่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายพีรยศ ราฮิมมูลา ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ รับหนังสือดังกล่าวแทน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การเดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ก็เพื่อทวงสัจจะวาจาที่นายกษิต ได้เคยพูดไว้ เพราะวันนี้ รมว.ต่างประเทศเป็นหน้าตาของประเทศไทย แต่กลับไม่รักษาสัจจะโดยบอกว่าจะไม่ลาออก และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กับนายอภิสิทธิ์ ยังให้ท้ายว่า ไม่ต้องลาออก ที่สำคัญคือ นายกษิตจะต้องไปตกลงสัญญาการค้าระหว่างประเทศ ก็จะมีปัญหา เพราะประเทศต่างๆ จะไม่เชื่อถือรัฐมนตรีที่ไม่รักษาสัจจะ
นายพร้อมพงศ์ กล่าววด้วยว่า ที่ตนมาร้องต่อนายชวน เพราะเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดเสมอว่า มาตรฐานทางจริยธรรม และความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์สูง เพราะเป็นสถาบันการเมืองมา 63 ปี จึงอยากทราบว่านายชวน จะดำเนินการอย่างไร ในฐานะผู้ใหญ่ของพรรค
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า จะเดินทางไปยื่นหนังสือประท้วงนายกษิต ต่อเลขาธิการอาเซียน ในระหว่างที่มีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่จ.ภูเก็ตในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อให้ที่ประชุมทราบว่า ประเทศไทยมีรัฐมนตรีที่ไม่มีสัจจะวาจา แล้วที่ประชุมจะรับได้หรือไม่ และขอยืนยันว่าไปยื่นแล้วก็กลับ ไม่มีม็อบแน่นอน
นปช.ชุมนุมหน้ากต.ไล่"กษิต"
เวลา 09.30 น. วันเดียวกันนี้ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำนปช. พร้อมด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงได้ไปชุมนุมที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกดดันให้นายกษิต ลาออกจากตำแหน่ง โดยนายจรัล กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงจะทำหนังสือถึงผู้นำทุกประเทศที่จะเข้าร่วมประชุมอาเซียนซัมมิต +3 +6 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าอย่าเข้าร่วมเจรจากับผู้ก่อการร้ายปิดสนามบิน
ด้านนายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจความเห็นประชาชนกว่า 60% เห็นว่านายกษิต ควรลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะนายกษิต เป็นรัฐมนตรีในกระทรวงที่ถือเป็นหน้าตา เป็นตัวแทนของประเทศในเวทีโลก ตำแหน่งที่นายกษิต นำติดตัวไป ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศมีปัญหา พรรคประชาธิปัตย์ เคยออกมาเรียกร้องให้คนนั้นคนนี้แสดงมารยาททางการเมือง เคยแสดงความชื่นชม ตอนที่อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้โดดหน้าผาฆ่าตัวตาย ว่าเป็นการแสดงสปิริต วันนี้ก็อยากเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี เช่นกันว่าไม่ต้องรอให้กระบวนการตัดสินความผิดชัดเจน นายกษิต ควรแสดงสปิริตลาออกเอง และอยากให้นายกฯ พิจารณาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขณะนี้ภาพลักษณ์ของประเทศก็ตกต่ำพอแล้ว อย่าให้ตกต่ำมากไปกว่านี้เลย
กดดันทั้งในสภา-ข้างถนน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายกษิต และพรรคประชาธิปัตย์ อ้างว่ายังมีอีกหลายขั้นตอน กว่ากระบวนการพิจารณาคดีนี้จะเสร็จนั้น พฤติการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ ควรคิดถึงมารยาททางการเมือง ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมความกล้าหาญของพนักงานสอบสวน ที่ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา การแจ้งข้อหาผู้ก่อการร้าย ถือว่าไม่ได้รุนแรงเกินความจริง เพราะการบุกยึดสนามบินนานาชาติ ถือว่าเข้าองค์ประกอบความผิดฐานผู้ก่อการร้ายแล้ว หากนายกฯ ยังปล่อยให้ความเป็นฝ่ายบริหาร เข้าไปแทรกแซงการทำสำนวน ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม จะสร้างความเสียหายแก่กระบวนการยุติธรรมทั้งระบบในระยะยาว เห็นว่าถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเสียสละ อย่าดึงปัญหาของนายกษิต เพราะกลัวปัญหาความวุ่นวายภายในพรรค หากต้องมีการปรับครม.
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ออกมาเรียกร้องหลายวันแล้ว แต่นายกษิต และพรรคประชาธิปัตย์ยังคงยืนกรานไม่ต้องออก จะมีมาตรการกดดันอย่างไรต่อไป นายไพจิตร กล่าวว่า ทันทีที่เปิดประชุมรัฐสภา เรื่องนี้จะเป็นประเด็นที่เราต้องทวงถาม และติดตามจากนายกรัฐมนตรี เพราะ ที่นายกฯตั้งกฎเหล็กเอาไว้ 9 ข้อนั้น จะทำให้เป็นจริง หรือเป็นแค่ลมปากเท่านั้น ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวนอกสภา ก็จะมีการชุมนุมขับไล่นายกษิต ตลอด ไม่ว่าจะไปพบปะประชาชนที่ไหนก็ตาม ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนนายกษิต ก็คงชุมนุมกดดันให้นายกษิต อยู่ในตำแหน่งต่อไปชั่วกาลนาน ซึ่งเราเป็นห่วงว่า อาจมีกระบวนการกดดันไม่ให้อิสระกับพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องรักษาความสามัคคีภายในพรรคเอาไว้ หากปรับนายกษิต ออกจากตำแหน่ง ก็มีผู้ใหญ่ในพรรคที่เหมาะสม จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนเยอะ คงกลัวจะเกิดความวุ่นวาย แต่ตนอยากให้พรรคประชาธิปัตย์ มองข้ามปัญหาในพรรค โดยดูประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า นายกษิต ไม่มีความเหมาะสมตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งแล้ว ตนมองว่า ในบรรดาบุคคลในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ มีมาตรฐานสูง แต่เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น และนายอภิสิทธิ์ ไม่มีการดำเนินการใดๆ ถือว่ามองนายอภิสิทธิ์ ผิดไป อย่างไรก็ตาม นายกษิตควรเอาอย่างนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่แสดงสปิริตโดยการลาออกเป็นการแสดงความรับผิดชอบ
